แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 1 ประธานสุดสวย

"ตรงนี้เป็นโต๊ะทำงานของคุณกุลสินีนะคะ ส่วนด้านหลังเป็นห้องของท่านประธานค่ะ ช่วงนี้ท่านประธานไปต่างประเทศ จะกลับมาอาทิตย์หน้า ส่วนนี่เป็นเอกสารที่คุณจะต้องศึกษารอท่านประธาน ท่านแจ้งมาว่าจะมาสอนงานคุณด้วยตัวเองค่ะ ระหว่างที่รอก็ลองอ่านดูก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ ปรึกษาฉันได้เลยค่ะ ฉันอยู่ห้องข้าง ๆ นี่เอง"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณ...เอ่อ"
"ไพลินค่ะ"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณไพลิน คุณเรียกฉันว่ากุลเฉย ๆ ก็ได้นะคะ"
"ค่ะคุณกุล งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ"
หญิงสาวหน้าตาสละสลวยดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับกุลสินี เธอแต่งกายด้วยชุดสุภาพ เก็บผมเรียบแต่ดูดี มาแนะนำโต๊ะทำงานของกุลสินีด้วยท่าทีที่เป็นมิตรก่อนจะเดินจากไปที่ห้องทำงานของตน กุลสินีจึงมองกองเอกสารบนโต๊ะก็อดไม่ได้ที่จะหนักใจ เพราะการที่ต้องมาเป็นพนักงานใหม่ในตำแหน่งเลขา มันไม่ใช่ทางของเธอเลยจริง ๆ
'ทำไมพ่อถึงอยากให้ฉันมาทำงานที่นี่นักหนา ถึงขั้นต้องไปขอร้องท่านประธานใหญ่ที่เป็นบริษัทพ่อด้วยตัวเอง เฮ้อ...แล้วนี่ท่านประธานบริษัทฉันเป็นใครยังไม่รู้เลย ทำไมต้องเป็นคนมาสอนงานฉันเองด้วยล่ะ หวังว่าจะไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ ที่อยากได้เลขาสวย ๆ มาทำงานด้วยหรอกนะ'
กุลสินีนั่งลงที่โต๊ะทำงานพลางถอนหายใจ ก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาอ่าน ไม่ว่าจะกี่หน้าต่อกี่หน้า เธอก็ไม่เข้าใจเลยสักนิด 
'ฉันจบนิเทศมานะ จะให้มาทำงานเลขาที่มีแต่เอกสารแบบนี้น่าเบื่อตายเลย คนหน้าตาสวย ๆ แบบฉันควรที่จะได้ไปทำงานที่ฉันรัก ถ่ายละคร ถ่ายเอ็มวี อะไรพวกนี้ยังดีกว่า อุตส่าห์ได้ไปเป็นนางแบบแล้วแท้ ๆ นี่อะไร...พ่อนะพ่อ อย่าให้รู้นะว่าไปทำอะไรผิดมา ลูกสาวคนนี้ไม่ยอมแน่'
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณกุลสินี ถอนหายใจบ่อยขนาดนี้ มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่า" ขณะที่กุลสินีบ่นในใจพลางกับถอนหายใจเฮือกนับสิบครั้ง มีเสียงชายหนุ่มดังมาจากทางด้านหลัง ทำเอาเธอถึงกับหันขวับ
"อะ...เอ่อ...ขอโทษนะคะ พอดีไม่ค่อยเข้าใจงานเท่าไหร่น่ะค่ะ"
"ฮ่า ๆ ก็จบนิเทศมานี่ครับ ไม่แปลกหรอกนะที่คุณจะไม่เข้าใจน่ะ"
"แล้วทำไมคุณก้องภพถึงรับฉันมาล่ะคะ" เขาคนนั้นคือผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่เป็นผู้รับเธอเข้ามาทำงานนั่นเอง
