แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 10 ลาออก

"อ๊าย!!! คุณภิญญา!!! อย่าเบรกแบบนี้สิคะ มันอันตรายนะคะ!!" 
ในขณะที่รถสปอร์ตคันหรูที่กำลังวิ่งอยู่แบบไม่เร็วมากนัก จู่ ๆ ประธานสาวก็เหยียบเบรกกะทันหัน กุลสินีถึงกับหน้าทิ่มพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปดุเสียงแข็ง แต่ภิญญากลับนั่งเงียบและกำพวงมาลัยรถยนต์เอาไว้แน่น
"คุณภิญญาคะ...เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
"อย่าเข้าใกล้ไพลินมาก"
"ทะ...ทำไมคะ"
"ฉันสั่งให้ทำก็ทำเถอะ!!"
"คุณภิญญาคะ คุณจะสั่งจะห้ามอะไรฉันก็ได้ แต่ใจคอคุณจะไม่ให้ฉันมีเพื่อนเลยเหรอคะ"
"แต่กับไพลินไม่ได้!!!"
"ทำไมล่ะคะ"
"เธอไม่ทันคนกุลสินี! ทำตามที่ฉันสั่งซะ!!"
"เฮ้อ...คนที่ฉันไม่ทัน ก็คงมีแต่คุณนั่นแหละค่ะ คุณคิดอะไรของคุณฉันไม่รู้เลย"
"เธอไม่มีทางตามฉันทันหรอก เข้าใจที่ฉันบอกใช่ไหม อย่าเข้าใกล้ไพลินมาก"
"ไม่รับปากนะคะ"
"กุลสินี!!!" เมื่อกุลสินีเห็นประธานสาวตวาดกลับมาพร้อมกับเอื้อมมือมาทางเธอ เธอก็รีบปัดมือออกราวกับรู้ทัน
"อย่านะคะคุณภิญญา นี่มันบนถนนนะคะ!!"
"เหอะ! เก่งดีนี่ อย่าคิดว่าเธอจะรอดได้ตลอดนะกุลสินี!!" ประธานสาวตอบกลับมาอย่างหัวเสียเมื่อถูกปฏิเสธ ก่อนจะรีบเหยียบคันเร่งแบบสุดเท้าจนรถพุ่งตัวออกอย่างแรง หากไม่ติดว่าเป็นเจ้านายกับลูกน้องล่ะก็ กุลสินีคงสั่งสอนให้เข็ดหลาบ ว่าการขับรถแบบนี้จะทำให้ทั้งสองได้เดินทางไปพบท่านยมราชเร็วขึ้น



"เรื่องสุดท้ายนะคะ...เป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัทของเราจะมีโปรเจ็กต์ใหญ่ ที่เรากำลังจะดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ แต่บริษัทคู่แข่งอย่าง ยิ่งคุณทรัพย์ดันชิงทำตัดหน้าเราก่อนแบบนี้ คงไม่ต้องสงสัยใครเลย นอกจากคนในบริษัทเราเอง…"
"แล้วคุณภิญญาสงสัยใครหรือเปล่าครับ"
"ใครสักคนในนี้นี่แหละค่ะ ฉันคิดว่าฉันรู้ค่ะคุณก้องภพ...ว่าใคร...เป็นหนอนบ่อนไส้ แต่ฉันแค่ยังไม่มีหลักฐานมามัดตัวคนทำแค่นั้น…"
"ฮ่า ๆ ไม่สมกับเป็นคุณเลยนะครับคุณภิญญา คนใหญ่โตแบบคุณ ไม่มีหลักฐานเล่นงานคนผิดเนี่ย...ไม่มืออาชีพเลยนะครับ…" เมื่อก้องภพพูดเหน็บแนมประธานสาวออกมาต่อหน้าที่ประชุม กุลสินีถึงกับหันขวับไปมองทันที
"คุณก้องภพคะ ช่วยให้เกีรยติท่านประธานด้วยนะคะ"
"อะไรกันครับคุณกุลสินี เด็กใหม่ด้อยประสบการณ์แบบคุณ นั่งเงียบ ๆ จะดีกว่านะครับ ฝากท่านประธาน...อย่าไว้ใจใครมากนะครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีความสามารถในการทำงาน เดี๋ยวจะพาทุกคนซวยกันหมด" ก้องภพพูดพร้อมกับมองหน้ากุลสินีด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม จนคนที่ถูกมองถึงกับกำปากกาแน่น
