แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 7 ความลับในใจ

"เด็กแบบเธอ...มันดึงดูดฉันมากเลยล่ะกุลสินี..."
ประธานสาวพูดออกมาอย่างแผ่วเบา พร้อมกับก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางช้า ๆ เดิมทีอารมณ์ของเธอก็สามารถจุดติดได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว ยิ่งมีกุลสินีเป็นคนจุดชนวนแล้วล่ะก็ มันจึงเป็นการเติมเชื้อเพลงให้อารมณ์ที่เคยคุกรุ่นยิ่งปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตีดาบก็ต้องตีตอนร้อน เดี๋ยวจะหมดอารมณ์ไปเสียก่อน ประธานสาวจึงรีบเร่งไปเสียทุกอย่าง เพื่อหวังจะดับไฟราคะในใจที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอลุกขึ้นพลิกตัวลงจากเตียงแล้วช้อนร่างของกุลสินีจับโยนลงกับเตียงอย่างแรง ทว่า...การกระทำของเธอกลับเรียกสติเลขาสาวกลับมาได้ทันที
"คุณภิญญา! อย่านะคะ!!"
"อะไรของเธอกุลสินี เมื่อกี้เธอยังเคลิ้มอยู่เลยนะ เธอไม่ได้ต้องการฉันงั้นเหรอ"
"มะ...ไม่นะคะ! อย่าทำแบบนี้เลยนะคะคุณภิญญา คุณทำแบบนี้ทำไม"
"เพราะฉันต้องการเธอไง ไม่ได้ยินที่ฉันบอกเหรอ" พูดจบก็โน้มตัวเข้าหาเลขาสาวอีกครั้งแต่กลับถูกผลักออกอย่างไม่ไยดี
"พอเถอะค่ะ!! วันนี้ฉันจะไปนอนข้างนอกเอง คุณนอนบนเตียงเลยค่ะ"
"หยุดนะ!!! เธอจะไปไหน!!? คืนนี้เธอต้องนอนกับฉัน นี่คือคำสั่ง!!"
"ไม่ค่ะ! อ๊ะ!! ปล่อยนะคะคุณภิญ...อื๊อ!!!" 
เมื่อภิญญาเห็นท่าทีอีกคนที่กำลังจะลุกหนีไป เธอก็กดร่างลงกับเตียงอีกครั้ง พร้อมกับก้มลงจูบด้วยความรุนแรงจนได้ยินเสียงอู้อี้ออกมาจากลำคอพร้อมกับกำปั้นที่พยายามทุบที่ลำตัวของเธอ มันยิ่งทำให้อารมณ์ปะทุเดือดขึ้นไปอีก เธอจึงจับข้อมือทั้งสองข้างของกุลสินีกดลงกับเตียงด้วยความโมโห
"กุลสินี!!! เธอกำลังทำฉันโมโหอีกแล้วนะ!!!"
เมื่อพูดจบ ภิญญารวบแขนทั้งสองข้างเอาไว้ที่เหนือศีรษะของกุลสินีพร้อมกับกดเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็ไม่ได้ปล่อยว่าง เธอเลิกเสื้อขึ้นและดึงบราลงจนหน้าอกพ้นบราออกมาในที่สุด ก่อนที่จะก้มลงครอบครองยอดปทุมถันสีอ่อนอย่างแรงจนกุลสินีถึงกับร้องลั่น
"อ๊าย!! หยุดนะคะ!! ฮึก ๆ คุณภิญญา!! ปล่อยนะ!!!" 
