แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 15 กลับบ้าน

"คุณอุ่นคะ เสาร์หน้ากุลขอลาได้ไหมคะ"
"หือ? ลาทำไม"
"กุลอยากกลับบ้านค่ะ กุลติดต่อพ่อกับแม่ไม่ได้มาเป็นเดือนแล้ว กุลเป็นห่วงที่บ้าน"
"ไม่ได้นะ เธอจะกลับบ้านไม่ได้เด็ดขาด!!"
"กุลไม่ได้คิดจะหนีนะคะคุณอุ่น แต่กุลเป็นห่วงที่บ้านจริง ๆ กุลพยายามโทรหาพ่อกับแม่ทุกวัน ก็ไม่มีใครรับสายเลย กุลใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้"
"เข้าใจว่าเป็นห่วงนะ แต่เธอจะกลับบ้านไม่ได้!!"
"ขอร้องล่ะค่ะ...ถ้าคุณกลัวกุลหนี คุณจะไปกับกุลก็ได้นะคะ" เมื่อเลขาสาวพยายามขอร้องอ้อนวอน ภิญญาจึงทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"เฮ้อ...งั้นฉันจะเป็นคนพาเธอไปเอง"
"จริงเหรอคะ!?"
"อืม...ไปพรุ่งนี้เลยแล้วกัน เป็นวันอาทิตย์พอดี ถ้าไปกลับได้ใช่ไหม"
"ใจคอจะไม่ให้กุลนอนที่บ้านสักคืนเหรอคะ บ้านกุลไกลนะคะ ขับรถไปคงเหนื่อยแย่"
"เอาไว้ค่อยว่ากัน...งั้นรีบไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้เดินทางเดี๋ยวจะขับรถไม่ไหว"
"แต่นี่เพิ่งสามทุ่มเองนะคะ กุลยังนอนไม่หลับหรอก"
"งั้นต้องจัดก่อนถึงจะหลับใช่ไหม"
"คุณอุ่น!! ใจคอจะทำทุกคืนเลยเหรอคะ ให้กุลได้พักบ้างเถอะ ตอนนี้กุลทำงานอยู่ด้วย" เลขาสาวเอ็ดอีกคนที่นั่งเท้าคางมองดูเธออยู่ข้าง ๆ ก่อนจะหันมาจับจ้องจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพื่อทำงานของเธอต่อที่โต๊ะทำงานภายในห้องนอน
"เวลาตั้งใจทำงานก็น่ารักดีนะ"
"กุลน่ารักตลอดแหละค่ะ"
"อืม...โดยเฉพาะตอน….น่ารักเป็นพิเศษ" ประธานสาวพูดเว้นวรรคยาว ๆ แล้วอมยิ้มออกมา รอยยิ้มมีเลศนัยแบบนี้ กุลสินีรู้ได้ทันทีว่าหมายความว่าอย่างไร
"อะ…อะไรคะ!?"
"ตอนโดนจัด!"
"โอ๊ยคุณอุ่นคะ!! ถ้าจะพูดลามกไปนั่งไกล ๆ เลยนะ กุลไม่มีสมาธิทำงานนะคะ เฮ้อ…"
"ฮ่า ๆ เวลาโดนแกล้งยิ่งน่ารัก"
"คุณอุ่น!! เฮ้อ...กุลเหนื่อยกับคุณจริง ๆ เลย"
"ฮิฮิ เด็กน้อย…แล้วเมื่อไหร่จะเรียกฉันว่าอุ่นเฉย ๆ เหมือนตอนนั้นสักทีล่ะหืม?" ภิญญาพูดก่อนจะเอื้อมมือมาจับศีรษะกุลสินีโยกไปมาราวกับเธอเป็นเด็ก
"ไม่เอาดีกว่าค่ะ คุณเป็นถึงประธานบริษัท แถมเราก็ไม่ต้องปิดบังตัวเองด้วย เรียกแบบนี้มันดีแล้วค่ะ"
"อืม เอาเถอะ ไม่อยากเรียกก็ไม่อยากบังคับ"
'จะว่าไป...ตั้งแต่วันนั้นที่เขามาขอโทษฉัน เขาก็ดูเปลี่ยนไปมากเลยแฮะ คุณอุ่นดูอ่อนโยนและใจดีขึ้นเยอะ เฮ้อ...หัวใจฉัน...ฉันจะมีสิทธิ์หวังไหมนะ…'
แม้กุลสินีจะรู้อยู่เต็มอก ว่าเธอเป็นแค่เพียงของเล่นให้ประธานสาวระบายอารมณ์เท่านั้น แต่เพราะความอ่อนโยน และการดูแลเอาใจใส่ที่อีกฝ่ายมอบให้เธอมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา มันทำให้เธออดที่จะคาดหวังไม่ได้ ว่าอีกฝ่ายจะมีใจให้เธอบ้าง แม้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งกับที่เธอรู้สึกก็ยังดี...แค่สักนิด...ก็ยังดี...