'เหอะ! กล้าหักหน้าคนอื่นในที่ประชุมแบบนี้ ต้องเป็นคนแบบไหนกันนะ ทำไมคุณภิญญาถึงไม่ตอบโต้ล่ะ…'
"เอาเถอะ...ขอบคุณนะคะคุณก้องภพที่หวังดี วันนี้ฉันขอปิดประชุมเพียงเท่านี้ค่ะ ฝากทุกท่านช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ ที่ได้มอบหมายไปด้วยนะคะ"
"รับทราบครับ/ค่ะ" 
ภิญญายิ้มให้กับเหล่าผู้จัดการและหัวหน้าในแต่ละฝ่าย ก่อนที่จะทรุดลงนั่งกับเก้าอี้เมื่อทุกคนออกไปจากห้องประชุมกันหมดแล้ว กุลสินีจึงรีบโผเข้าหาเธอทันที
"คุณภิญญาคะ! ไหวไหมคะ"
"อืม…"
"สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลยนะคะ"
"เครียดนิดหน่อย"
"ฉันว่าไม่นิดแล้วนะคะ กลับไปพักไหมคะ"
"ไม่! เธอไม่ได้ยินที่คุณก้องภพพูดเหรอ แค่นี้เขาก็มองว่าฉันไม่มืออาชีพแล้ว…"
"แต่ว่า…"
"ช่างเถอะ...เธอกลับไปทำงานได้แล้ว"
"เอ่อ...ค่ะ" 
ระหว่างที่กุลสินีเก็บเอกสารบนโต๊ะก็อดเป็นห่วงประธานสาวของเธอไม่ได้ เพราะเอาแต่นั่งหน้าตาเคร่งเครียด แล้วจู่ ๆ ก็ลุกเดินออกจากห้องประชุมไปโดยไม่พูดไม่จา เธอจึงรีบวิ่งตามออกไปเพราะกลัวว่าความเครียดสะสมจะทำประธานสาวจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน




"อ้าว...อุ่น วันนี้มีประชุมทำไมไม่บอกเขมล่ะ" 
เมื่อทั้งสองออกมาจากห้องประชุม ก็พบเข้ากับสาวสวยคนหนึ่งยืนรออยู่ที่หน้าห้องของประธานสาว เธอแต่งกายดูดีมีภูมิฐาน แถมยังสวยและหุ่นดีราวกับนางแบบ กลิ่นหอมโชยออกมาจากเจ้าตัว ต้องเป็นน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ราคาสูงลิ่วเป็นแน่
"เขมนั่นแหละ จะมาทำไมไม่บอกก่อนคะ เข้าไปข้างในกันเถอะ" ภิญญาเดินไปหาสาวสวยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ผิดกับท่าทีที่ดูเคร่งเครียดเมื่อสักครู่ ก่อนทั้งสองจะเดินเข้าไปในห้อง กุลสินีจึงนั่งลงที่โต๊ะทำงานพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด
'ใครกันนะ...ถึงขนาดทำให้คุณภิญญาอารมณ์ดีขึ้นได้แบบนี้ เรียกว่าอุ่นด้วย คงสนิทกันมากแน่ ๆ เฮ้อ...อย่าสงสัยสิกุล...เราจะไปสนใจเรื่องของคนแบบนั้นไปทำไมกัน' 
กุลสินีตบแก้มตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะตรวจสอบเอกสารรายงานการประชุม ตามแบบฟอร์มที่ไพลินให้มาดูเป็นตัวอย่าง
'น้องไพลินเคยเป็นเลขาให้คุณภิญญามาก่อนนี่เอง อายุแค่นี้ทำไมเก่งจังเลยนะ แต่ว่า...ทำไมถึงได้ย้ายไปอยู่ฝ่ายบุคคลล่ะ แปลกจัง…'
"ตรงนี้ฉันต้องให้คุณภิญญาเซ็นสินะ" 
กุลสินีพูดพลางลุกขึ้นเดินไปที่หน้าห้อง พร้อมกับเอื้อมมือเคาะประตูเพื่อเป็นการขออนุญาต
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
