ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก!
เสียงจากไฟเลี้ยวรถเก๋งสีขาวที่ตั้งท่าจะออกตัวแล้วแต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวเจ้าของรถจะได้ออกไปไหน เธอสังเกตเห็นกระเป๋าเป้สีดำวางอยู่ใต้เบาะผู้โดยสารข้างคนขับ ซึ่งมันเป็นของเด็กปากแข็งที่เพิ่งจะหนีเธอลงจากรถไปก่อนหน้านี้เอง ซอลอมยิ้มพลางกับส่ายศีรษะไปมาอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะดับเครื่องยนต์และเอื้อมไปคว้าสายสะพายกระเป๋าเป้เพื่อไปส่งคืนเจ้าของ


"หลง! เธอลืมกระเป๋า..."
จังหวะที่ซอลเห็นหลังของหลงไว ๆ เธอก็รีบโผเข้าไปหาด้วยความดีใจ ก่อนจะเห็นร่างหญิงสาวสูงโปร่งคนรักเก่าของตนกำลังยืนจับมือหลงอยู่ ซอลถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ
"จีน!!! มาทำอะไรที่นี่!!?"
"อ้าว ไหนว่าวันนี้ไม่เข้าร้านไงซอล" 
ซอลละสายตาจากจีนทันที จึงได้เห็นหลงแสดงสีหน้าออกมาแบบไม่สู้ดีนัก นัยน์ตาสีดำที่มองมานั้นดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของซอลแทบหล่นฮวบ รู้สึกว่าร่างของเธอเย็นและชาจนไร้ความรู้สึก ไม่ใช่แค่ชื่อที่จีนเรียกเธอเท่านั้น แต่ทั้งสองยังสัมผัสมือกันและกันแบบนี้ หลงคงได้ยินความคิดของจีนเข้าให้แล้ว
"ขอบคุณที่เอากระเป๋ามาให้นะคะ"
"ล...หลง หลง!" 
หลงไม่แม้แต่จะสบตาเธอ นอกเสียจากคว้าสายสะพายกระเป๋าเป้และเอี้ยวตัวเดินจากไปอย่างไม่ไยดี แม้เธอจะเรียกเอาไว้ หลงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหันมาหาเธอแม้แต่น้อย ซอลจึงหันไปถลึงตาใส่จีนด้วยความโกรธ
"จีน!!! รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป!?"
"เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าซอลยังไม่ได้บอกความจริงกับหลง!?" 
"เฮ้อ..." 
ซอลทำได้แค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่และพยักหน้าอย่างคนสิ้นหวัง ส่วนจีนนั้นถึงกับต้องใช้มือเสยผมประบ่าสีดำของตนด้วยความหนักใจไม่ต่างกัน
"เอาไงดี ซอลไปเคลียร์กับหลงก่อนไหม"
"จีนคิดว่าหลงจะยอมคุยกับซอลไหม ดูสิ เย็นชาใส่แบบนี้คือรู้เลยว่าโกรธมากแน่ ๆ"
"จีนขอโทษ ก็เห็นซอลบอกว่าจะบอกความจริงกับหลงแล้วนี่นา"
"เฮ้อ...ก็ตั้งท่าจะบอกแล้วนี่แหละ แต่มันเกิดเรื่องมากมายขึ้นก่อนเลยยังไม่มีโอกาสได้บอก"
"แย่ล่ะสิ จีนชินกับการเชคแฮนด์น่ะ ขอโทษจริง ๆ"
"ช่างเถอะ ยังไงสักวันหลงก็ต้องรู้ แล้วจีนมีอะไรหรือเปล่า"
"จีนมีเรื่องจะให้หลงช่วยน่ะ"
"หลงเหรอ? ช่วยเรื่องอะไร"
"อ...เอ่อ...ซอลไปคุยกับหลงก่อนก็ได้นะ เรื่องจีนค่อยว่ากัน"
"งั้นเดี๋ยวจีนรอซอลแป๊บหนึ่งนะ ขอซอลไปคุยกับหลงก่อน"
"อืม ค่อย ๆ คุยกันนะซอล"
"อืม"


"หลง เข้าไปคุยกับเราในห้องหน่อยสิ"
"ไว้ค่อยคุยตอนเลิกงานดีกว่านะคะ ช่วงนี้ลูกค้ากำลังทยอยเข้าร้านด้วย" หลงตอบพลางกับก้มลงหยิบหนังสือสำหรับอ่านฟรีที่วางระเกะระกะตามโต๊ะและมุมนั่งเล่นโดยไม่สนใจคนตัวเล็กแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาใหม่อย่างที่เธอว่าเสียด้วยซ้ำ
"หลง คุยกับเราก่อน อย่าเย็นชาใส่เราแบบนี้สิ"
"หลงก็เป็นแบบนี้ของหลงอยู่แล้วนะ"
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ก่อนหน้านี้เรายังดี ๆ อยู่เลย"
"ขอหลงทำงานก่อนนะคะ พี่ไปคุยกับคุณคนนั้นดีกว่า เขาอุตส่าห์มาหา"
"แต่..."