"แปลกจังเลยนะคะ...ดูสิคะคุณอุ่น ยอดเงินที่หายไปแต่ละครั้ง เป็นยอดเงินที่หายไปพร้อม ๆ กับที่ฝ่ายบุคคลเบิกเพื่อจัดหาพนักงานใหม่โครงการจ็อบส์แฟร์ ทำไมจัดบ่อยขนาดนั้น! ครั้งนั้นคุณเซ็นอนุมัติจริง เบิกโดยผู้จัดการฝ่ายบุคคล...อืม...แปลก…" กุลสินีว่าพลางกับอ่านรายละเอียดบนหน้าจอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่อีกฝ่ายกลับดูใจเย็น และไม่ได้เป็นกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
"อืม...ไม่แปลกหรอก "
"ไม่แปลกยังไงคะ จัดโครงการบ่อยขนาดนี้ แล้วเหมือนจงใจให้คุณเซ็นบางโครงการ แล้วไปปลอมลายเซ็นในโครงการอื่น ๆ ด้วยตัวเอง ยังไงฉันก็ว่าแปลก"
"เก่งขึ้นเยอะเลยนี่ ก็นี่แหละถึงว่าไม่แปลก ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ วิธีการโง่ ๆ แบบนี้มันจะเกิดช่วงที่ทางบริษัทจัดโครงการ ฝ่ายบัญชีเลยไม่ได้เอะใจ เฮ้อ...น่าจะไล่ออกให้หมด สักแต่จะเร่งงานให้เสร็จจนไม่ตรวจสอบอะไรเลย สักแต่จะคีย์ตัวเลขลงในโปรแกรมหรือไงนะ!!"
"ใจเย็น ๆ นะคะคุณอุ่น แล้วคุณสงสัยใครเหรอคะ"
"สงสัยเธอ"
"ฮะ!!? เดี๋ยวนะคะ!! จะบ้าเหรอคุณอุ่น!! เราแทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลยนะคะ กุลจะเอาเวลาไหนไปโกงเงินบริษัทได้!"
"ฮ่า ๆ ไม่ได้สงสัยเรื่องนั้น"
"แล้วสงสัยเรื่องอะไรคะ"
"สงสัยว่าทำไมเธอถึงดึงดูดฉันขนาดนี้ ปกติฉันไม่มาอยู่กับใครหรอกนะกุล แต่กับเธอ ฉันอดคิดถึงเธอไม่ไหวจริง ๆ ทำไมฉันถึงแพ้เธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้นะ…" ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่กำลังจ้องมานั้น ชวนคิดชวนสงสัยเหลือเกิน ว่านอกจากเรื่องบนเตียงแล้วนั้น คนคนนี้จะชื่นชมเธอในเรื่องใดได้บ้าง กุลสินีไม่อาจรู้ได้เลย...