"ขออนุญาตนะคะคุณภิญญา" เมื่อพูดจบกุลสินีบิดลูกบิดเข้าไปช้า ๆ ในจังหวะที่เธอก้าวเข้าไปพร้อมกับก้มดูเอกสาร เธอได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมา เธอจึงเงยหน้าดูต้นตอของเสียง จนได้เห็นภาพอันล่อแหลมที่ทำให้กุลสินีถึงกับช็อกจนก้าวขาไม่ออก ประธานสาวจูบกับสาวสวยอีกคนอย่างดูดดื่มที่โซฟา
ทั้งสองกอดรัดกันนัวเนีย ในท่าที่ภิญญานั่งอยู่ แล้วมีอีกคนนั่งคร่อมอยู่บนตัก มือข้างหนึ่งของประธานสาวล้วงลงไปใต้เสื้อบีบคลึงหน้าอกของสาวสวยจนได้ยินเสียงครางผ่านลำคอเบา ๆ ก่อนที่คนที่อยู่ใต้ร่างจะสะดุ้งเมื่อเห็นว่าเลขาสาวยืนถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่หน้าประตู สภาพของเธอดูไม่ได้เลยจริง ๆ ราวกับทั้งสองกำลังจะบรรเลงบทเพลงเสน่หากันในห้องทำงานอย่างไรอย่างนั้น หากเธอไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน คงไม่ต้องสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่
เมื่อสายตาของทั้งสองสบประสานกัน ภิญญาทำหน้าตกใจเล็กน้อย กุลสินีจีงรีบออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูทันที มือของเธอสั่นเทา พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงราวกับจะทะลักออกมา เธอตั้งสติตัวเองสักพัก แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำพนักงานอย่างร้อนรน
"กุล...ใจเย็น ๆ นะ...นี่แกเป็นอะไรเนี่ย…" กุลสินีพยายามเรียกสติตัวเองแต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับรินไหลออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มือเล็กข้างหนึ่งกุมที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง มือข้างขวาค้ำที่อ่างล้างหน้า ก่อนจะปล่อยโฮออกมาในที่สุด
"ฮึก ๆ ฮือ ๆ"
"พี่กุล!! พี่เป็นอะไรคะ!!?" เมื่อรุ่นน้องสาวเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจเมื่อเห็นกุลสินียืนร้องไห้อยู่ที่หน้ากระจก โดยที่มือข้างซ้ายกุมที่หน้าอกเอาไว้ราวกับเจ็บหัวใจอย่างทรมาน เธอจึงรีบเข้ามาประคองรุ่นพี่ของเธออย่างร้อนรน กุลสินีจึงหันไปกอดเธอพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
"ไพลิน...ฮือ ๆ"
"พี่กุลเป็นอะไรคะ ไม่เป็นไรนะคะ ลินอยู่นี่แล้ว ไม่ร้องนะคะ…โอ๋ ๆ" ไพลินลูบหลังกุลสินีเพื่อปลอบโยนราวกับเธอเป็นเด็ก แต่ก็ช่วยให้อีกคนสงบลงได้ในเวลาเพียงไม่นาน
"เกิดอะไรขึ้นคะพี่กุล เล่าให้ลินฟังได้นะคะ"
"พี่โดนคุณภิญญาดุมาน่ะ ฮึก ๆ"
"ท่านประธานคงจะเครียดน่ะค่ะ ไม่เป็นไรนะคะ เวลาประชุมเสร็จ ท่านก็จะเป็นแบบนี้บ่อย ๆ" 
ไพลินพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้รุ่นพี่อย่างอ่อนโยน กุลสินีจึงยิ้มออกมา แล้วโผเข้าไปสวมกอดรุ่นน้องอีกครั้ง ทว่า...
แก๊ก!!