ยิ่งกุลสินีพยายามดิ้นแรงเท่าไหร่อีกคนก็ยิ่งรุกเธอแรงขึ้นเท่านั่น เธอทั้งดูดคลึงยอดปทุมถัน ทั้งใช้มืออีกข้างบีบคลึงที่หน้าอกอย่างแรงเพียงเพื่อที่ต้องการจะปลดปล่อยอารมณ์โมโหของตนเท่านั้น
"อ๊าย!!! ฮือ!! ฉันขอร้อง...ฮึก ๆ ปล่อยนะคะ!!!" แม้อีกคนจะร้องไห้อ้อนวอนเท่าไหร่ ภิญญาก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอแม้แต่น้อย จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งคร่อมร่างของกุลสินีเอาไว้ พร้อมกับพยายามกระชากอาภรณ์ชิ้นที่เหลือออกไปให้พ้น ๆ ราวกับสัตว์ป่ากำลังจะขย้ำเหยื่อ มือทั้งสองของกุลสินีที่พยายามฟาดและสะบัดออกยิ่งทำให้ประธานของเธอโมโหมากขึ้นเท่านั้น
"ฮือ!!! คุณภิญญา!!! ฮึก ๆ อย่าทำฉันเลย ฮึก ๆ"
"กุลสินี อยู่นิ่ง ๆ!!!"
"อ๊าย!!!!! ฮือ!! ฮือ!! ฮือ!!" 
ทันทีที่ภิญญาใช้มือล้วงลงผ่านกางเกง กุลสินีกรีดร้องออกมาราวกับคนกำลังตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก มือเล็กทั้งสองกำแน่นและสั่นเป็นเจ้าเข้า จนภิญญาถึงกับชะงัก
"กุลสินี! เธออย่ามาใช้ลูกไม้ตื้น ๆ นะ"
"ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ…" 
ภิญญามองดูคนที่อยู่ใต้ร่างของเธอที่ร่างกายสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเสียงครวญครางผ่านลำคอ ดวงตาทั้งสองเบิกโพลง ลมหายใจเหนื่อยหอบ เธอจึงมั่นใจได้ว่าอีกคนไม่ได้แกล้งเธอแน่ ภิญญาจึงจับมือทั้งสองของกุลสินีเอาไว้แน่น
"กุลสินี! เป็นอะไร!?"
"ฮึก ๆ ฮือ ๆ ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลย...ฉันกลัวแล้ว ฮือ…" 
เมื่อเห็นว่ากุลสินีไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง เธอจึงดึงอีกคนเข้ามากอดเอาไว้ทันที พร้อมกับลูบศีรษะเพื่อปลอบโยน เธอสัมผัสได้ถึงร่างกายที่สั่นเทาด้วยความกลัว จนทำให้เธอถึงกับเจ็บปวดในใจ
"ไม่เป็นไรนะกุลสินี ฉันไม่ทำอะไรเธอแล้ว ฉันขอโทษ"
"ฮือ ๆ ๆ ฮึก ๆ"
"เด็กดี...ไม่เป็นอะไรนะคะ อย่ากลัวฉันเลยนะ ฉันขอโทษ…" ภิญญาประคองร่างของเลขาสาวลงนอนช้า ๆ ก่อนจะดึงผ้าห่มมาปิดร่างที่เปลือยเปล่าท่อนบนเอาไว้ จากนั้นก็ซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม และประคองร่างของกุลสินีให้มาอยู่ในอ้อมกอดของเธออีกครั้ง
"ไม่เป็นไรนะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว"
จากสัตว์ป่าที่ดุร้าย ตอนนี้ประธานสาวแปรเปลี่ยนไปเป็นคนอ่อนโยนไปเสียแล้ว ไม่เพียงแต่คำพูดปลอบประโลมเท่านั้น แต่เธอยังพรมจูบที่หน้าผากคนในอ้อมกอด และพยายามลูบศีรษะเพื่อให้กุลสินีสงบลง ราวกับว่าเธอเป็นห่วงอย่างไรอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ต้นเหตุมันเกิดจากการกระทำของเธอทั้งนั้น
'ท่าทีที่อ่อนโยนของคุณแบบนี้ มันคือไม้ตายที่เอาไว้ใช้ปลอบสาว ๆ ที่คุณทำร้ายหรือเปล่านะคุณภิญญา' กุลสินีคิดในใจ