"ขอตัวนะคะ" หลงไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตอบอะไรเสียด้วยซ้ำ เธอก็รีบหอบกองหนังสือเดินจากไปด้วยท่าทีเย็นชา 
หัวใจของซอลร้อนรนจนแทบจะแผดเผาร่างของเธอเสียตอนนี้ ไม่มีทางรู้ได้เลยจริง ๆ ว่าหลงกำลังคิดอะไรอยู่ และหลงได้ยินเสียงความคิดของคนรักเก่าเธอไปว่าอย่างไรบ้าง แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวต้องกำลังรู้สึกผิดหวังในตัวเธอเป็นแน่ ซอลจึงได้แต่ยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่และจำต้องยอมเดินออกไปจากร้านทั้ง ๆ ที่เธออยากจะเคลียร์ให้รู้เรื่องเสียตอนนี้

กริ๊ง ๆ
"อ้าวซอล คุยกับหลงเสร็จแล้วเหรอ"
"หลงไม่ยอมคุยกับเราเลยจีน เราจะทำยังไงดี"
"ใจเย็น ๆ ก่อนนะซอล หลงอาจจะไม่อยากคุยเรื่องซีเรียสเวลางานน่ะ"
"เฮ้อ...มันจะพังแล้วงั้นเหรอ ซอลเพิ่งคบกับหลงเมื่อคืนนี้เอง"
"ฮะ!!? คบกันแล้ว!? แต่ซอลไม่บอกความจริงหลงเนี่ยนะ"
"จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็อย่างที่บอกก่อนหน้านี้แหละ ว่าซอลพยายามจะบอกแล้ว แต่มันเกิดเรื่องก่อน ตอนนี้ซอลเครียดมากเลยอะจีน"
"ไม่เป็นไรนะ ปะ เดี๋ยวจีนขับรถพาไปกินอะไรอร่อย ๆ" สาวสวยว่าพลางกับใช้แขนโอบไหล่คนตัวเล็กเอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างยีผมสีบลอนด์จนยุ่งเหยิง ก่อนจะพาไปยังรถสปอร์ตของตนที่จอดอีกฟากหนึ่งของถนน

"..."