"กุลจะไปรู้ได้ยังไงคะ"
"เดี๋ยวมานะ"
"ไปไหนเหรอคะ"
"ลงไปหาคุณกานต์ดาก่อน"
"อะ...เอ่อ...ค่ะ" หญิงสาวตอบรับแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ก่อนที่ประธานสาวจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับคนกำลังรีบ ซึ่งเธอได้แต่มองตามตาละห้อย
"เฮ้อ…คุณกานต์ดาเป็นคนใจดีแบบนี้ คุณอุ่นจะเคยมีอะไรกับเขาไหมนะ เขาจะเป็นผู้หญิงในสต็อกอีกคนของคุณอุ่นไหมนะ...ถึงจะรู้จักกันมาตั้งแต่เกิดแล้วก็เถอะ อาจจะรู้จักกันหมดไส้หมดพุง ทั้งภายนอก...และภายใน… คุณอุ่นยิ่งเป็นคนแบบนั้นซะด้วยสิ ฮือ ๆ" กุลสินีบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะโน้มตัวฟุบลงกับโต๊ะ ด้วยความกระวนกระวายใจ



"ฮัดเช้ย!!!!"
"เป็นอะไรอุ่น ไม่สบายเหรอ"
"เปล่านะคะ แปลกเหมือนกัน ทำไมถึงจามได้"
"ฮ่า ๆ โดนใครบางคนนินทาล่ะมั้ง แล้วนี่ใจคอจะไม่กลับบ้านเลยหรือไง"
"ติดใจเด็กแถวนี้น่ะ"
"เฮ้อ...พี่ละอยากให้เขาเกลียดเธอจริง ๆ จะได้เลิกเห็นคนอื่นเป็นของเล่นสักที"
"อุ่นก็ไม่ได้เห็นเขาเป็นของเล่นสักหน่อย"
"ก็ไปมีอะไรกับเขาทุกคืน แต่ไม่ให้สถานะกับเขา แบบนี้ไม่เรียกว่าของเล่นหรือไง!!?"
"ก็อุ่นไม่ได้รักเขานี่ ถ้าให้สถานะไป เขาก็หึงหวงอุ่นสิ เป็นแบบนั้นเหนื่อยตาย" เธอว่าพลางกับยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ช่างขัดหูขัดตาพี่สาวอย่างกานต์ดาเสียจริง
"เหอะ!! เขาหนีไปแล้วจะรู้สึก!!"
"ไม่หนีหรอก หลังจากวันนั้นอุ่นดูแลกุลอย่างดี กุลถึงยอมมีอะไรกับอุ่นทุกคืนไง ว่านอนสอนง่ายชะมัด แบบนี้สินะที่ทำให้อุ่นติดใจ โอ๊ย!!" ภิญญาพูดด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ จนพี่สาวของเธอตบหน้าผากแรง ๆ ไปหนึ่งที
'จนป่านนี้ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกเหรอ ยัยโง่เอ๊ย!!!'
"พี่ไอ!! ตบอุ่นทำไม!!?"
"เธอมันโง่!!"
"ฮะ!? โง่อะไร!?"
"โง่ล้วน ๆ โง่แบบโง่!! โง่แบบไม่มีความฉลาดผสม!!"
"อะไรเนี่ยพี่ไอ!!?"
"ฮ่า ๆ หมั่นไส้!! แล้วทิ้งเขาลงมาหาพี่มีอะไร!?"
"ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย บอกเขาแล้วว่าจะลงมาหาพี่"
'เฮ้อ...ยัยโง่เอ๊ย!! อยากบีบคอ กระชากหัวใจออกมาให้ดูจริง ๆ ว่ามีเขาอยู่เต็มหัวใจขนาดนั้น ยังกล้าพูดว่าไม่ได้รักอีก!!' กานต์ดาคิดในใจ
"มีไรว่ามา!"
"พรุ่งนี้อุ่นต้องพากุลกลับบ้าน"
"ว่าไงนะ!!!? ไม่ได้นะอุ่น!!"