"อะไรกันครับ ก็คุณภิญญาเลือกคุณด้วยตัวเองขนาดนี้ ต่อให้จะเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะครับ"
"เอ๊ะ!? คุณภิญญา? คือใครเหรอคะ แม่ของท่านประธานเหรอคะ"
"นี่คุณกุลสินีไม่รู้จักคุณภิญญาเหรอเนี่ย ฮ่า ๆ เลือกคนแบบนี้มาได้ยังไงกันนะ..." เขาหัวเราะร่าด้วยท่าทีเย้ยหยัน ก่อนจะเดินจากไป ซึ่งกุลสินีรู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาเอาเสียเลย
'อะไรกัน ทำไมผู้ชายคนนี้ต้องหัวเราะเยาะฉันขนาดนี้ เหมือนจะมาทักทาย แต่ก็ไม่ใช่ แล้วคุณภิญญานี่คือใคร ทำไมมีอิทธิพลที่แม้แต่คุณก้องภพที่เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลยังปฏิเสธไม่ได้'
เวลาผ่านไปไม่นานนัก หญิงสาวพนักงานรุ่นน้องคนเดิมที่เคยมาต้อนรับเธอเมื่อตอนก่อนหน้าถือแก้วกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะด้วยรอยยิ้ม จนกุลสินีถึงกับคิ้วขมวด
"เอ๊ะ!? ของฉันเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ"
"ขอบคุณนะคะ ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่นา"
"ไม่ลำบากเลยค่ะ ขออนุญาตเรียกว่าพี่กุลได้หรือเปล่าคะ"
"ได้สิคะ ยินดีมากเลยค่ะ ว่าแต่น้องไพลินอายุเท่าไหร่คะ"
"ว้าว...ขอบคุณนะคะ ลินอายุ 22 ค่ะ ตอนแรกลินเกร็งมากเลย เห็นคนสวย ๆ แบบพี่กุลแล้วไม่กล้าตีสนิทเลยค่ะ" 
"เอ๊ะ? ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ พี่ไม่ใช่คนหยิ่งสักหน่อย"
"ดูก็รู้ค่ะว่าพี่กุลเป็นคนใจดี แต่เพราะเป็นคนที่ท่านประธานเลือกด้วยตัวเองแบบนี้ ลินเลยไม่กล้าเข้าหา"
"หือ…? หมายความว่าไงคะ ไหนคุณก้องภพบอกว่าคุณภิญญาเป็นคนเลือก แล้วทำไมน้องไพลินถึงบอกว่าท่านประธานเป็นคนเลือกล่ะคะ"
"อ้าว...พี่กุลไม่รู้จักท่านประธานมาก่อนเหรอคะ"
"ไม่ค่ะ ไม่รู้จักเลย"
"อะ...อ้าว...งั้น ลินว่าลินไปทำงานดีกว่าค่ะ"
"อ้าวน้องไพลิน! แล้วเอกสารที่พี่อ่านเสร็จแล้วให้เอาไปไว้ที่ไหนคะ"
"อ่านเสร็จแล้วเอาไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานท่านประธานได้เลยค่ะ ขอตัวนะคะ" สิ้นคำพูด พนักงานรุ่นน้องก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกไปทันที ราวกับกำลังเกรงกลัวใครบางคน หรือมีอะไรบางอย่างที่กุลสินียังไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ มันไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ กับการที่ใครต่อใครมาบอกว่าท่านประธานเป็นคนเลือกเธอเข้ามาด้วยตัวเอง