หลงที่ยืนดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ข้างหลังกระจกใสถึงกับกัดฟันแน่น ภาพที่ทั้งสองดูสนิทสนมกันนั้นทำไมถึงทำให้เธอแน่นหน้าอกได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่จะหายใจยังลำบาก เธอจึงต้องปลดกระดุมเสื้อคอปกออกทั้งสองเม็ดเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอกแม้แต่น้อย



ร้านคาเฟ่ที่จีนพาซอลมานั้นยังคงเป็นสถานที่เดิม ๆ ที่ทั้งสองเคยมาด้วยกันในอดีต จีนสั่งขนมเครปเค้กราดด้วยซอสสตรอเบอร์รี่และเครื่องดื่มที่เจ้าตัวโปรดปรานแต่มันก็ไม่ได้คลายความกังวลของซอลได้เลย
"ซอลกินหน่อยน่า อย่าเครียดเลยนะ"
"จะไม่ให้เครียดได้ยังไง จีนเห็นสายตาที่หลงมองซอลไหม มันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายเลยอะ แต่หลงไม่พูดอะไรออกมาสักคำ"
"ไม่เอาน่า มันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่ซอลคิดก็ได้"
"มีแต่จะแย่กว่าเดิมน่ะสิ เฮ้อ...แล้วตอนที่เชคแฮนด์น่ะ จีนได้คิดอะไรบ้าง"
"ไม่รู้สิ ตอนนั้นมันคิดไปต่าง ๆ นานา เลยไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง จีนขอโทษนะซอล แต่จีนก็ไม่ได้ผิดนะ ในเมื่อซอลเป็นคนปิดบังหลงเอง" ซอลถึงกับพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับกอดอกบึนปากล่างอย่างไม่สบอารมณ์นัก
"หึ! ก่อนหน้านี้ก็ทำซอลร้องไห้งอแงเป็นอาทิตย์ เก่งนักนะ เรื่องพูดให้คนอื่นรู้สึกผิดน่ะ"
"เฮ้ย! จีนไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะซอล"
"ช่างเถอะ แล้วจีนไปหาหลงทำไม"
"คือ...วันพุธนี้ซาบีน่าจะมาเที่ยวที่ไทยน่ะ จีนเลยอยากให้มันเป็นทริปที่ดีที่สุด แต่เพราะซาบีน่าเป็นคนที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาตรง ๆ จีนเลยไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ชอบอะไร หรืออยากทำอะไร"
"ก็เลยจะให้หลงไปฟังความคิดให้ว่างั้น" ซอลพูดแทรกจึงทำให้จีนหัวเราะแห้งกลับมา พร้อมกับใช้มือลูบท้ายทอยของตน
"แฮะ ๆ"
"จีนต้องเป็นคนยังไงเนี่ย จะมาขอร้องแฟนใหม่ของแฟนเก่า เพื่อที่จะหาวิธีง้อแฟนเก่าอีกคน"
"ก็ในเมื่อสถานะของเราทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิมแล้ว ซอลช่วยเพื่อนคนนี้หน่อยไม่ได้เหรอ แถมหลงยังมีความสามารถขนาดนี้ มันก็ต้องเอามาใช้ประโยชน์หน่อยสิ"
"นี่!! หยุดเลยนะ เป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยได้ทุกเรื่อง ถ้าจะขอคำปรึกษาหรือคำแนะนำน่ะซอลช่วยได้อยู่แล้ว และเรื่องหัวใจแบบนี้จีนควรจะใช้หัวใจไม่ใช่เหรอ อย่าโกงสิ"
"จีนเปล่าโกง ก็เพราะซาบีน่าไม่เคยพูดอะไรกับจีนตรง ๆ เลยไง จีนเลยไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร"
"ไม่รู้แหละ ยังไงซอลก็จะไม่ให้หลงช่วยเรื่องอะไรแบบนี้หรอกนะ ถ้าจีนรักซาบีน่า จีนก็ควรใช้หัวใจและความจริงใจเข้าหา"
"แหม ทีตัวเองล่ะ ใช้ความจริงใจเข้าหาหลงไหม" 
ทั้ง ๆ ที่จะให้คำแนะนำคนอื่นแท้ ๆ แต่ตัวเองดันโดนสวนกลับเสียได้ ซอลจึงมองค้อนกลับไป ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง
"เฮ้อ..."