"เฮ้อ...ก็นั่นแหละที่อุ่นคิดหนัก แต่ตอนนี้ช่วยบอกให้ที่บ้านติดต่อมาหาที กุลคงเป็นห่วงพ่อกับแม่ของเขามาก"
"กว่าจะติดต่อมาได้ก็พรุ่งนี้เลยแหละอุ่น"
"เฮ้อ...ถ้างั้นจัดทีมคอยเซฟอุ่นกับกุลให้ทีนะคะ"
"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น เดี๋ยวพี่จัดการเอง ระวังอย่าให้กุลสงสัยก็พอ เปลี่ยนรถด้วยก็ดี"
"พี่ก็ให้มันเนียน ๆ แล้วกัน ไปละ" เมื่อภิญญาพูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกมาทันที จนพี่สาวถึงกับต้องถลึงตามองตามหลังเธอมา



วันถัดมา
"ทำไมวันนี้ใช้รถคันนี้ล่ะคะคุณอุ่น" กุลสินีถามด้วยความสงสัยหลังจากที่เดินขึ้นมาบนรถครอบครัวแบบ 5 ประตูสีดำคันใหญ่เทอะทะที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะโดยปกติแล้วเจ้าตัวมักจะขับรถสปอร์ต หรือรถคันเล็ก ๆ ที่ดูโฉบเฉี่ยวเสียมากกว่า
"เดินทางไกลก็ต้องใช้รถที่มันเหมาะกับการเดินทางไงคะ"
"อ๋อ...รถแบบนี้กุลช่วยขับได้พอดีเลย ถ้าเหนื่อยก็เปลี่ยนให้กุลขับนะคะ"
"เดี๋ยวใกล้ถึงทางเข้าบ้านค่อยเปลี่ยนนะคะ ให้นอนพักก่อน เพราะดูท่าแล้วน่าจะเพลียนะ"
"เพลียสิคะ บอกว่าอย่าทำตอนเช้าก็ไม่ฟัง เฮ้อ..."
"ฮ่า ๆ แต่ก็ชอบไม่ใช่หรือไง"
"ไม่ได้ชอบสักหน่อย แค่ปฏิเสธคุณไม่ได้ คุณดื้อกว่ากุลอีก ถ้าขัดขืนเดี๋ยวก็รุนแรงกับกุลอีกแหละ"
"ไม่แล้วคนดี ไม่รุนแรงแล้วค่ะ ไม่ทำอีกแล้ว"
"แน่ใจเหรอคะ!?"
"แน่ใจสิคะ"
"ถ้างั้นกุลของีบสักหน่อยนะคะ"
"ได้ค่ะ นอนเลยนะคะ ไม่ต้องห่วง" ภิญญาพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบศีรษะของกุลสินีอย่างอ่อนโยน เจ้าตัวจึงอมยิ้มออกมา ก่อนจะนอนตะแคงหันหน้าไปทางคนขับ
"ตั้งใจขับรถนะคะคุณอุ่น"
"จะไม่ตั้งใจก็ตอนเห็นเธอยิ้มนั่นแหละ"
"ทำไมคะ"
"อยากจอดรถจัดเธอสักรอบน่ะสิ"
"โอ๊ยคุณอุ่น!!! คนลามก!!!" เมื่อได้ยินแบบนั้นกุลสินีถึงกับทำหน้ามุ่ย แล้วพลิกตัวหันหลังทันที ภิญญาที่แกล้งอีกคนได้สำเร็จจึงลั่นเสียงหัวเราะออกมา
'บ้าเอ๊ย!! ในหัวมีแต่เรื่องแบบนี้หรือไง!? คนบ้า! คนโรคจิต! คนไม่มีหัวใจ!!'
