"ขอบคุณมากนะลูกที่ช่วยดูแลลูกจ๋าให้ ลูกจ๋าดื้อหรือเปล่า" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม พลางกับมองหลานสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟารับแขก คาดว่าคงไปเล่นสนุกจนหมดแรงเป็นแน่
"ไม่ดื้อเลยค่ะ น้องน่ารักมาก ๆ เลย ปกติเด็กวัยนี้จะซนหน่อย แต่น้องลูกจ๋าเชื่อฟังพวกหนูทุกอย่างเลยค่ะ" ซอลตอบด้วยรอยยิ้ม หลงเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
"เหรอ ปกติเขาไม่ค่อยเข้ากับใครเลย ออกจะเก็บตัวด้วยซ้ำ"
"ความจริงเขาไม่ใช่คนชอบเก็บตัวหรอกค่ะ เขาแค่ต้องการใครสักคนที่ให้ความสำคัญเขา" หลงตอบ
"เฮ้อ...นั่นน่ะสินะ เด็กก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่กันอยู่แล้ว แต่แม่เขาเนี่ยไม่ค่อยสนใจลูกเท่าไหร่ พ่อเขาก็เพิ่งเสียเมื่อไม่นานนี่เอง ป้าล่ะเหนื่อยใจจริง ๆ ลูกจ๋าแกไม่เหลือญาติพี่น้องแล้ว" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซอลและหลงจึงหันมามองหน้ากันแบบคิ้วขมวด
"อ้าว คุณป้าไม่ใช่ญาติของน้องลูกจ๋าเหรอคะ" ซอลเอ่ยถาม
"ไม่จ้ะ ป้าเป็นแค่คนรู้จักกับพ่อเขาน่ะ"
"แม่ก็ประสบอุบัติเหตุอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย แล้วน้องจะอยู่กินยังไงคะ มีใครดูแลหรือเปล่า"
"ป้าก็คงได้ดูแลแกไปก่อน เห็นแก่พ่อเขา พ่อน่ะเป็นคนดีนะ แต่แม่นี่สิ..." เธอผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง สีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีเอาเสียเลย ทั้งซอลและหลงเองก็เข้าใจดี จึงได้แต่มองเด็กน้อยด้วยความเห็นอกเห็นใจไปตาม ๆ กัน
"เดี๋ยวหนูกับหลงจะเข้าไปเยี่ยมแม่น้องที่โรงพยาบาลนะคะ"
"ไม่ต้องลำบากหรอกลูก แค่ช่วยดูแลให้ป้าก็เกรงใจมากแล้ว"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ หนูยินดี เพราะหนูเข้าใจความรู้สึกเขาดี" หลงตอบ
"สำหรับหนูพอได้ไปเที่ยวเล่นกับน้องลูกจ๋าก็รู้สึกผูกพันกับเขาไปแล้ว น้องเป็นเด็กที่น่ารักและฉลาดมากค่ะ พัฒนาการไวกว่าหลานหนูที่อายุเท่า ๆ กันซะอีก ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกหนูได้เลยนะคะ หนูจะซื้อเข้ามาให้ ไม่ต้องเกรงใจนะคะคุณป้า"
"ขอบคุณพวกหนูมากนะ เราอยู่ใกล้กันแท้ ๆ แต่ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ" หญิงวัยกลางคนหันไปทางหลง เธอจึงยิ้มตอบกลับไป
"หลงเขาพูดไม่เก่งค่ะคุณป้า เขาขี้อาย" ซอลพูดด้วยรอยยิ้ม
"ถึงว่าล่ะ แต่ละวันเห็นเล่นแต่กับพวกสีเทา" หลงคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะทวนคำพูดของหญิงวัยกลางคนอีกครั้ง
"สีเทา?"
"ก็ไอ้สีเทานั่นไง แมวตัวสีเทา ๆ ที่เราไปเล่นกับมันบ่อย ๆ แมวของป้านี่แหละ แต่มันชอบไปหลบอยู่ใต้พุ่มไม้ เพราะด้านใต้มีช่องเล็ก ๆ ให้ไปเที่ยวเล่นกับแมวบ้านอื่นล่ะมั้ง วันดีคืนดีเดินต่อแถวกันมากินข้าวอย่างกับเป็ด"
"อ้าว เจ้านำโชคคือแมวของป้าหรอกเหรอคะ หนูนึกว่ามันเป็นแมวจรจัดซะอีก"
"มารยามันเยอะนะ คนผ่านไปผ่านมาเป็นต้องซื้อขนมให้มันกินตลอด แต่ความจริงมันกินอิ่มนอนหลับ ไม่ต้องห่วงมันหรอก" หลงได้แต่ยืนทำตาปริบ ๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น จนซอลเองต้องแอบขำกับท่าทีของเธออยู่เงียบ ๆ เพราะอดเอ็นดูหลงไม่ได้ ก็เจ้าตัวแทบจะคลานเข่าเข้าหาเจ้าแมวเลยน่ะสิ
ร้ายนักนะ...