"ซอลถอนหายใจร้อยรอบได้แล้วนะ"
"ซอลเครียดจริง ๆ จีน"
"งั้นเอางี้ไหม เดี๋ยวจีนช่วยให้ซอลกับหลงคืนดีกัน แล้วซอลกับหลงก็มาช่วยให้จีนกับซาบีน่าคืนดีกันด้วย"
"หยุดเลยนะ เรื่องนี้ขอซอลเป็นคนจัดการเองดีกว่า ที่ผ่านมาซอลเข้าหาหลงผิดวิธีมาตลอด แต่หลังจากนี้ซอลต้องใช้ความจริงใจเข้าหาแล้วล่ะ ซอลนี่แย่เนอะ จะผ่านไปกี่ปีซอลก็ยังดูเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ที่คิดอะไรเหมือนผู้ใหญ่เขาไม่เป็น ต้องให้พี่ฟามาคอยดุตลอด"
"พี่ฟาจะแต่งงานมีชีวิตคู่กับพี่พายแล้วนะ ซอลควรโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว"
"ซอลก็พยายามอยู่ พอมาเจอหลงที่มีความคิดโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี่แหละ มันทำให้ซอลรู้สึกว่าต้องปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่ ซอลจะทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ซอลต้องคิดถึงความรู้สึกของหลงให้มาก ๆ" เมื่อจีนได้ยินอย่างนั้น เธอจึงเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วชาเขียวเย็นขึ้นมาดูดเพื่อปกปิดรอยยิ้มของตน
"ซอลดูโตขึ้นเยอะเลยนะ ดูคิดถึงคนอื่นมากขึ้น จีนภูมิใจในตัวซอลนะ"
"ซอลขอโทษนะจีน สำหรับที่ผ่านมา"
"ไม่หรอก ความจริงเราเป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว จีนก็ขอโทษนะที่เคยทำให้รู้สึกแย่นะ แต่ก็แปลกเนอะว่าไหม ทำไมหลงได้ยินเสียงความคิดทุกคนยกเว้นซอลล่ะ"
"อืม พอพูดถึงเรื่องนี้ ซอลก็สงสัยเหมือนกันนะ แม้แต่ซอลเองยังไม่รู้สึกเดจาวูกับหลงเลยสักครั้ง มันแปลกจริง ๆ เหมือนกับว่าเรื่องระหว่างหลงกับซอลมันคือสิ่งที่จะดำเนินไปโดยที่ซอลไม่สามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เลย"
"ซอลกับหลงอาจจะเป็นเนื้อคู่กันก็ได้นะ"
"ถ้าเป็นเนื้อคู่กัน จำเป็นต้องเจออะไรยากขนาดนี้เหรอ ทำไมต้องเป็นข้อยกเว้นล่ะ"
"ความรักไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ หรอกนะ ซอลต้องผ่านบททดสอบไปให้ได้ก่อน อะไร ๆ มันถึงจะดีขึ้น คิดดูสิ การที่คนสองคนมีความสามารถบางอย่างแต่ดันไม่สามารถใช้กับกันและกันได้ บางที...ฟ้าอาจจะอยากให้ทั้งซอลและหลงใช้หัวใจเรียนรู้กันและกัน เรียนรู้ที่จะสุข เรียนรู้ที่จะผิดหวังโดยที่ไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ซอลเก่งนะที่เอาชนะใจหลงได้ ดูก็รู้ว่าหลงค่อนข้างจะเปิดใจให้ใครยาก แต่น่าเสียดาย ที่ซอลดันเข้าหาหลงผิดวิธี"
"เฮ้อ...จีนเก่งเรื่องทำให้คนอื่นรู้สึกผิดจริง ๆ นั่นแหละ"
"ฮ่า ๆ ขอให้เรื่องทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะซอล ได้เจอคนที่ตามหามานานก็รักษาเขาเอาไว้ดี ๆ ล่ะ"
"ขอบคุณนะจีน ซอลก็อยากรักษาหลงเอาไว้ให้ดีที่สุด แต่ไม่รู้เหมือนกัน ว่าตอนนี้หลงจะเป็นยังไงบ้าง จะผิดหวังในตัวซอลขนาดไหน"
"คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก จีนยึดในคตินี้ หลงจะไม่มีวันผิดหวังในตัวซอล ตราบใดที่ซอลรักหลงด้วยหัวใจจริง ๆ"
"อืม ตอนนี้ซอลรู้แล้วล่ะว่าซอลรักหลงจริง ๆ ซอลจะไม่มีวันปล่อยมือหลงเด็ดขาด ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเจออะไรก็ตาม..."