'ท่าทีของน้องไพลินนี่หมายความว่าไงนะ สรุปใครเป็นคนเลือกฉันมาทำงานกันแน่ แม่ของท่านประธานเลือกฉันเองเลยไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะมองว่าฉันใช้เส้นสายเข้ามาทำงานแน่ ๆ เฮ้อ...แบบนี้ฉันก็เสียหายหมดน่ะสิ'


กุลสินีเอื้อมมือจับที่ลูกบิดประตูก่อนจะแง้มเข้าไปช้า ๆ ทันทีที่เห็นภายในห้อง ริมฝีปากที่แต้มด้วยลิปสติกสีนู้ดก็อ้าออกอย่างอัตโนมัติ 
'ทำไมห้องทำงานถึงสวยแบบนี้นะ ดูหรูหรา สมฐานะจริง ๆ ถึงจะเป็นบริษัทลูกก็เถอะ เอ๊ะ! นี่ไม่ใช่เวลามามองสำรวจห้องท่านประธานนี่ ฉันต้องรีบเอาเอกสารวางไว้ที่โต๊ะแล้วต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด เดี๋ยวจะหาว่าฉันเข้ามาขโมยของ ตอนนี้คนอื่นยิ่งมองฉันไม่ดีอยู่ด้วย' 
ในขณะที่กุลสินีกำลังวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะ กุลสินีก็อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจห้องทำงานที่หรูหรานี้อีกครั้ง จนได้ยินเสียงผู้หญิงดูดุดันดังมาจากข้างหลัง ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้งโหยงเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
"ดูท่าจะชอบนะ...อยากเข้ามาทำงานข้างในไหมล่ะ" 
"อ๊ะ!? เปล่านะคะ!" เมื่อกุลสินีเห็นใบหน้าเจ้าของเสียงดุดันผู้นั้นทำเอาเธอถึงกับตกตะลึงกับความงดงามแบบไร้ที่ติ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอทำงานในวงการนางแบบและได้เห็นคนสวย ๆ มานับไม่ถ้วน แต่หากเทียบกับสาวสวยผู้นี้แล้ว เธอราวกับนางฟ้าเดินดินที่มีประกายระยิบระยับรอบตัวอย่างไรอย่างนั้น
'ผู้หญิงคนนี้คือใครกัน ทำไมสวยแบบนี้นะ ชุดสูทสีเทาสไตล์เกาหลี ทำให้เขาดูดีเป็นสิบ ๆ เท่าของฉันเลย ฉันว่าฉันสวยแล้วนะ...เค้าระดับนางฟ้าเลยล่ะ…'
"ก็ดูเหมือนจะชอบนี่ มองไปรอบ ๆ แล้วอ้าปากค้างแบบนั้น ท่าทีแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรล่ะ" สาวสวยพูด ก่อนจะยกโทรศัพท์สำนักงานขึ้นแนบหู
"ไพลิน เข้ามาหาฉันหน่อย…" เธอพูดเพียงแค่ประโยคเดียวจากนั้นก็ตัดสายไปทันที
'โอ้โห...แลดูจะใหญ่พอสมควรแฮะ เป็นผู้จัดการฝ่ายไหนกันนะ' ขณะที่กุลสินีกำลังพินิจพิเคราะห์ถึงสาวสวยผู้นี้ พนักงานรุ่นน้องคนเดิมก็เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะโค้งตัวลงเพื่อทำความเคารพ ยิ่งทำให้กุลสินีรู้สึกฉงนหนักขึ้นไปอีก
"สวัสดีค่ะคุณภิญญา ไม่คิดว่าคุณจะมาก่อนกำหนด ขออภัยนะคะที่ไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย"
'ฮะ!? คุณภิญญา!!! แม่ท่านประธานทำไมยังสาวแบบนี้เนี่ย!!!'