"ถ้างั้นพวกหนูขอตัวก่อนนะคะคุณป้า ไว้มีโอกาสจะเข้าไปหาน้องกับแม่ที่โรงพยาบาลนะคะ" ซอลรีบพูดตัดบท
"ป้าขอบคุณพวกเราอีกครั้งนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ปะหลง"
ทั้งสองต่างยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนด้วยความนอบน้อมก่อนจะวางตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งที่เดิมทีเคยเป็นตุ๊กตาหน้ารถของซอลวางไว้ในอ้อมกอดของเจ้าตัว
"ฝากบอกเขาด้วยนะคะว่าของขวัญจากพี่ซอลค่ะ"
"ขอบคุณที่เอ็นดูแกนะลูก"
"เป็นห่วงน้องลูกจ๋าเหรอ" ซอลเอ่ยถามขณะที่ยังขับรถอยู่ เพราะหลงเอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่ขึ้นรถแล้ว
"ค่ะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอก ป้าเจ้าของหอก็บอกแล้วนี่นาว่าแม่น้องปลอดภัย"
"ถ้าน้องรู้ น้องคงตกใจมากแน่เลย"
"ก็จริง แต่ยังไงน้องก็ต้องรู้อยู่ดี อย่าคิดมากเลยนะ เธอทำดีที่สุดแล้ว"
"ค่ะ" หลงตอบกลับมาเพียงคำสั้น ๆ เท่านั้น จนซอลอดเป็นห่วงไม่ได้
หลงเอาแต่นั่งเงียบ ถามคำตอบคำและมองออกไปที่นอกหน้าต่างรถยนต์มาตลอดทาง แม้สีหน้าของเธอจะดูเรียบเฉย แต่ซอลก็รู้ดีว่าภายในใจของเธอคงเป็นห่วงเด็กน้อยมากเพียงใด
"หลง ทำไมเธอถึงดูเป็นห่วงน้องลูกจ๋าขนาดนั้น"
"หลงแค่รู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน"
"เหมือนกันยังไง"
"เราสองคนต่างก็ถูกแม่ละเลย และมีคนพึ่งพิงแค่เพียงคนเดียว น้องลูกจ๋ามีแค่พ่อ ส่วนหลงมีแค่ยาย แต่สุดท้ายที่พึ่งพิงเดียวที่มีก็เสียไปจนเราต่างก็ไม่เหลือใครกันทั้งคู่"
"เธอคงลำบากมามากเลย"
"ใช่ค่ะ หลงลำบากมามากเลยรู้สึกเป็นห่วงน้อง"
"ไม่เป็นไรนะ เราก็ดูแลเขาเท่าที่เราจะทำได้ แต่เด็กเก่ง ๆ แบบนี้ถ้ามีคนอุปถัมภ์ก็คงจะดีนะ อ๊ะ!!!" เมื่อจู่ ๆ คนตัวเล็กก็อุทานลั่นทำเอาหลงถึงกับหันขวับ
"อะไรคะพี่ซอล"
"หรือจะให้พี่ชายเรามาเป็นผู้อุปถัมภ์ดีนะ อนาคตน้องไปได้ไกลมากแน่เลย"
"พี่ชายพี่จะยอมไหมคะ" หลงถามด้วยความสนอกสนใจ
"เราว่าน่าจะยอมนะ เพราะพี่ชายคนกลางเราไม่มีลูก อืม...เราว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยที่จะช่วยให้น้องมีอนาคตที่ดี"
"แล้วพ่อกับแม่พี่ล่ะ"
"เรื่องพ่อกับแม่ค่อยว่ากัน เราว่าให้พี่ชายเรากับพี่สะใภ้ได้มาเจอน้องลูกจ๋าก่อนเป็นไง พอได้ทำความรู้จักกันแล้วทุกคนต้องเอ็นดูน้องแน่ ๆ"
"ทำไมพี่ถึงมั่นใจขนาดนั้นว่าทุกคนจะโอเค"
"ต้องโอเคสิ พี่เราอยากมีลูกจะตาย แต่ตอนเช้าเราบังเอิญได้ยินพี่สะใภ้พูดว่าตัวเองไม่สามารถมีลูกได้ เราว่าทุกอย่างดูเหมาะเจาะลงตัวมาก ๆ ให้น้องลูกจ๋ามาอยู่ในการดูแลของครอบครัวเรา เธอว่าดีไหม!?" ซอลพูดด้วยความตื่นเต้น แต่หลงกลับรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย
"ครอบครัวพี่จะโอเคจริง ๆ เหรอคะ น้องไม่ใช่ลูกในไส้ พ่อกับแม่พี่จะยอมรับได้เหรอ"
"เถอะน่า...พวกท่านรักเด็ก เรามั่นใจว่ายอมรับได้แน่ แต่ถ้าเธอกังวล เธอก็ไปฟังความคิดทุกคนสิว่าทุกคนคิดอะไรกันอยู่ แล้วหลังจากนั้นเราจะหาทางหว่านล้อมให้ทุกคนยอมรับแต่โดยดีเอง คิคิ" เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แววตาของเธอยังแฝงไปด้วยความกังวลเพียงแต่ไม่ได้กลั่นออกมาเป็นคำพูดเท่านั้น
"ว่าไง วิธีนี้เธอโอเคไหม"
"ไม่ใช้วิธีฟังความคิดไม่ได้เหรอ"
"ทำไมล่ะ มันเป็นความสามารถที่เธอมีนะ เธอต้องเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สิ เรากำลังช่วยเด็กคนหนึ่งให้มีอนาคตที่ดี เธอไม่โอเคเหรอ"
"ไอ้โอเคมันก็โอเคอยู่หรอกค่ะ แต่..."