ตกเย็น
"หลงล่ะคะพี่จิ้งหรีด" ซอลเอ่ยถามขณะที่กำลังจะเดินสวนกับพนักงานของตนที่ทยอยกลับบ้านด้วยประตูหลังร้าน
"หลงรอคุณซอลอยู่ที่ห้องทำงานค่ะ"
"อ๋อ แล้ววันนี้ทั้งวันหลงเป็นยังไงบ้าง"
"ก็ทำตัวปกติของหลงนั่นแหละค่ะ หลงไม่ค่อยพูดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พี่ก็เดาใจหลงไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง"
"แต่ผมว่าหลงกำลังผิดหวัง" เมื่อพนักงานหนุ่มเอ่ยขึ้น ผู้จัดการสาวจึงแอบหยิกแขนเขาเบา ๆ เพื่อเป็นการห้ามปราม เพราะสีหน้าคนเป็นนายตอนนี้ดูไม่สู้ดีเอาเสียเลย คงแบกความรู้สึกผิดเต็มประดาอยู่ก็เป็นได้
"อืม เรารู้"
"ผมไม่รู้นะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับเจ้าหลง แต่ถ้าคุณไม่รักหลง ก็อย่าทำร้ายหัวใจเด็กซื่อ ๆ คนหนึ่งเลยนะครับ"
"ฮัค!!! พูดมากเกินไปแล้ว!!"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่จิ้งหรีด เราเข้าใจ ที่ผ่านมาเราเองก็เอาแต่ใจ และทำอะไรแบบไม่คิดมาตลอด แต่หลังจากนี้เราอยากให้ทุกคนเชื่อใจเรา เพราะเราจะทำเพื่อหลงจากใจจริง ไม่ใช่การเอาแต่ความสุขของตัวเองอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว"
"ก็ถ้าคุณซอลทำได้อย่างที่พูดจริง ๆ ผมก็ขอให้เรื่องระหว่างคุณกับเจ้าหลงลงเอยด้วยดีนะครับ"
"ขอบคุณนะ แต่ต่อให้หลงจะผิดหวังในตัวเราไปแล้วก็เถอะ เราก็จะไม่มีวันเลิกรักหลงหรอก เราไปหาหลงก่อนนะ" พูดจบซอลจึงเดินเข้าไปในร้านด้วยสายตาอันมุ่งมั่น ทั้งจิ้งหรีดและฮัคจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังของเธอด้วยความเป็นห่วง


เอี๊ยด...
ซอลเดินเข้าไปยังห้องทำงานส่วนตัวที่ถึงแม้จะเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกแบบครบครัน แต่กลับทำให้รู้สึกอึดอัดราวกับติดอยู่ในลิฟต์แคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนจนยากจะขยับตัวได้ แม้แต่เครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ก็ไม่สามารถคลายความกังวลของหัวใจซอลที่ร้อนรนอยู่ในตอนนี้ได้แม้แต่น้อย
ในขณะที่ซอลกระวนกระวายจนไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรดี แต่หลงกลับยืนกุมมือเงียบ ๆ ที่หน้าโต๊ะทำงานราวกับไม่ได้ยี่หระกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือเธออาจจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่สีหน้าและแววตานั้นกลับแสดงความรู้สึกผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"หลง...วันนี้เหนื่อยไหม"
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ" ซอลชะงักเล็กน้อยกับท่าทีของหลงที่เย็นชากว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่เธอก็เข้าใจดีว่าที่หลงเป็นแบบนี่ต้นเหตุมันก็เพราะเธอ
"อืม...หลง ตอนที่เชคแฮนด์กับผู้หญิงเมื่อตอนเช้า เธอได้ยินอะไรบ้าง" 
"ความคิดที่สับสนวุ่นวายค่ะ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งคล้ายคนกำลังโกรธแต่กำลังควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้
"คือ...เราไม่รู้นะว่าเธอรู้อะไรบ้าง แต่ถ้ามันเป็นเรื่องของเรา...เราพยายาม..."