"อืม...อย่าคิดมากน่า เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบพิธีรีตอง"
"ขออภัยจริง ๆ ค่ะ แล้วเรียกฉันมามีอะไรให้ช่วยคะ"
"ย้ายโต๊ะเลขาเข้ามาในห้องให้หน่อยสิ"
"รับทราบค่ะ"
"คะ!? ยะ...ย้ายทำไมคะ" 
"ก็ดูเหมือนเธออยากจะมาทำงานข้างในไง" 
'เดี๋ยวก่อน!! เขาจะย้ายโต๊ะมาทำไม!? เพราะแค่เห็นฉันเมื่อกี้งั้นเหรอ มาทำงานต่อหน้าประธานแบบนี้ฉันเกร็งตาย!! ถึงเขาจะกลับมาอาทิตย์หน้าก็เถอะ ฮือ ๆ นี่ไม่มีใครกล้าขัดคุณภิญญาเลยเหรอ'
กุลสินีได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับไพลินที่ยกเก้าอี้เข้ามา พร้อมกับพนักงานผู้ชายอีกสองคนที่ช่วยกันย้ายโต๊ะทำงานของเธออย่างขยันขันแข็ง 
"ขอบคุณค่ะ" ภิญญากล่าวขอบคุณพนักงานของตนอย่างสุภาพ พร้อมกับยิ้มกลับไป พนักงานทั้งสามจึงโค้งตัวให้กับเธอและเดินออกไปจากห้อง
'ดูเหมือนเขาจะเป็นคนไม่ถือตัวนะ เฮ้ย! ฉันยังไม่ได้สวัสดีเขาเลย ตายแน่ฉัน!!'
"อะ...เอ่อ สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง"
"คุณผู้หญิง?" สาวสวยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน
"อะ…คะ...คือ ฉันไม่รู้ว่าต้องเรียกแม่ของท่านประธานยังไง คะ...คือ...เอ่อ"
"ฉันดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?" เธอว่าพลางกับเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะกอดอกด้วยท่าทีเคร่งขรึม ยิ่งทำให้กุลสินีรู้สึกทำตัวไม่ถูกหนักกว่าเดิม
"ไม่นะคะ! คุณดูสาว และก็สวยมากเลยค่ะ!! ไม่แก่เลยค่ะ เหมือนอายุ 20 เลยล่ะค่ะ อิจฉาท่านประธานเลยนะคะที่มีแม่ยังสาวแล้วก็สวยแบบนี้แฮะ ๆ" 
'โอ๊ยตายแล้ว...ทำไมเขาต้องทำคิ้วขมวดด้วย เขาโกรธอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย'
"กุลสินี เธอยังไม่ได้อ่านโครงสร้างบริษัทสินะ"
"เอ๊ะ!? อ่านแล้วค่ะ"
"ถ้าอ่านแล้วทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร?" เมื่อได้ยินสาวสวยพูดออกมาแบบนั้น กุลสินีถึงกับเสียวสันหลัง เธอจึงรีบเปิดแฟ้มเอกสารขึ้นมาทันที
'เฮ้ย!! ประธานบริษัทคือคุณภิญญาเหรอเนี่ย!!!! โอ้มายก็อต!!! พ่อจ๋าแม่จ๋า ช่วยลูกด้วย หนูจะโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกไหมเนี่ย แง ๆ ๆ'
แน่ล่ะ...ภาพสาวสวยที่ยืนเด่นเป็นสง่าตั้งแต่หน้าแรก คือท่านประธานบริษัทที่ ณ ขณะนี้กำลังยืนกอดอกจ้องมองกุลสินีราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันอย่างไรอย่างนั้น ใครจะไปคาดคิดว่าท่านประธานจะเข้ามาต้อนรับเธอแบบนี้ แล้วท่าทีที่เงอะงะของเธอ จะส่งผลต่อหน้าที่การงานหรือไม่ กุลสินีไม่อาจคาดเดาอนาคตอันใกล้ของเธอได้เลย
"ขอโทษนะคะ ที่เสียมารยาท พอดีฉันไม่ทราบน่ะค่ะว่าคุณคือประธาน ขอโทษจริง ๆ นะคะ" 
กุลสินียกมือไหว้ขอโทษขอโพยแบบยกใหญ่ ท่านประธานสาวสวยจึงยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาหาเธอช้า ๆ ซึ่งรอยยิ้มนั้นแลดูมีเลศนัยและดูไม่น่าไว้ใจเลยแม้แต่น้อย
'ทะ...ทำไม รอยยิ้มของเขาดูเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ…'
"ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย…" จู่ ๆ ภิญญาก็เดินมาจับมือของเธอที่กำลังพนมมืออยู่ พร้อมกับยื่นหน้ามากระซิบข้างหู จนเจ้าตัวถึงกับขนลุกซู่
"อ๊ะ!! ทะ...ทำอะไรคะท่าน"
"เรียกคุณภิญญาก็พอ ไม่ต้องท่านหรอก...นั่งสิ วันนี้ขอทำความรู้จักกันก่อนแล้วกัน" ภิญญากล่าวก่อนจะนั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทีที่สบาย ๆ แต่ก็ยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น 
'นี่เขาอารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นน่ะ โล่งอกไปทีที่ประธานเป็นผู้หญิงที่ใจดี ไม่งั้นฉันโดนฆ่าแน่ ที่ฉันต้องนั่งทำงานในห้องของเขาก็สบายใจไปเปราะหนึ่งล่ะนะ แต่ท่าทีของเขาเมื่อกี้ทำฉันรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้'
"นั่งสิ" ภิญญาส่งสายตาไปที่นั่งด้านข้างเพื่อเชื้อเชิญสาวสวยอีกคนให้นั่งลงข้างเธอ กุลสินีจึงนั่งลงอย่างว่าง่าย
"อายุ 24 ใช่ไหม?"