"ไม่ต้องมาแต่เลย ในเมื่อเธอว่ามันโอเค เธอก็ลงมือทำซะ เมื่อเราแก้ปัญหานี้ให้พี่ชายเราได้ เราก็จะได้พี่ชายมาเป็นพวกช่วยคุยกับพ่อและแม่เรื่องของเรา ก็วิน ๆ กันทุกฝ่ายนะ ดีจะตาย..."
"หลงจะพยายามนะ"
"ดีมากค่ะ แฟนเราเนี่ยเก่งที่สุดเลย ถ้าเรามีพลังวิเศษแบบเธอนะ เราคงเอาไปฟังเสียงความคิดทุกคนบนโลกนี้เลย น่าเสียดายนะที่เธอไม่เอาความสามารถนี้มาใช้ประโยชน์ อย่ากลัวและเก็บซ่อนมันสิ"
"มันไม่ใช่พลังวิเศษสักหน่อย"
"ก็ในเมื่อความสามารถนี้มีแค่เธอคนเดียวที่ทำได้ มันก็คือพลังวิเศษ"
"อ่า...ค่ะ"
แม้หลงจะตกปากรับคำไปแล้ว แต่ภายในใจของเธอกลับคัดค้านวิธีที่คนรักของตนเสนอมาให้ เธอเลือกที่จะเก็บความกังวลเอาไว้ในใจไม่พูดให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงสิ่งที่เธอเก็บซ่อนจนลึกสุดหัวใจ ยากที่ใครจะหยั่งถึงภายใต้ใบหน้าอันเรียบเฉยนี้ ยิ่งได้เห็นอีกฝ่ายดูมีความหวัง เธอยิ่งไม่กล้าที่จำทำลายความหวังนั้นด้วยน้ำมือของเธอเอง
"แล้วทำไมวันนี้พี่ไม่นอนที่บ้านล่ะคะ"
"บรรยากาศที่บ้านมันไม่น่าอยู่เท่าไหร่"
"ทำไมถึงบอกว่าไม่น่าอยู่ล่ะคะ"
"เพราะมันไม่มีเธอไง" หลงนิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไรกลับมา แต่สีหน้าของเธอแสดงออกได้ว่า เรื่องที่คนตัวเล็กพูดมันน่าเหลือเชื่อและเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจอย่างไรอย่างนั้น
"อะไร!? ทำไมทำหน้าแบบนั้น"
"พี่นี่หยอดเก่งเนอะ"
"แต่เธอก็ติดกับเรานะ"
"อ๋อ...ที่ผ่านมาเห็นหลงเป็นแค่เหยื่อสินะ"
"ใช่ อยากได้ต้องได้"
"พี่เป็นคนแบบนี้เหรอ"
"ฮ่า ๆ ล้อเล่น!! เราแค่หมายถึงว่า ทุกสิ่งที่เราทำไป มันทำให้เธอรักเราได้ แค่นี้มันก็คุ้มค่าแล้ว"
"ด้วยการมาป่วนชีวิตคนอื่นน่ะเหรอ เดินตามหลงกลับหอเอย หาเรื่องมาค้างที่หอหลงเอย วางแผนกินหลงเอย พี่เนี่ยยิ่งกว่านางร้ายในละครที่จ้องจะจับพระเอกอีกนะ" สิ้นคำของหลง ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้ามุ่ย และไม่ลืมที่จะหยิกเอวหลงไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว
"นี่แหน่ะ!!!"
"โอ๊ย ๆ ๆ เจ็บนะพี่ซอล!! มาหยิกหลงทำไมเนี่ย"
"ข้อหาหมั่นไส้!!!"