"พี่จะบอกหลงเมื่อไหร่" ยังไม่ทันที่ซอลจะได้พูดจบประโยค หลงก็ยิงคำถามใส่เธอเสียก่อน จนซอลถึงกับชะงักและหลุบสายตาลงต่ำด้วยความรู้สึกผิด
"เราขอโทษที่ปิดบังเธอนะหลง เราพยายามบอกความจริงกับเธอแล้ว แต่มันไม่มีโอกาสที่จะได้พูด"
"ไม่มีโอกาสหรือพี่เลือกที่จะไม่บอกกันแน่"
"เราพยายามแล้วจริง ๆ นะ"
"ได้...ถ้าพี่บอกว่าพี่พยายามแล้ว งั้นหลงจะให้โอกาสพี่พูดความจริงออกมาให้หมด พี่ปิดบังอะไรหลงอยู่ หลงจะรอฟังจากปากพี่" น้ำเสียงและสายตาที่เย็นชานั้นมันช่างบีบหัวใจเหลือเกิน ซอลไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองอีกคน แต่หากจะหนีความจริงต่อไปก็คงไม่ได้อีกแล้ว และไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องปิดบังต่อไปแล้วเช่นกัน 
ซอลกลืนน้ำลายดังอึกด้วยความยากลำบาก เพราะถูกความหวาดกลัวดูดซับน้ำลายจนแห้งเหือด เมื่อซอลเอื้อมมือไปเพื่อหวังจะจับมือของหลง แต่เจ้าตัวกลับชักกลับและไพร่หลังเอาไว้ด้วยแววตาอันดุดัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดเป็นเท่าตัว
"พูดมาสิ ถ้าพี่ไม่พูดวันนี้พี่จะไม่มีโอกาสได้พูดแล้วนะ"
"ความจริงแล้วเราคือซอล เราไม่ใช่พนักงานใหม่ที่ชื่อซอด้วง แต่เราเป็นเจ้าของร้านที่นี่ ที่เราพูดแบบนั้นออกไปเพราะเราอยากเข้าหาเธอ เราไม่รู้ว่าถ้าเราเข้าหาเธอด้วยการเป็นเจ้าของร้านแล้วเธอจะยอมคุยกับเราไหม เราก็เลยปลอมตัวเป็นซอด้วง เราขอโทษจริง ๆ ที่เราทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้"
หลงยังคงใช้สายตาดุดันจ้องมองกลับมาโดยไม่เอ่ยปากพูดอะไรออกมาทั้งนั้น แต่ภายในใจกลับเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ เธอกัดฟันแน่นและรอฟังอีกคนสารภาพความจริงโดยไม่แม้แต่จะพูดขัด
"ก็อย่างที่เธอรู้ ว่าเราสามารถมองเห็นภาพในอนาคตได้ ซึ่งตอนที่เห็นเธอครั้งแรกเราตกใจมาก เราคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้เข้าหาเธอได้ เพราะพี่จิ้งหรีดกับฮัคบอกว่าเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ยากมากที่จะเข้าหาหรือตีสนิท ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของร้านยิ่งเข้าหาเธอยากเลย เพราะเธอเป็นคนที่ถ่อมตัวมาก ๆ การปลอมตัวเป็นพนักงานใหม่เลยเป็นทางออกที่เราเลือกทำ"
"..."
"หลง พูดอะไรสักอย่างสิ เธอจะด่าเราก็ได้นะ กับสิ่งที่เราทำลงไป เรายอมรับว่าเราตัดสินใจผิดพลาดที่ทำแบบนั้น แต่มันก็เพื่อที่จะเข้าหาเธอนะหลง"
"พี่รู้ไหม ว่าการที่หลงไม่ได้ยินเสียงความคิดของพี่มันทำให้หลงอึดอัดมากแค่ไหน แต่พี่พูดอะไรออกมาหลงก็เชื่อพี่ทุกอย่าง หลงให้ใจพี่ แต่ดูสิ่งที่พี่ทำสิ มันไม่มีความจริงใจเลยสักนิด"
"หลง! เราขอโทษ เราแค่กลัวว่าถ้าเราเป็นเจ้าของร้านแล้วเธอจะไม่กล้าคุยกับเรา"
"พี่กำลังแบ่งแยกชนชั้นนะ"
"ไม่ใช่นะหลง! เราไม่ได้คิดแบบนั้น!"