'ก่อนหน้านี้ยังดูเหมือนจะเคลิ้มอยู่เลย ทำไมถึงมีอาการที่หวาดกลัวแบบนี้อีกแล้วนะ…' ภิญญาคิดในใจ
"ดีขึ้นไหมเด็กดี" ภิญญาถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"ค่ะ…"
"ไม่ต้องกลัวนะเด็กดี...ฉันขอโทษจริง ๆ"
"ความจริง...ฉันเคยเกือบโดนรุ่นพี่ขืนใจ…" สิ้นเสียงพูดอันสั่นเครือจากร่างในอ้อมกอด ทำเอาภิญญาถึงกับชะงักด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อย ๆ ประคองใบหน้าของกุลสินีขึ้นมาช้า ๆ
"มองหน้าฉันกุลสินี บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ"
"ตอนอยู่ ม.4 ฉันมีแฟนที่เป็นรุ่นพี่ ม.6 ค่ะ เค้าหล่อมาก และเป็นที่หมายปองของ สาว ๆ วันหนึ่งเค้าอยากมีอะไรกับฉันที่โรงเรียน แต่ฉันไม่ยอม เค้าเลยพยายามที่จะขืนใจฉัน...ฮึก ๆ เค้าใช้ความรุนแรงกับฉัน...เค้ากดแขนฉันไว้กับพื้น แล้วพยายามถอดเสื้อผ้าของฉัน ฮึก ๆ ฮือ ๆ"
"ไม่เป็นไรนะ...ไม่ต้องเล่าแล้วกุลสินี ไม่เป็นไรนะ" 
กุลสินีพยายามเล่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นให้ฟัง จนเธอต้องร้องไห้ออกมาเพราะภาพในวันนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง ภิญญาจึงกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับลูบศีรษะปลอบเลขาสาวอยู่อย่างนั้น
"อย่าทำแบบนั้นกับฉันเลยนะคะ ฮึก ๆ ฉันหวาดกลัวคุณทุกครั้ง ที่คุณทำรุนแรงแบบเค้า ฮึก ๆ"
"ฉันขอโทษกุลสินี ฉันขอโทษจริง ๆ เด็กดี...ยกโทษให้ฉันนะ"
"ค่ะ ฮือ ๆ" 
กุลสินีค่อย ๆ เอื้อมมือกอดตอบประธานสาวอย่างช้า ๆ พร้อมกับร้องไห้โฮออกมาอย่างหนัก ภิญญาจึงได้แต่กอดเธอเอาไว้อย่างนั้นด้วยความรู้สึกผิดเต็มประดา
ยอมรับว่าในใจลึก ๆ เธอต้องการเลขาสาวเสียจนจะอดรนทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่เธอไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้...


เวลาผ่านไปไม่นานนัก หลังจากที่กุลสินีได้เล่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นให้กับภิญญาฟัง เธอสงบลงและหลับไปได้ด้วยอ้อมกอดอุ่น ๆ ของคนที่ทำร้ายเธอเองด้วยซ้ำ ภิญญาจึงค่อย ๆ ประคองศีรษะของเลขาสาวออกให้หนุนที่หมอนช้า ๆ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมาเพื่อที่จะสวมเสื้อผ้ากลับให้เลขาสาว แต่ทว่า...ด้วยความที่เธอคาดหวังในเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนตัวเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่แล้วนั้น ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงราวกับจะทะลักออกมา เธอจึงเอื้อมมือมาสัมผัสหน้าอกช้า ๆ ก่อนจะขยับฝ่ามือลูบไล้อย่างแผ่วเบา
"ฉันขอโทษนะกุลสินี…" สิ้นสุดเสียงพูด เธอก้มลงจุมพิตหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มจากความเหนื่อยล้า แล้วค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากมาที่ต้นคอระหงที่หอมเย้ายวนช้า ๆ โดยที่มือข้างหนึ่งยังคงลูบไล้ที่หน้าอกอยู่อย่างนั้น