"หมั่นไส้อะไร รักเขาปานจะกลืนกิน"
"หลงตัวเอง"
"พี่นั่นแหละหลงตัวเอง คนบ้าอะไรมโนว่าตัวเองเป็นนางฟ้า"
"ฮึย!!! ถ้าไม่ติดว่าเป็นแฟนนะหลง เรากระโดดถีบเธอตกรถไปแล้ว!!!"
"ป่าเถื่อนที่สุดเลยอะ คนเรา อ๊ะ!!!"
"ฮึย!!! ไอ้หมาหลงเอ๊ย!!!"
ซอลแทบจะแยกเขี้ยวแปลงร่างเป็นร็อตไวเลอร์อยู่แล้วเพราะอดหมั่นไส้คนรักของตนไม่ได้ จนต้องต่อยต้นแขนเจ้าตัวไปหนึ่งที แต่หลงกลับแอบกระตุกยิ้มมุมปากที่ยั่วโมโหแฟนสาวตัวเล็กได้สำเร็จ
เมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียม หลงยืนมองสภาพห้องนอนที่เต็มไปด้วยสีชมพูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ รู้ตัวอีกทีเธอก็ชินกับการใช้ชีวิตท่ามกลางสีชมพูไปเสียแล้ว อย่างไรเสียเธอก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ก็คงต้องอยู่กับมันให้ได้
หลงยืนมองคนตัวเล็กเดินไปทิ้งตัวลงบนโต๊ะเขียนหนังสือที่มุมห้องนอนในสภาพที่อิดโรย ก่อนเธอจะหย่อนก้นนั่งที่โซฟาและนอนแผ่หลาด้วยความอิดโรยไม่ต่างกัน เพราะวันนี้ทั้งวันเธอต้องเล่นเครื่องเล่นผาดโผนเครื่องแล้วเครื่องเล่าเพื่อเอาใจทั้งคนรักและเด็กน้อย แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดแต่หากได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสมันก็คุ้มค่าแล้ว
"พี่ซอลทำอะไรน่ะ" หลงเอ่ยถามขณะที่คนตัวเล็กเอาแต่ก้มเขียนยิก ๆ ในสมุดเล่มเดิมที่เธอเคยสงสัยเมื่อครั้งก่อน เพราะทุก ๆ คืนซอลมักจะนั่งเขียนไป อมยิ้มไป บ้างก็นั่งหน้ามุ่ยอยู่คนเดียวจนเธออดแปลกใจไม่ได้
"เขียนไดอารี่" ท้ายที่สุดเจ้าตัวก็หลุดพูดออกมาอย่างคนลืมตัวเพราะง่วนแต่กับการเขียนไดอารี่เสียจนลืมสิ่งที่ตนเคยพูดเอาไว้
"เขียนอะไรคะ ทำไมถึงดูมีความสุขขนาดนั้น"
"ก็วันนี้เรามีความสุขมากนี่นา"
"หลงขออ่านได้ไหม"
"ได้สิ"
คงพูดแบบไม่ทันได้คิดแน่ ๆ แต่ถือว่าอนุญาตแล้วนะพี่ซอล... หลงคิดในใจพลางกับยิ้มมุมปาก
"เสร็จแล้ว เฮ้อ...วันนี้เหนื่อยจัง แต่ก็สนุกดีเนอะว่าไหม" ซอลพูดพลางกับยืดเส้นยืดสายบนเก้าอี้ ก่อนจะเดินมาที่โซฟาแล้วค่อย ๆ โน้มตัวลงนอนทับตัวของหลงเอาไว้ด้วยใบหน้าระรื่น
"ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องมานอนทับหลงด้วย ทำไมพี่ไม่ไปนอนบนเตียง"
"ไม่เอา เดี๋ยวเตียงเหม็น"
"ไม่คิดว่าหลงจะเหม็นพี่บ้างเหรอ"
"ไม่อะ เธอไม่เหม็นเราหรอก"
"ใครบอก เหม็นเต่า กลิ่นตุ ๆ อ๊ะ!!" พูดจบจึงถูกคนตัวเล็กหยิกแก้มไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว
"ทำไมเธอชอบพูดไม่ดีกับเราจัง น้องหลงเนี่ยประพฤติตัวไม่ดีกับพี่ซอลมากเลยนะคะ" หลงเพียงแค่ทำใบหน้าเรียบเฉยกลับมาเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านหรือผลักคนตัวเล็กออกแต่อย่างใด เธอชอบการกระทำแบบนี้เสียด้วยซ้ำ
"หน้าดุ! นิสัยก็ดุ! ดุยิ่งกว่าหมา!" ซอลกัดฟันพูดอย่างมันเขี้ยวพลางกับใช้นิ้วจิ้มไปตามใบหน้าของหลง ก่อนจะแหย่เข้ารูจมูกจนหลงต้องสะบัดหน้า
"ดื้อนะ"
"ทำไม ทีเธอยังชอบกวนเราเลย"
"ก็พี่ดื้อ"
"เธอน่ะดื้อกว่าเราอีก ทำไมไม่ทำตัวน่ารัก ๆ กับเราหน่อยล่ะ"
"กลัวพี่หลงเสน่ห์จนถอนตัวไม่ได้"
"แหวะ!!"