"ถึงพี่จะพูดแบบนั้น แต่การกระทำของพี่มันบอกหลงหมดแล้ว แทนที่พี่จะเข้าหาในฐานะเจ้าของร้าน แต่พี่เลือกที่จะเข้าหาในฐานะพนักงานที่ดูเท่าเทียมกันมากกว่า มันจะตีความหมายเป็นอะไรได้อีก"
"ล...หลง! เดี๋ยวก่อน เราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะ เชื่อเรานะหลง" ซอลพูดพลางกับพยายามจับเสื้อของหลงเอาไว้ แต่เจ้าตัวกลับเอี้ยวตัวหลบและพยายามที่จะเดินหนี สิ่งที่ทำได้คงเป็นการวิ่งเข้าไปคว้าข้อมือของหลงเพื่อเป็นการฉุดรั้งแม้จะไม่รู้ว่าหลงจะยอมฟังเธอหรือไม่
"หลง เราไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ เราไม่สนหรอกนะว่าเธอจะเป็นพนักงานหรืออะไร เราแค่อยากใกล้ชิดเธอมากกว่านี้ แต่สิ่งที่เราทำมันผิด ขอโทษที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น แต่เราไม่ได้มีเจตนาที่จะแบ่งแยกหรือดูถูกเธอเลยนะ เชื่อเรานะหลง"
"ปล่อยหลงเถอะพี่ซอ ไม่สิ...หลงต้องเรียกว่าคุณซอลถึงจะถูก หลงเชื่อคำพูดของคุณมาตลอด และการที่หลงเชื่อคุณนั่นแหละ มันทำให้หลงเจ็บ"
"เราขอโทษ..."
"สิ่งที่คุณพูดมันไม่มีอะไรจริงเลย"
"มีสิ! ที่เราบอกว่าเรารักเธอน่ะมันคือเรื่องจริงนะหลง"
"รักเหรอคะ ถ้าคุณรักหลงจริง ๆ คุณทำแบบนี้กับหลงทำไม หลงจะไม่เชื่อคำพูดของคุณอีกแล้ว..." พูดจบหลงจึงชักมือออกอย่างแรงจนคนตัวเล็กถึงกับเซ แต่ซอลไม่ยอมแพ้เพียงเท่านี้ เธอโพเข้าไปสวมกอดหลงเอาไว้แน่น แม้หลงจะพยายามผลักออกอย่างไร เธอก็ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ จนในที่สุดหลงก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่มันช่างไร้ซึ่งความรู้สึกไม่ต่างกับการกอดขอนไม้
"หลง เราขอโทษ"
"ปล่อยหลงเถอะค่ะ หลงจะกลับหอ"
"เราอยากคุยกับเธอให้รู้เรื่อง"
"แต่หลงไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ"
"หลง...ได้โปรดฟังเรา...เราเองก็พยายามที่จะเข้าใจเธอ แต่เราไม่รู้ว่าจะเข้าหาเธอยังไง เรายอมรับผิด เราขอโทษที่เข้าหาด้วยวิธีนั้น แต่ทุกอย่างที่ทำไปคือเราหวังดีกับเธอจริง ๆ นะหลง ฮึก ๆ เราขอโทษ"
หลงสัมผัสได้ว่าร่างที่กำลังสวมกอดเธออยู่นั้นกำลังสั่นเทา หลงจึงพยายามที่จะผละออก คนตัวเล็กที่ชอบเข้ามาปั่นป่วนหัวใจและชีวิตเธอจนดูยุ่งเหยิง ตอนนี้ระเบิดความอ่อนแอออกมาให้เธอได้เห็นอีกครั้ง ซอลพยายามใช้มือทั้งสองข้างปาดน้ำตาและกดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้จนขาทั้งสองข้างแทบจะทรงตัวไม่อยู่ แต่หลงกลับยืนนิ่งและมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ยิ่งซอลพยายามเอื้อมมือเข้าหา หลงยิ่งถอยหลังห่างออกไปเท่านั้น
"ใคร ๆ ก็เตือนหลงว่าให้อยู่ห่าง ๆ จากพี่ เพราะพี่ไม่เคยรักใครจริง แต่หลงไม่เคยฟังคำพูดของใครเลย หลงเชื่อแค่พี่ หลงฟังแค่พี่"
"ฮึก ๆ หลง...เราขอโทษ ฮือ ๆ"
"พี่รู้ไหมว่า หลงพยายามซ่อมหัวใจตัวเองที่มันแหลกสลายมาทั้งชีวิต เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยคนใจร้าย แล้ววันหนึ่งพี่ก็เข้ามาทำให้หลงอยากมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกบ้า ๆ นี่ พี่รู้ไหมว่าที่ผ่านมาหลงใช้ชีวิตลำบากแค่ไหน แล้วพี่กล้าดียังไงถึงมาทำลายความเชื่อใจของหลง พี่กล้าดียังไงถึงมาพังทลายชีวิตที่หลงพยายามสร้างมา!! พี่กล้าดียังไง!!!?"