"อือ…" เสียงครางดังออกมาแผ่วเบาจากร่างที่นอนอยู่แล้วรู้สึกตัวตื่นจากการกระทำของอีกฝ่าย แต่ครั้งนี้ก็สร้างความแปลกใจให้ประธานสาวอีกครั้ง เพราะ...ไม่มีการต่อต้านใด ๆ นอกจากท่าทีที่ราวกับกำลังเคลิบเคลิ้ม
ใช่...ตอนนี้เลขาสาวราวกับถูกสะกดจนเธอเคลิบเคลิ้มและหลุดเสียงครวญครางออกมา มันยิ่งทำให้ภิญญาไม่ลังเลที่จะเริ่มปลุกเร้าอารมณ์คนใต้ร่างต่อไป เธอเปลี่ยนเป้าหมายมาพรมจูบที่ใบหูข้างหนึ่ง และตวัดเลียอย่างช้า ๆ ลากยาวลงมาที่ต้นคอระหงอีกครั้ง ก่อนจะลากมาที่อีกด้าน ซึ่งกุลสินีก็เอียงคอรับจูบของเธอพร้อมกับหายใจหอบถี่เพราะถูกปลุกเร้าอารมณ์ได้สำเร็จ
"อา...คุณภิญญา…"
"ไม่ต้องกลัวนะกุลสินี…ฉันจะไม่รุนแรงกับเธอ…" เสียงแหบพร่าร้องบอกเพราะเธอต้องการอีกคนจนแทบจะอดรนทนไม่ไหว ซึ่งหญิงสาวก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายราวกับถูกสะกดด้วยการกระทำที่อ่อนโยนนี้
มือเล็กทั้งสองค่อย ๆ คล้องมาที่ท้ายทอยของภิญญาช้า ๆ พร้อมกับสอดเข้าไปใต้โคนผมนุ่มสลวย เจ้าตัวจึงถอนริมฝีปากออกจากต้นคอระหงก่อนจะก้มลงเลียริมฝีปากบางเป็นเชิงเย้าแหย่ จนอีกคนเผยอปากรับแล้วกดท้ายทอยลงมาประกบปากให้แนบแน่นขึ้น รสจูบและสัมผัสที่อ่อนโยน บวกกับบรรยากาศพาไป ทำเอากุลสินีรู้สึกร้อนวูบวาบและเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำของประธานสาวอย่างไม่รู้ตัว
มือเรียวข้างหนึ่งค่อย ๆ ลูบไล้ที่หน้าอกทั้งสองข้างสลับไปมา ก่อนจะเลื่อนลงมาที่หน้าท้อง จากนั้นก็เลื่อนลงผ่านกางเกงช้า ๆ เพราะกลัวจะทำให้อีกคนตกใจและเกิดอาการแบบเดิมขึ้นอีก
"อือ…" 
ปลายนิ้วเรียวค่อย ๆ ลูบไล้ที่กลีบดอกไม้ช้า ๆ จนร่างของอีกคนเริ่มดิ้นพล่านและกระตุกเป็นพัก ๆ ซึ่งภิญญาสัมผัสได้ว่าบริเวณกลีบดอกไม้นั้นเริ่มที่จะเปียกแฉะไปด้วยน้ำหวาน ทั้งเสียงครางกระเส่าบ่งบอกเป็นนัยว่า อีกคนพร้อมแล้ว...
"ซี๊ด…" 
เมื่อริมฝีปากคลายออกจากกัน ภิญญาก้มลงจูบที่หน้าอกพร้อมกับฝากร่องรอยเอาไว้ ไล่ลงมาที่หน้าท้อง ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกี่ยวขอบกางเกงดึงลงช้า ๆ และจูบไล่ลงมาถึงขาเรียวที่เริ่มอยู่ไม่สุข จนกางเกงหลุดพ้นจากเรือนร่างได้สำเร็จ จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไประหว่างขา แล้วก้มลงโลมเลียชิมน้ำหวานอย่างนุ่มนวลจนได้ยินเสียงกระเส่าดังออกมาอีกครั้ง
"อ๊า...อือ...อ๊า…" ลิ้นนุ่ม ๆ ตวัดเลียชิมน้ำหวานช้า ๆ จนคนที่ถูกกระทำเกร็งไปทั้งตัว
'ไม่นะ...ฉันจะร้องเสียงน่ารังเกียจแบบนี้ออกมาไม่ได้นะ…' 
แม้จะพยายามห้ามตัวเองเอาไว้ในใจ แต่กุลสินีก็ไม่อาจกดกลั้นเสียงอันน่ารังเกียจนี้เอาไว้ได้ เธอจึงใช้หลังมือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างถูกมือเนียนกุมประสานเอาไว้ที่ข้างลำตัว