ใครล่ะจะไปคาดคิดว่าคนหน้าดุผู้นี้จะหลงตัวเองเป็นกับใครเขาด้วย จนซอลได้แต่เบ้ปากและยังไม่วายหยิกแก้มเจ้าตัวไปอีกครั้ง ก่อนจะใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางไต่ไปทั่วใบหน้าเย้าแหย่อีกคนพลางกับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย รอยยิ้มของเธอนั้นดูอย่างไรก็เจ้าเล่ห์เสียไม่มี
"ปูไต่...ปูไต่...ปูไต่..."
"ดื้ออีกแล้วนะ ปูที่ไหนจะมาไต่หน้าคน"
"ปูซอลไง ปูไต่...ปูไต่...คิก ๆ"
"สนุกไหม"
"สนุกสิ วันนี้เธอชมว่าเราน่ารักด้วยแหละ เรามีความสุขจัง คิก ๆ"
"ชมตอนไหน" หลงเลิกคิ้ว
"ชมตอนอยู่สวนสนุกไง เธอบอกว่าเราแต่งตัวน่ารัก ชอบพี่ซอลแต่งตัวแบบนี้เหรอคะ เดี๋ยวจะแต่งเอาใจเธอทุกวันเลยดีไหม"
"ไม่เอา กลัวคนมอง"
"หวงพี่ซอลเหรอคะ" ซอลใช้น้ำเสียงเย้าแหย่อีกคนที่เอาแต่ทำหน้าเรียบเฉยแต่หัวใจของเธอกลับเต้นระรัวจนซอลสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเพราะเธอนอนทับตัวของหลงอยู่ ซอลจึงอมยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอีกครั้ง
"ไปอาบน้ำได้แล้วพี่ซอล"
"เปลี่ยนเรื่องซะด้วย แสดงว่าหวงพี่ซอลใช่ไหมคะ"
"ไม่ค่ะ"
"ปากแข็งจังนะ"
"ไปอาบน้ำ" หลงพูดเสียงแข็ง
"อาบให้หน่อยสิ"
"ตลกละพี่ซอล"
"ทำไม? กลัวเป็นลมเหรอ"
"เลิกแกล้งหลงสักที ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ วันนี้หลงเหนื่อยมาก"
"ก็ได้ ๆ เพราะเป็นเด็กดีหรอกนะ เราจะเชื่อฟังเธอหนึ่งวันแล้วกัน" พูดจบซอลจึงผละตัวออกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ดังเดิม ก่อนจะใช้ปลายนิ้วชี้ลูบไล้ที่แก้มเนียนของหลงและจากไปด้วยความรู้สึกหวามไหวที่กำลังก่อตัวขึ้นทีละนิด
ทันทีที่ซอลหายเข้าไปในห้องน้ำ หลงกระเด้งตัวขึ้นด้วยลมหายใจที่หอบแฮกเพราะต้องกดกลั้นอารมณ์ที่คุกรุ่นของตนเอาไว้ ก่อนจะใช้มือเสยผมสีดำขลับของตนเพื่อเรียกสติให้คืนกลับมา
หัวใจของเธอเต้นระรัวหวามไหวกับการกระทำของอีกคนอย่างควบคุมไม่ได้ สายตาที่คนตัวเล็กมองเธอนั้นราวจะกลืนกินด้วยสายตาจนสะกดเธอได้อย่างอยู่หมัดโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าการกระทำของเธอนั้นทำให้หลงติดกับได้แบบเกินคาด
"พี่ซอล...ยั่วเก่งนักนะ..." หลงบ่นพึมพำพลางกับลูบหน้าอกของตนเพื่อคลายความรู้สึกตื่นตัวลง
เพราะการแต่งตัวที่ดูน่ารักเป็นพิเศษ ช่างย้อนแย้งกับสายตาและรอยยิ้มพิฆาตอย่างสิ้นเชิง หากให้เปรียบเทียบเจ้าตัวแล้วนั้น 'พี่ซอล' คงเป็นกามเทพรูปงามที่จ้องจะยิงธนูปักหัวใจใครต่อใครและเธอก็คือเหยื่ออันโอชะที่เจ้าตัวโปรดปรานเป็นแน่
หลงสะบัดศีรษะเรียกสติตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือที่คนตัวเล็กนั่งก่อนหน้านี้ เธอเปิดอ่านไดอารี่ที่เจ้าตัวหลุดปากให้การอนุญาตแบบไม่คิดพลางกับอมยิ้ม เพราะส่วนใหญ่เรื่องที่ซอลเขียนนั้นเป็นเรื่องของเธอแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น วิธีพิชิตใจคนเย็นชา วิธีมัดใจแฟน และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นชีวิตประจำวันของเจ้าของไดอารี่เล่มนี้
ใช่...ทั้งหมดนั้นรวมถึงแผนการร่วมรักกับเธอด้วยเช่นกัน แต่แผนการเหล่านั้นมันกลับล่มไม่เป็นท่า...