อืด อืด อืด~
"สวัสดีค่ะคุณกานต์ดา"
"อุ่น เห็นรถห้าประตูสีดำกับสีขาวยี่ห้อเดียวกัน ทั้งสองคันไหม" เมื่อได้ยินเสียงจากปลายสาย ภิญญาจึงชำเลืองมองกระจกซ้ายขวา และกระจกมองหลัง ปรากฏเป็นรถยี่ห้อเดียวกัน ทั้งสีขาวและสีดำ กำลังขับตามเธอมา โดยเว้นระยะห่างจากรถของเธอไป 2 คัน
"เห็นค่ะคุณกานต์ดา"
"พี่อยู่คันสีขาว จะระวังหลังให้ เดี๋ยวให้กรรชัยนำหน้าไป อย่าขับเร็ว และระวังด้วย เข้าใจไหม? ถ้าเห็นรถคันไหนน่าสงสัยให้รีบแจ้งทันที"
"ไม่ต้องห่วงค่ะ"
"อืม แค่นี้แหละ ดูแลกุลสินีดี ๆ ล่ะ"
"เรื่องนั้นยิ่งไม่ต้องห่วงใหญ่เลยค่ะคุณกานต์ดา"
"ฮ่า ๆ โอเคค่ะคุณภิญญา...ท่านประธานของกุลสินี" กานต์ดาพูดหยอกล้อน้องสาวของเธอก่อนจะกดตัดสายไป ภิญญาได้ยินแบบนั้นจึงอมยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี
'ทำไมคุยกับคุณกานต์ดาแล้วต้องอารมณ์ดีขนาดนั้นนะ…' กุลสินีที่หันมามองตอนเธอคุยโทรศัพท์ถึงกับหวั่นใจ เมื่อเห็นคนที่ประธานสาวดูอารมณ์ดีขึ้นมาหลังจากที่คุยโทรศัพท์กับใครอีกคน ไม่ชอบความรู้สึกว้าวุ่นในใจแบบนี้เลยจริง ๆ
"คุณกานต์ดาโทรมาทำไมเหรอคะ"
"เขาบอกว่าขอให้เดินทางปลอดภัยน่ะ"
"อ๋อ...แค่นี้เหรอคะ"
"อืม...ทำไมคะ ต้องมีอะไรอีกเหรอ"
"เปล่าค่ะ…"
'แค่โทรมาบอกแค่นี้ถึงกับต้องอารมณ์ดีขนาดนี้เลยเหรอ เฮ้อ...กับฉันคุณเป็นแบบนี้ไหมนะ…'
"ฟังเพลงไหม"
"ค่ะ"
"ชอบฟังแนวไหน"
"หมอลำค่ะ"
"ฮะ!!? ฉันไม่ฟังนะ!!"
"ฮ่า ๆๆๆ กุลล้อเล่น!! กุลฟังได้หมดแหละค่ะ"
"อืม...งั้นฟังเพลงเกาหลีแล้วกัน" เมื่อพูดจบภิญญาเอื้อมมือมาเปิดเพลง พร้อมกับร้องออกมาอย่างอารมณ์ดี และโยกตัวไปตามเพลง จนกุลสินีอมยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นท่าทีของเธอ
'คุณอุ่น...น่ารักจัง…'
"ฉันชอบเพลงนี้"
"มันแปลว่าอะไรคะ"
"เธอคือทั้งชีวิตของฉัน…" เมื่อได้ยินคำตอบ กุลสินีอมยิ้มออกมา แม้จะรู้ว่าอีกคนจะไม่ได้บอกรักเธอก็ตาม
"กุลคะ…"
"คะ?"
