ปิดตา

ปิดตา

เชื่อเถอะว่า หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อน หรือแม้แต่อาจจะเคยพูดด้วยตัวเองมาบ้างแล้วว่า... "มึงเกลียดใคร กูเกลียดด้วย"

เชื่อเถอะว่า หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อน
หรือแม้แต่อาจจะเคยพูดด้วยตัวเองมาบ้างแล้วว่า...
"มึงเกลียดใคร กูเกลียดด้วย" 
ซึ่งประโยคนี้ หากพูดในหมู่เพื่อน มันก็ดูเหมือนเป็นการแสดงความจริงใจในรูปแบบหนึ่ง "มึงว่าไง กูว่ากัน" ฟังดูแล้วรู้สึกหึกเหิมอย่างไรชอบกล ว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีพวกพ้องที่จะคอยหนุนหลังอยู่

แต่ฉันกลับสงสัยว่า... "ทำไมถึงต้องเป็นเช่นนี้...?"

มันดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ทำไมเราต้องเกลียดคนที่เขาไม่เคยทำอะไรให้เราด้วยนะ...
ทำไมต้องตัดสินใครคนหนึ่ง จากคำพูดของใครอีกคน ตราบใดที่เรายังไม่รู้จักเขาดีพอ เราควรลองให้โอกาสคนคนนั้นดูก่อนไหม

ฉันเคยตกอยู่ในสถานการณ์หนึ่งที่เรียกว่า "แบนเพื่อน" มาก่อน ซึ่งฉันเองก็ได้ยินคำพูดต่าง ๆ นานา ว่าทำไมเพื่อน ๆ ถึงแบนคนคนนั้น พอเราได้สัมผัสเขาจริง ๆ มันก็เป็นอย่างที่คนอื่นพูด แต่...มันจริงแค่เพียง 70% เท่านั้นเอง

คำถามคือ...แล้วอีก 30% ล่ะ? 
เขาคนนั้นมีบางมุม ที่ไม่เปิดเผยให้ใครได้เห็น แต่ฉันกลับได้รู้จักเขาในมุมนั้น ซึ่งฉันกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า คนคนนี้มีความดีอย่างน่าอัศจรรย์อย่างที่คนอื่นไม่มีโอกาสได้เห็นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ตัดสินเขาว่าเขาเป็นคนไม่ดีไปแล้ว

น่าผิดหวัง ที่ใครหลาย ๆ คนก็เชื่อ ในสิ่งที่มันไม่ดี แต่ไม่มีใครมองอีกด้านหนึ่งเลย คนทุกคนย่อมมี 2 ด้านเสมอ

ลองปิดตาข้างนึงดูบ้างก็ได้ ให้โอกาสในสิ่งที่เขาพลาด และมองอีกมุมที่เขามี คุณจะเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และไม่เกลียดใครเลยในชีวิต

อย่าหลับหูหลับตาเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดต่อกันมา แต่จงใช้ตาอีกข้าง หูอีกข้าง เพื่อฟังและมองด้วยหัวใจ...
ไม่แน่ว่า คุณอาจจะได้เพื่อนที่ดีที่สุด ก็เป็นได้

บันทึกหลังกำแพง
- นิลธารา -