"พี่ซอลจริงจังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย..."
หลายนาทีผ่านไป...
แก๊ก!!
ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออกเผยให้เห็นร่างคนตัวเล็กนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทีที่สดชื่น ผมสีบลอนด์ทองของเธอถูกมัดเก็บรวบขึ้นด้านบนจนมองเห็นต้นคอระหงได้อย่างชัดเจน
หลงเหลือบมองพลางกับกลืนน้ำลายดังอึกอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะพยายามจดจ่อกับหนังสือนวนิยายแฟนตาซีที่เคยเป็นประเด็นเมื่อวันที่ทั้งสองพบกันครั้งแรก แต่หลงก็ละสายตาจากเธอได้เพียงประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เพราะกลิ่นหอมของสบู่อาบน้ำและใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเจ้าตัวช่างสสะกดสายตาเสียนี้กระไร
"หลง ทาครีมที่หลังให้เราหน่อยสิ"
"พี่ก็ทาเองสิ"
"ก็ถ้าทาถึงเราจะให้เธอทาให้ไหมล่ะ"
"แล้วปกติพี่ทายังไง"
"ทาเท่าที่ทาถึง"
"งั้นพี่ก็ทาเท่าที่ทาถึงแล้วกัน"
"ไม่เอา...ก็ในเมื่อมีคนทาให้แล้ว ก็ต้องให้เธอทาให้สิ นะคะ..." เพราะซอลใช้น้ำเสียงออดอ้อนพลางกับใช้สายตาพิฆาตอีกครั้ง แม้จะมองผ่านกระจกแต่มันก็ทำให้หลงคล้อยตามได้
หลงวางหนังสือนวนิยายลงบนโซฟาก่อนจะก้าวเข้าหาอีกคนด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก วันนี้คนตัวเล็กดูออดอ้อนเธอผิดปกติ ไหนจะการกระทำต่าง ๆ ที่ดูหยอกเย้าอารมณ์ของเธอเสียเหลือเกิน นี่คงเป็นอีกหนึ่งแผนการเป็นแน่ และแน่นอน...เธอทำสำเร็จ...
โลชั่นกลิ่นหอมละมุนที่เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงเจ้าตัวถูกชโลมบยแผ่นหลังเนียนช้า ๆ หลงพยายามลูบไล้ให้ทั่วไปพร้อม ๆ กับที่ผ้าขนหนูสีชมพูหย่อนลงจนถึงเอวเพื่ออำนวยความสะดวกในการทาโลชั่น โชคยังดีที่ด้านหน้ายังปิดที่หน้าอกเอาไว้ ไม่เช่นนั้นสติของหลงต้องเตลิดเป็นแน่
"เสร็จแล้วค่ะ"
"ทาด้านหน้าให้ด้วยได้ไหม"
"ด...เดี๋ยวพี่ซอล!!!" ยังไม่ทันที่ซอลจะเลิกผ้าขนหนูออก หลงก็รีบคว้าเอาไว้เสียก่อนจนซอลถึงกับหลุดขำพรืด หลงที่มีหน้าตาตื่นตระหนกมันทำให้อดขำไม่ได้
"ฮ่า ๆ อะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ทำอย่างกับไม่เคยเห็น"
"เปล่าซะหน่อย หลงไปอาบน้ำก่อนนะ"
"เดี๋ยว!" เมื่อหลงกำลังจะหันหลังเดินจากไป ซอลกลับคว้าที่ข้อมือของเธอไว้เสียก่อน
"อะไรคะ"
"ดูเธอเลิ่กลั่กนะ"
"อะไร เปล่านี่"
"คิดอะไรอยู่คะน้องหลง"
"ตัวหลงเหม็นมากเลย ขอหลงไปอาบน้ำก่อนนะคะ" หลงสะบัดมือออกและรีบเดินจากไปโดยพลัน ท่าทีของเธอมันทำให้ซอลหหลุดขำพรืดอีกครั้ง เธอน่ะไม่ต่างกับลูกกวางน้อยที่ติดกับแม่เสือสาวเข้าให้แล้ว
"หลงเอ๊ยหลง...คงยังไม่พร้อมสินะ เราจะไม่เร่งเธออีกแล้ว ให้มันค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปแล้วกันเนอะ" ซอลพูดด้วยรอยยิ้ม
อีกทางด้านหนึ่งหลังประตูห้องน้ำ หัวใจของหลงเต้นโครมครามจนควบคุมตัวเองแทบไม่ไหว เธอพยายามสูดหายใจให้เต็มปอดเพื่อดึงสติที่เตลิดไปแล้วให้กลับมาโดยเร็วที่สุด เพราะกลัวว่าตนจะหมดสติไปเสียก่อน หัวใจเจ้ากรรมของเธอราวกับจะทะลุออกมาจากอกเสียให้ได้ พี่ซอลนะพี่ซอล แผนการแต่ละอย่างนั้นไม่ต่างกับบททดสอบความแข็งแกร่งของหัวใจเธอ
"อำมหิตที่สุด..."
