ก้อนดิน

ก้อนดิน

หากคุณลองกำดินขึ้นมาหนึ่งกำ คุณสังเกตเห็นอะไรไหม... หากเป็นดินที่ชุ่มไปด้วยน้ำ คุณก็จะสามารถปั้นดินให้เป็นก้อนได้

วันหนึ่ง...ฉันนั่งลงกับพื้น เพื่อพักเหนื่อยจากความเหนื่อยล้าทั้งปวงที่ได้พบเจอมาทั้งวันแล้ว
บางครั้งความเหนื่อยล้าทำให้ฉันอยากนั่งลงกับพื้นดิน โดยปราศจากความกังวลว่ามันจะทำให้กางเกงของฉันต้องเปื้อนฝุ่น
แต่ทว่า...เพราะความเหนื่อยล้านั้น ทำให้ฉันสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างบนพื้น นั่นก็คือ ก้อนดิน ที่บ้างก็เป็นกลุ่มก้อน และบ้างก็แตกกระจายตามพื้น ชิ้นน้อยใหญ่ปะปนกันไป
ฉันมองมันอยู่อย่างนั้นแล้วจู่ ๆ ฉันก็หวนคิดถึงความสัมพันธ์ของผู้คนรอบ ๆ ตัวฉัน

หากคุณลองกำดินขึ้นมาหนึ่งกำ คุณสังเกตเห็นอะไรไหม...
หากเป็นดินที่ชุ่มไปด้วยน้ำ คุณก็จะสามารถปั้นดินให้เป็นก้อนได้
แต่หากเป็นดินที่แห้งกร้าน มันก็จะไม่สามารถปั้นได้ แต่มันจะกลายเป็นเพียงแค่เศษฝุ่นในกำมือ และมันอาจจะต้องร่วงหล่นลงจากมือของคุณในที่สุด การใส่ใจ ก็เช่นกัน...

เมื่อลองเปรียบเทียบ ก้อนดิน กับ การใส่ใจ ดูล่ะ มันก็ทำให้ได้ข้อคิดเหมือนกันนะ

มันก็เหมือนกับการเติมน้ำให้กับดินในกำมือของคุณ หากคุณรักษาความชุ่มชื้นให้พอดี มันก็จะไม่มีวันแตกออกจากกัน
หากใส่น้ำมากเกินไป ดินก้อนนั้นมันก็จะละลาย เปรียบเสมือนการจู้จี้จุกจิกมากเกินไป อาจทำให้อีกฝ่ายรำคาญได้
หากใส่น้ำน้อยเกินไป มันก็แห้งกร้าน เปรียบเสมือนการละเลยความรู้สึก อาจทำให้อีกฝ่ายน้อยใจ จนก่อให้เกิดการจากลาในที่สุด
ทุกอย่างต้องอยู่ในความ พอดี

รักษา ก้อนดิน เอาไว้ อย่าให้มันกลายเป็นเศษฝุ่นที่ทำให้เข้าตา เพราะมันอาจจะทำให้คุณต้องเสียน้ำตา...ก็เป็นได้


บันทึกหลังกำแพง
- นิลธารา -