"ขอจับมือหน่อยสิ"
"จับทำไมคะ"
"เร็วสิ" กุลสินียื่นมือไปอย่างว่าง่ายราวกับลูกหมาเชื่อง ๆ ภิญญาจึงกุมมือเธอเอาไว้แล้วจูบลงที่หลังมืออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอามาวางไว้ที่หน้าอกของเธอ
'การกระทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไงนะ...ไม่รักฉันแล้วทำแบบนี้ทำไม เฮ้อ...แต่ทำไม…หัวใจเขาเต้นแรงแบบนี้นะ' 
เพราะสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่หน้าอกข้างซ้ายของประธานสาว พานทำให้หัวใจดวงน้อยของกุลสินีเต้นแรงตามไปด้วย การที่ต้องใจสั่นกับการกระทำของอีกคนโดยไม่อาจต้านทานได้มันทำให้เธอจวนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ไหนจะอาการร้อนวูบวาบที่ช่วงท้องที่กำลังปั่นป่วน หรือเธอจะเสพติดอีกฝ่ายไปแล้วจริง ๆ เพราะไม่ว่าภิญญาจะทำอะไรก็ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูดไปเสียทุกอย่าง
เหงื่อกาฬเริ่มซึมออกมาที่หน้าผาก ก่อนมันจะถูกเช็ดออกด้วยหลังมือของประธานสาว ทั้งที่ยังคงกุมมือของกุลสินีอยู่เช่นเดิม มันยิ่งทำให้หัวใจของเลขาสาวเต้นแรงมากขึ้นเป็นเท่าตัว
"ทำไมเหงื่อออกล่ะ ร้อนเหรอคะ"
"เปล่าค่ะ"
"อืม...ถ้าร้อนหรือหนาวก็ปรับแอร์ได้เลยนะ"
"รับทราบค่ะ"
'อย่าอ่อนโยนกับฉันได้ไหมคุณอุ่น ฉันจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วนะ…"



"เดี๋ยวแวะปั๊มข้างหน้านะคะคุณอุ่น เพราะจะเข้าเขตบ้านกุลแล้ว"
"ได้ค่ะ ขับไหวใช่ไหม"
"ไหวค่ะ กุลได้นอนมาตามทางแล้วนี่นา คุณจะได้นอนพักด้วย"
"อืม...โอเค" ภิญญาตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะขับรถเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันเพื่อที่จะสลับกันขับ เมื่อพักผ่อนยืดเส้นยืดสายกันได้สักพัก กุลสินีจึงมานั่งที่คนขับ และภิญญาเดินถือถุงขนมขึ้นมานั่งเอนเบาะสบายใจเฉิบ
"รถคันนี้ไม่ใช่ของคุณใช่ไหมคะ"
"ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ ถ้าไม่ใช่ ฉันจะขับมารับเธอได้ยังไง"
"เอ๊ะ!? ไหนคุณเคยบอกว่าไม่ชอบให้ใครขับรถของคุณไงคะ เพราะรถคันนี้ไม่ใช่คันที่คุณรักสินะคะ"
"ฉันก็รักของ ๆ ฉันทุกอย่างนั่นแหละ รถคันนี้ฉันก็รัก"
"แล้วทำไมถึงยอมให้กุลขับล่ะคะคุณอุ่น"
"อืม...นั่นสิ...เพราะฉันไว้ใจเธอล่ะมั้ง"
"เอ่อ...กับคุณเขม...เคยได้ขับรถของคุณหรือเปล่าคะ"
"ไม่นะ เขาเป็นคนไม่ชอบขับรถน่ะ แล้วก็ไม่เคยนั่งรถคันนี้ด้วย มีเธอคนแรกเลย"
"เหรอคะ"
'ฉันมีสิทธิ์ที่จะดีใจไหมนะ…' กุลสินีคิดในใจ
"กุล กินขนมไหม" ภิญญาพูดพลางหยิบขนมออกมาหนึ่งแท่งแล้วยื่นให้กับคนขับ เมื่อเจ้าตัวอ้าปากกำลังจะงับแท่งขนม เธอก็ดึงออกมาเรื่อย ๆ จนอีกคนเอนตัวตาม กุลสินีจึงหันมามองค้อนเธอทันที