เมื่อการอาบน้ำสิ้นสุดลงพร้อมกับสติของหลงคืนกลับมาแบบเต็มร้อย เธอจึงเดินออกจากห้องน้ำด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่ทว่า...
กลิ่นน้ำหอมที่ตลบอบอวลไปทั่วห้องเป็นกลิ่นที่เธอโปรดปรานเพราะมันบ่งบอกตัวตนคนรักของเธอได้ดีที่สุด มันไม่ต่างจากฟีโรโมนที่ทำให้หลงติดกับดักได้อย่างง่ายดาย ยังไม่นับกับชุดนอนแบบชุดกระโปรงสายเดี่ยวที่สั้นเพียงแค่ต้นขาเท่านั้น นี่เธอหวังจะทำให้หลงตบะแตกหรืออย่างไร และแน่นอน...สติที่หลงพยายามรวบรวมก่อนหน้ามันได้หลุดลอยไปอีกครั้ง
"ทำไมใส่ชุดนอนแบบนี้" หลงเอ่ยถามเสียงดุขณะที่เจ้าตัวกำลังกระพือผ้าห่มดึงพรึบ ๆ ไม่ได้ฟังเธอเสียด้วยซ้ำ
"อะไร!? ทำไมมองเราแบบนั้น" ซอลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน เพราะหลงจ้องเธอตาเขม็ง
"ทำไมไม่ใส่ชุดชั้นใน!!?" หลงถามเสียงแข็ง เจ้าตัวจึงก้มมองเรือนร่างของตัวเอง ก่อนจะยักไหล่และก้าวขึ้นเตียงโดยไม่ยี่หระกับคำถามของเธอ
"พี่ซอล นี่พี่ยั่วอารมณ์หลงอยู่ถูกไหม"
"ไม่นี่"
"แล้วทำไมพี่ไม่ใส่ชุดชั้นใน"
"ตอนนอนใครเขาใส่กัน อึดอัดจะตาย ตอนนอนกับเธอเราเคยใส่ที่ไหน"
"แต่ปกติพี่จะใส่เสื้อยืดนอนไง มันไม่โป๊แบบนี้!!"
"เธอน่ะคิดมาก เหนื่อยก็รีบมานอนได้แล้ว เร็ว ๆ" ซอลว่าพลางกับใช้มือตบที่นอนดังตุบ ๆ แต่หลงกลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง
"พี่ซอล ไปเปลี่ยนชุดนอนใหม่เดี๋ยวนี้"
"ทำไมอะ"
"มันโป๊ไป"
"พูดอย่างกับไม่เคยเห็น เร็ว ๆ มานอน เราจะนวดให้"
"ไม่! ไปเปลี่ยนชุด"
"ทำไม!?"
"มันโป๊!!"
"โป๊แล้วจะทำไม ก็ในเมื่อคนที่เราใส่ให้ดูมันคือเธออะ!!"
"ถ้าจะใส่แบบนี้ก็อย่าใส่เลยดีกว่าไหม"
"ได้นะ มาถอดให้หน่อยสิ"
"พี่ซอล!!!" หลงตวาดลั่น เพราะเจ้าตัวดูจะกวนประสาทเธอเสียมากกว่า แต่หารู้ไม่...ว่าอารมณ์ของหลงนั้นคุกรุ่นเต็มทนจนจะอดรนทนไม่ไหวอยู่แล้ว
"จะเสียงดังทำไมคะน้องหลง มาค่ะ มานอนนะเด็กดี" เธอว่าพลางกับตบที่นอนดังตุบ ๆ อีกครั้ง
"นี่คือหนึ่งในแผนการของพี่ใช่ไหม"
"แผนอะไร?" ซอลยังคงทำไขสือ
"โอเค!!"