"อือ…"
"อย่าปิดปากคนดี...ร้องออกมาสิคะ"
"อ๊า...อื๊อ...อ๊า…" 
มือเล็กคลายออกอย่างว่าง่ายก่อนจะถูกล็อกเอาไว้ด้วยมืออีกข้างของภิญญาที่ยังว่างอยู่ พร้อมกับครางเสียงกระเส่าออกมาจนสุดเสียงเพราะกลั้นเอาไว้แทบไม่อยู่แล้ว สัมผัสนุ่มที่ความสาวของเธอทำเอาร่างกายเธอสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน จนในที่สุดร่างของเธอก็กระตุกรับลิ้น ควบคู่ไปกับเสียงหอบที่แรงและถี่ขึ้น
ภิญญายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจพร้อมกับลุกขึ้นแล้วโน้มตัวลงจูบอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อีกคนตอบรับจูบของเธออย่างดูดดื่มราวกับถูกอารมณ์ความต้องการครอบงำจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ส่วนมือเรียวก็เปลี่ยนเป้าหมายมาลูบไล้ที่ความสาวที่เปียกชุ่มอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปช้า ๆ 
"อื๊อ!! คุณภิญญาคะ…จะ...เจ็บค่ะ"
"กุลสินี! นี่เธอยังซิงอยู่เหรอ!?" เมื่ออีกคนร้องออกมาเพราะความเจ็บ เธอถึงกับสะดุ้งแล้วผละร่างออกมาทันที กุลสินีพงกศีรษะตอบรับช้า ๆ ใบหน้าของเธอแสดงอาการเจ็บออกมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับกำหมอนเอาไว้แน่น
'แน่นขนาดนี้ คงยังไม่เคยจริง ๆ แสดงว่าเธอไม่ได้โกหกฉันสินะ'
"กลัวหรือเปล่ากุลสินี"
"ไม่ค่ะ...แต่เจ็บ"
"อืม...ไม่เป็นไรนะ มันเจ็บไม่นานหรอก"
"ซี๊ด...อ๊า...อ๊า…" 
เมื่อนิ้วเรียวค่อย ๆ ขยับหยอกเย้าภายในช้า ๆ ใบหน้าหญิงสาวสะบัดไปมาและครางเสียงกระเส่าออกมาอีกครั้ง พร้อมกับที่สะโพกแอ่นรับนิ้วเรียวเป็นจังหวะ
"อื๊อ!! อ๊า...อ๊า…"
"เจ็บอยู่ไหมคนดี…"
"ไม่ค่ะ...เสียวค่ะ...อืม...อา…"
"ขอเร็วกว่านี้นะ…" 
ทันทีที่นิ้วเรียวเริ่มเร่งจังหวะขึ้น ร่างอีกคนแอ่นบิดไปมาด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับเสียงครางลั่นห้อง สร้างความพึงพอใจให้กับประธานสาวเป็นอย่างมาก
"อื๊อ อื๊อ อื๊อ...อ๊า.."
"เสียวไหมคนดี..."
"เสียวค่ะ...อ๊า…" 
สิ้นเสียงตอบรับ ภิญญายิ้มออกมาแล้วก้มลงจูบอย่างดูดดื่ม มือทั้งสองข้างของกุลสินีคว้าที่แผ่นหลังเนียน ก่อนจะจิกแน่นเมื่อถูดปลดปล่อยอารมณ์จนร่างกระตุกเกร็งในที่สุด
"แฮก ๆ"
"เธอเป็นของฉันแล้วนะกุลสินี…" 
ภิญญาโน้มตัวลงนอนกอดร่างที่หอบหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรงอีกครั้ง พร้อมกับใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ปกหน้ามาทัดที่หู แล้วใช้นิ้วโป้งลูบไล้แก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางเป็นการปิดกิจ
'นี่ฉัน...เสียตัวให้คุณภิญญาแล้วงั้นเหรอ…'
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“ต่อต้านมาตั้งนาน แต่กลับพ่ายแพ้เพราะความอ่อนโยน T^T”