"คุณอุ่น! อย่าแกล้งกุลสิคะ กุลขับรถอยู่เห็นไหม"
"ฮ่า ๆ อยากกินเหรอ"
"ไม่กินเล่า!" กุลสินีทำหน้างอพร้อมกับทำปากขมุบขมิบราวกับเด็กกำลังไม่พอใจที่ไม่ได้กินขนมอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาภิญญาถึงกับหลุดขำพรืดเพราะเอ็ดเอ็นดูไม่ได้
"ฮ่า ๆ เด็กน้อย...น่ารักชะมัด อะ...อ้าม…" เมื่อกุลสินีกำลังจะอ้าปากงับแท่งขนม ภิญญาก็ดึงมือกลับแล้วหัวเราะอีกครั้ง เลขาสาวถึงกับกลอกตามองบน แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้บ่นอะไร ก็ได้ยินเสียงปลดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารข้างคนขับดังแก๊ก
"กุล…ถ้าอยากกินก็หันมา" กุลสินีหวังจะหันไปดูว่าอีกคนปลดเข็มขัดนิรภัยทำไมกัน แต่ทว่า...เมื่อเธอหันหน้าไปกลับถูกขโมยจูบอย่างหน้าตาเฉยจนเธอถึงกับดวงตาเบิกโพลง และรีบหักพวงมาลัยกลับคืน เพราะการกระทำเมื่อสักครู่ของประธานสาวมันทำให้รถเซเสียหลักเล็กน้อย
"เฮ้ย!!! คุณอุ่น!!! ทำอะไรของคุณคะเนี่ย!!"
"ฮ่า ๆๆๆ กินปากฉันอร่อยกว่าขนมตั้งเยอะ"
"โอ๊ย!! คนโรคจิต!!"
"ฮ่า ๆๆ กินอีกไหม"
"ไม่ค่ะ!! นอนไปเลย อย่ามากวนกุลนะ!!"
"ฮ่า ๆ เฮ้อ...เด็กหนอเด็ก" เธอพูดพลางหยิบขนมขึ้นมากัดกรุบ ๆ พร้อมกับอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้ตื่นตัวกับรถที่เสียหลักไปแม้แต่น้อย



"พ่อกับแม่ไปไหนนะ เหมือนไม่มีคนอยู่เลย แต่บ้านกลับสะอาดสะอ้าน อืม...แปลกแฮะ" เมื่อทั้งสองมาถึงที่หมาย กุลสินีเรียกพ่อกับแม่ของเธออยู่นาน แต่กลับไม่มีการตอบรับ เธอจึงเดินไปข้างบ้านเพื่อค้นหากุญแจบ้านที่กระถางต้นไม้ เธอจำได้ดีว่าพ่อกับแม่มักจะทิ้งกุญแจเอาไว้ที่นั่นเสมอหากออกไปนอกบ้าน ซึ่งวันนี้กุญแจดอกเดิมก็ยังถูกวางเอาไว้ที่เดิม เธอจึงนำไปไขประตูเข้าไป ก่อนจะสำรวจดูรอบ ๆ บ้านที่ดูเงียบราวกับไม่มีใครอยู่แต่กลับถูกทำความสะอาดเอาไว้อย่างดี
บ้านของกุลสินีเป็นเพียงบ้านปูนชั้นเดียวขนาดพอดีอยู่ บรรยากาศดูร่มรื่นเพราะหลังบ้านเป็นป่า และรอบ ๆ บ้านปลูกต้นไม้ ดอกไม้และกล้วยไม้เต็มไปหมด ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสวน แต่กลับดูอบอุ่น น่าอยู่ และไม่ได้ซอมซ่ออย่างที่ภิญญาคิด
'โอ้โห...น่าอยู่กว่าที่คิดแฮะ นึกว่าจะเป็นบ้านเก่า ๆ ซะอีก'
"เหนื่อยไหมคะคุณอุ่น กุลบอกแล้วว่ามันไกล ถ้าจะไปกลับคงไม่ไหวหรอก นี่แค่ขับมากว่าจะถึงก็ตั้งหนึ่งทุ่มแล้ว"
"งั้นนอนที่นี่คืนนึงแล้วกัน พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องลาหรอก ถือซะว่ามาดูงานกับฉัน"