หลงรีบเดินไปปิดไฟห้องนอนทันทีที่พูดจบ แต่ซอลยังคงคิ้วขมวดเพราะไม่เข้าใขสิ่งที่หลงเป็นอยู่ในตอนนี้ ก็เพราะพวกเธอคิดสวนทางกันเลยน่ะสิ...
หลงที่กำลังคิดว่านี่คือหนึ่งในแผนการของคนรักที่จะร่วมรักกับเธอให้สำเร็จ โดยการสวมเสื้อผ้าแบบนุ่งน้อยห่มน้อยมายั่วอารมณ์ของเธอ แต่สิ่งที่ซอลคิดกลับตรงกันข้าม เพราะเธอเพียงแค่ต้องการสวมชุดนอนที่ใส่นอนได้แบบสบายตัวเท่านั้น หารู้ไม่...ว่าวิธีที่สำเร็จมันคือวิธีที่เธอไม่คาดคิดว่ามันจะสำเร็จ เพียงเพราะเธอคิดเยอะเกินไป
เมื่อซอลกำลังจะเอื้อมมือปิดโคมไฟหัวเตียง หลงกลับคว้าที่ข้อมือจนเธอถึงกับชะงัก ก่อนจะก้าวขึ้นคร่อมร่างของเธอเอาไว้และจับรวบมือทั้งสองกดไว้ที่เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว
"เธอจะทำอะไรน่ะ" ซอลเอ่ยถามเพราะแววตาของหลงนั้นดูดุดันราวกับจะฉีกเนื้อเธอเป็นชิ้น ๆ ด้วยมือข้างเดียว
"วันนี้หลงสู้นะบอกไว้ก่อน"
"ส...สู้อะไร!!?" คนตัวเล็กยังคงไม่เข้าใจการกระทำของคนหน้าดุในตอนนี้
หลงไม่ตอบคำถามแต่กลับก้มลงซุกไซร้ที่ต้นคอระหงราวกับเสือผู้หิวโหย ยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นโลชั่นที่เจ้าตัวชโลมบนเรือนร่างมันยิ่งทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นเริ่มจะปะทุเต็มทนราวกับเชื้อเพลิง
ร่างคนตัวเล็กดิ้นพล่านพยายามขัดขืนให้ถึงที่สุดเพราะตนคิดว่าถูกกลั่นแกล้ง โดยที่เธอก็ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าเธอเติมเชื้อเพลิงลงในใจของหลงได้สำเร็จแล้ว ยิ่งหลงซุกไซร้และพรมจูบที่ต้นคอระหงสลับซ้ายและขวา ซอลยิ่งพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ เพราะกลัวว่ามันจะเป็นเชื้อเพลิงเผาเธอเสียเอง
"หลง!!! อ๊ะ!! ออกไป!!! ปล่อยนะ!!"
"อ๋อ...แผนขัดขืนสินะ ได้...ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก
"หลง!!! ไอ้หมาหลง!!! ปล่อยนะ!!"
"ชู่ว...ชอบให้สวมบทบาทเป็นผู้ร้ายเหรอ พี่ต้องเป็นคนยังไงเนี่ย"
"เธอพูดอะไรของเธอเนี่ย ปล่อยเราเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!"
"อู้ว...ทำหน้าดุน่ากลัวจังเลย"
สิ้นเสียงพูด หลงจึงก้มลงซุกไซร้ที่ต้นคอของเธออีกครั้ง ซอลจึงพยายาทรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีกระเด้งตัวแบบสุดแรงจนหลงผละออกด้วยความตกใจกับปฏิกิริยาของเธอทำให้มือทั้งสองข้างหลุดพ้นจากพันธนาการได้สำเร็จ
"พี่ซอล พี่ชอบความรุนแรงเหรอ"
"เธอทำบ้าอะไรเนี่ย!!!?"
"ชอบแบบนี้เหรอ จริง ๆ เหรอเนี่ย" หลงทำหน้าครุ่นคิดเพื่อพินิจพิเคราะห์ถึงสิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนต่อไป ก่อนเธอจะหัวเราะในลำคอออกมาราวกับตัวร้ายในละครและก้มลงซุกไซร้ที่หน้าอก แต่ทว่า...
"ไอ้หมาหลง!!! ไม่หยุดใช่ไหม!!!?"
"อ๊าก!!!"
สองมือของซอลคว้าหมับที่ผมสีดำขลับ ก่อนจะกระชากออกอย่างแรงจนหลงถึงกับร้องลั่น ตามด้วยเท้าน้อย ๆ ยันเปรี้ยงเข้าที่ลำตัวจนร่างของหลงกระเด็นตกเตียงในที่สุด
"แอ๊ก!!!!"
โครม!!!!!
"คืนนี้ไปนอนโซฟาเลยนะไอ้หมาหลง!!!!"
"หลงผิดอะไรอ๊า!!!!?"