"อืม...โทษที" เมื่อจู่ ๆ ประธานสาวเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองถึงกับสะดุ้งโหยงแล้วแยกออกจากกันทันที ก่อนที่ภิญญาจะพูดออกมาเสียงแข็ง แล้วปิดประตู แต่จังหวะที่ประตูกำลังปิดลง เป็นจังหวะเดียวกับที่กุลสินีเห็นแววตาอันว่างเปล่าของประธานสาวที่กำลังจับจ้องมาที่เธอ มันทำให้เธอเจ็บแปลบที่หัวใจ มันผิดกับแววตาที่จ้องมองสาวสวยผู้นั้นราวฟ้ากับเหว นี่คงกำลังดูถูกเธอในใจอยู่เป็นแน่
"ทำไมท่านประธานมาเข้าห้องน้ำพนักงานล่ะ"
"ไม่รู้สิ จะตามมาด่าพี่ล่ะมั้ง เฮ้อ…"
"ไม่เป็นไรนะคะพี่กุล ถึงท่านจะชอบดุ แต่ท่านก็เอ็นดูพนักงานนะคะ ท่านเป็นคนที่ใจดีมาก พี่กุลอย่าคิดมากนะคะ"
"เอ็นดู!? อย่างเขาเนี่ยนะจะเอ็นดู เฮ้อ...พี่เจอแต่คำพูดแทงใจไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังชอบสั่งนั่นสั่งนี่อยู่ตลอด"
"ก็ท่านเป็นเจ้านายนี่คะ ไม่แปลกนี่คะที่จะสั่ง"
'จริงสิ...ฉันพูดมากไปแล้ว เกือบหลุดแล้วไหมล่ะ'
"นั่นสินะ เรากลับไปทำงานกันเถอะ ก่อนที่เราจะโดนคุณภิญญาด่า"
"พี่กุลดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ"
"ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะน้องไพลิน"
"ยินดีค่ะพี่กุล ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกลินได้เลยนะคะ ลินยินดีช่วยพี่ทุกอย่างเลย"
"ขอบคุณน้า...น่ารักกับพี่ตลอดเลย"
"ไปกันเถอะค่ะ" พนักงานรุ่นน้องยิ้มให้อย่างสดใส พร้อมกับเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้ากุลสินีอย่างแผ่วเบา ก่อนจะจับมือรุ่นพี่ของเธอแล้วจูงออกจากห้องน้ำ
เมื่อทั้งสองเปิดประตูห้องน้ำออกมา ก็พบกับสาวสวยเดินสวนมาพอดี ไพลินจึงรีบยกมือไหว้ทันที
"สวัสดีค่ะคุณอัปสร มาหาท่านประธานเหรอคะ"
"จ้ะ แต่จะกลับแล้วล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ" สาวสวยตอบพร้อมกับยิ้มให้ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ก่อนจะเดินจากไป กุลสินีจึงมองตามจนลับตา พร้อมกับความรู้สึกหวิว ๆ ในใจ เมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ก่อนหน้า
"เขาเป็นใครเหรอน้องไพลิน สวยมากเลย"
"คุณเขมน่ะเหรอคะ แฟนเก่าท่านประธานน่ะค่ะ"
"ฮะ!!? ฟะ...แฟน?? คุณภิญญามีแฟนด้วยเหรอ"
"ตกใจล่ะสิคะ ที่รู้ว่าแฟนท่านประธานเป็นผู้หญิง คุณเขมเป็นแฟนคนเดียวของท่านประธานค่ะ ท่านรักคุณเขมมาก แม้จะเลิกกันไปแล้ว ก็เหมือนจะตัดกันไม่ขาด เลยได้มาเจอกันบ่อย ๆ"
"ถ้ารักกันมาก ทำไมถึงต้องเลิกกันล่ะ"
"เพราะคุณเขมเป็นน้องสาวของบริษัทคู่แข่งน่ะค่ะ ครอบครัวของทั้งสองเลยกีดกัน บวกกับที่เป็นผู้หญิงทั้งคู่"
"งี้นี่เอง...แล้วทำไมน้องไพลินถึงรู้เยอะแบบนี้ล่ะคะเนี่ย เป็นโคนันเหรอ ฮ่า ๆ"
"ฮ่า ๆ พี่กุลก็...ลินเคยเป็นเลขาท่านประธานมาก่อนนี่คะ พวกเขาเลิกกันตอนที่ลินเข้ามาทำงานใหม่ ๆ พอดี แล้วช่วงที่ลินติดตามท่านไปทุกที่ ก็ได้เห็นเขาสองคนแอบมาเจอกันอยู่บ่อย ๆ เฮ้อ...ความรักที่ถูกกีดกันนี่ทรมานจังเลยนะคะ" ไพลินเล่าเรื่องทุกอย่างให้กุลสินีฟังที่หน้าห้องน้ำพลางกับถอนหายใจ ก่อนจะจูงมือกันเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานและแยกย้ายกันไปทำงานของตน
'ไหนบอกว่าไม่เคยรักใครไง...แต่ในใจยังมีคุณเขมอยู่เต็มหัวใจสินะ...หึหึ แกมันก็แค่ของเล่นให้เขาระบายอารมณ์เท่านั้นแหละกุล แกมันน่าสมเพชสิ้นดี…'



"อะไรกุลสินี!?" เมื่อกุลสีนีวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะ ประธานสาวจึงเงยหน้ามองเธอด้วยสีหน้าฉงน
"ลองอ่านดูสิคะ" เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น ภิญญาจึงหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วขยำกระดาษต่อหน้าเลขาสาว
"ทำบ้าอะไรของเธอกุลสินี!!!!?"