"อย่าให้อภิสิทธิ์กุลขนาดนั้นสิคะคุณอุ่น กุลเป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ ควรมีสิทธิ์ลา มีสิทธิ์ขาด และถูกหักเงินเดือนได้เหมือนคนอื่น ๆ นะคะ"
"อะไรของเธอเนี่ย นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา เป็นคนดีอะไรขนาดนั้นน่ะ ถ้าเป็นคนอื่นคงขอบ้าน ขอรถกับฉันแล้ว"
"ฮิฮิ ก็บอกแล้วไงคะ ว่าคนแบบกุลมีคนเดียว คุณหาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วล่ะ"
"นั่นสินะ...งั้นให้รางวัลแทนแล้วกัน" ภิญญาพูดพร้อมกับเชยคางเลขาสาวขึ้นมา ก่อนจะก้มลงจูบโดยที่อีกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ แต่กุลสินีก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด ภิญญาผละริมฝีปากออกด้วยรอยยิ้มสุดแพรวพราว กุลสินีจึงรีบหลบสายตาทันที
"เขินเหรอ"
"เปล่าค่ะ"
"อืม...โดนไปหลายรอบแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ"
"เปล่าซะหน่อย!" พูดจบ เธอก็รีบเดินจ้ำอ้าวหนีออกไปทันที ก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เย็นเพื่อที่จะหาน้ำมาดื่มแก้กระหายเสียหน่อย ทว่า...เมื่อเธอเปิดประตูตู้เย็นออกมา เธอก็ต้องรีบเอามือบีบจมูกทันที
"อื้อหือ! ทำไมตู้เย็นอับแบบนี้เนี่ย เหมือนไม่ได้ใช้มานานเลย" เธอบ่นพึมพำเบา ๆ พลางเอื้อมมือเข้าไปหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม แต่ยังคงกลั้นหายใจเอาไว้เพราะกลิ่นอับที่ตีเข้ามาในจมูกเมื่อสักครู่ทำเอาเธอมึนศีรษะ
"พรูด!!! อะ แค่ก ๆๆๆ" เมื่อจู่ ๆ กุลสินีก็พ่นน้ำออกมาและสำลักน้ำจนหน้าแดง ภิญญาจึงรีบโผเข้ามาประคองเธอพร้อมกับตบหลังเบา ๆ
"กุลเป็นอะไรคะ อื้อหือ...กลิ่นเหล้านี่!!"
ขวดน้ำที่เลขาสาวยกขึ้นดื่มไม่ใช่น้ำเปล่าอย่างที่เธอเข้าใจ แต่มันกลับเป็นเหล้า 40 ดีกรีที่กลิ่นแรงจนภิญญายังต้องใช้มืออุดจมูก
"โอ๊ย!!! ใครมากรอกเหล้าใส่ขวดมาแช่ตู้เย็นแบบนี้เนี่ย แค่ก ๆ โอ๊ย!! บ้าที่สุดเลย!!" เธอว่าพลางกับเอามือมาลูบที่หน้าอก รู้สึกออกร้อนที่หน้าอกอย่างไรชอบกล มันต้องเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เป็นแน่
"โอ๊ย...ออกร้อนอะ"
"ไหวไหมกุล กินน้ำตามเข้าไปเร็ว" ภิญญาว่าพลางกับยกขวดน้ำดื่มขวดใหม่ให้กับกุลสินี ทว่า...
"พรูด!! แค่ก ๆ เฮ้ย!! ขวดนี้ก็เหล้า!!"
"โอ๊ย! เดี๋ยวออกไปซื้อน้ำให้แล้วกัน อย่ากินนะ!! เดี๋ยวเมา!!" ภิญญาพูดจบก็รีบวิ่งออกไปขึ้นรถทันที กุลสินีได้แต่ตบหน้าอกของตัวเองและพยายามตั้งสติเอาไว้
"ไม่นะ...ทำไมออกร้อนแบบนี้...อา…"
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“หึหึ...ตัดจบแบบนี้ ตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้นไหมน้าาา”