"ใช่ค่ะ"
"เด็กน้อย"
"คะ!?"
"ฉันอายุมากกว่าเธอ เพราะงั้น เธอก็เด็กน้อยล่ะนะ"
"เอ่อ...ค่ะ" 
"มีแฟนไหม?"
"ไม่มีค่ะ"
"อืม...ดี...เคยมีเซ็กซ์ไหม?"
"คะ?" 
'ทำไมถามเรื่องนี้เนี่ย!!!'
"ตกใจอะไร? ถามว่าเคยมีเซ็กซ์ไหม"
"ไม่เคยค่ะ"
"อืม...แปลก...ก่อนหน้านี้เคยถ่ายแบบชุดว่ายน้ำนี่ ไม่เคยมีเซ็กซ์นี่แปลกมากเลยนะ"
"เอ่อ...ฉันไม่เข้าใจว่าคุณภิญญาจะสื่ออะไรนะคะ แต่ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ขออนุญาตไม่ตอบอะไรที่ไม่เกี่ยวกับงานค่ะ"
"แต่ฉันเป็นเจ้านายเธอ ฉันอยากรู้อะไรต้องได้รู้" 
"เอ่อ…"
"ไม่เคยมีจริง ๆ เหรอ"
"จริงค่ะ...ที่ถ่ายแบบนั่นมันเป็นแค่งานค่ะ ถ่ายเสร็จก็รีบขึ้นสระ เซฟตัวเองอย่างดีค่ะ"
"น่าสนใจดีนะ…" ผู้เป็นนายตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มและสายตาของเธอดูมีเลศนัยอย่างไรชอบกล 
'สายตาที่เขามองมา ทำไมเหมือนพวกผู้ชายที่หวังจะลวนลามผู้หญิงแบบนี้ล่ะ บ้าเอ๊ย!! กุล!! แกคิดอะไรเนี่ย คุณภิญญาเขาเป็นผู้หญิงนะ'
"อยากลองมีไหม?"
"อะ...อะไรคะคุณภิญญา!?"
"เซ็กซ์ไง"
"ไม่ค่ะ! จนกว่าจะแต่งงาน"
"เฮ้อ...สาว ๆ สวย ๆ แบบนี้เนี่ย ควรที่จะได้เรียนรู้เรื่องสนุกหน่อยสิ จะเก็บไว้ให้สามีคนเดียวแบบนี้ไม่แฟร์เลยนะ…"
"ไม่ค่ะ...พอดีแม่สอนว่าไม่ให้ง่ายกับผู้ชายที่ไม่ใช่คู่ครองค่ะ"
"แล้วกับผู้หญิง…แบบฉันล่ะ?"
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“โอ๊ยยยยยย คุณภิญญ๊าาาาา ไปถามอะไรน้องคะ ตอนแรกมาก็รุกเลย ใจเย็นก่อน 5555”