"พ่อฉันเป็นหนี้เท่าไหร่ ฉันจะไปหามาคืนเองค่ะ ต่อจากนี้ ปล่อยฉันไปตามทางเถอะนะคะ"
"เธอไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนพ่อฉันได้หรอก!!"
"เท่าไหร่ล่ะคะ!!? ถ้าฉันไปถ่ายแบบ ฉันหาเงินมาคืนคุณได้แน่!!"
"10 ล้าน!! มีปัญญาไหมล่ะ!!?"
"เฮือก!!! จะบ้าเหรอคะคุณภิญญา!!! พ่อฉันไปติดหนี้ครอบครัวคุณอะไรขนาดนั้น!!! อย่ามาล้อเล่นนะคะ ฉันไม่ตลก!!"
"หึหึ หน้าแบบเธอจะมีปัญญาหาเงินมากมายขนาดนี้มาได้เหรอ กล้ามากนะที่เขียนใบลาออกมาหาฉัน!! ไม่ใช่แค่เธอหรอกนะที่กล้า พ่อของเธอก็กล้า! ที่ให้คนหน้าตาแบบเธอมาแลกกับการยกหนี้ ต่อให้ฉันจะได้เธอกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็ไม่หนำใจหรอกกุลสินี มันเทียบผู้หญิงหน้าตาดีคนอื่น ๆ ไม่ติดหรอก รู้เอาไว้ซะ!!!" 
ภิญญาพูดพร้อมกับขว้างกระดาษที่ขยำแล้วใส่กุลสินีด้วยความโมโห เลขาสาวกำมือแน่นด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วพูดเสียงแข็งกลับไป
"คุณมันเลว...ฉัน...เกลียด...คุณ!!" เมื่อพูดจบกุลสินีหันหลังเดินออกจากห้องทันที แล้วรีบคว้ากระเป๋าของเธอวิ่งไปที่ลิฟต์เพราะเป็นเวลาเลิกงานแล้ว เมื่อเธอวิ่งออกมาที่หน้าบริษัทจึงได้พบกับชายชุดสูทรูปร่างกำยำที่มีหน้าที่รับส่งเธอยืนรออยู่ที่หน้าบริษัท เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
"ช่วยไปส่งฉันทีค่ะ"
"ได้ครับ ขึ้นรถเลยครับคุณกุลสินี" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินไปเปิดประตูรถตู้ให้เลขาสาว ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไปประจำที่นั่งข้างคนขับ
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมวันนี้ถึงกลับก่อนคุณภิญญาล่ะครับ"
"ฮึก ฮือ ๆ ๆ" กุลสินีนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยไม่สนใจชายหนุ่มลูกน้องทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านหน้า เธอเอาแต่ร้องไห้โฮ ไม่พูดไม่จาอะไรกับใคร เมื่อมาถึงที่คอนโดมิเนียม เธอวิ่งร้องไห้ขึ้นไปบนห้อง โดยที่ชายหนุ่มชุดสูทและกานต์ดามองหน้ากันด้วยความเป็นห่วง
"เกิดอะไรขึ้น" กานต์ดาเอ่ยถาม
"ไม่ทราบเหมือนกันครับ เธอร้องไห้ตั้งแต่ออกจากบริษัทแล้วครับ"
"หวังว่าจะไม่ถูกรังแกมาหรอกนะ เฮ้อ…"
"ผมก็กลัวว่าจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันครับ"
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“#กุลสินี T^T”