หลงระเบิดความอัดอั้นออกมาอย่างกดกลั้นไม่ไหว ใบหน้าและแววตาของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ รับรู้ได้ทันทีว่าเธอเจ็บปวดมากเพียงใด ความรู้สึกผิดที่ประดังเข้ามามันทำให้ซอลแทบล้มทั้งยืนไม่ต่างกัน ซอลจึงได้แต่ยืนปล่อยโฮออกมาอย่างหนักจนขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ 
"หลง...ฮึก ๆ เรามันโง่เองที่เข้าหาเธอแบบผิดวิธีมาตลอด ฮึก ๆ ที่ผ่านมาเราทำเพื่อความสุขของตัวเอง แต่หลังจากนี้เราจะทำเพื่อความสุขของเธอ เราขอโอกาสอีกครั้งได้ไหม ช่วยสอนคนโง่อย่างเราที ว่าต้องเข้าหาเธอแบบไหนถึงจะทำให้เธอมีความสุข ช่วยสอนคนไม่เอาไหนคนนี้ที ว่าจะต้องทำยังไงให้เราสามารถอยู่ด้วยกันโดยที่เธอจะไม่รู้สึกไร้ค่า ฮึก ๆ เรารู้แล้วหลง ว่าความรักมันเป็นยังไง เรารู้จักความรักก็เพราะเธอ เราทรมานมากกับการไม่มีเธอ หลังจากนี้เราจะอยู่กับเธอเท่าที่เธอต้องการ เราจะไม่หายไปไหนอีกแล้ว ฮือ ๆ เราขอโทษ ฮือ ๆ ฮือ!!" 
ร่างคนตัวเล็กถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของหลงโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว จนเธอถึงกับปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ต่างคนต่างสวมกอดกันและกันแน่นราวกับกลัวว่าจะต้องพรากจากกันอีก หลงประคองศีรษะของซอลให้ซบลงที่บ่าของตนเอาไว้
แทนที่ซอลจะถูกเกลียด กลับกลายเป็นว่าหลงลูบศีรษะปลอบประโลมเธออย่างอ่อนโยนอย่างที่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับสัมผัสนี้จากคนหน้าดุ เสื้อยูนิฟอร์มสีกรมท่าเปียกปอนไปด้วยน้ำตา แม้หลงจะไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาแต่ซอลก็สามารถรับรู้ได้ว่าอีกคนกำลังปลอบโยนเธออยู่
"หลง เราขอโทษ ฮือ ๆ เราขอโทษ"
"ทำไมการที่ต้องเห็นพี่ร้องไห้มันถึงทำให้หลงเจ็บปวดมากกว่าเดิมนะ..."
"ฮือ ๆ ๆ"
"ชู่ว...โตแล้ว อย่างอแงเป็นเด็กสิ"
"ฮึก ๆ ให้อภัยเราได้ไหมหลง ให้โอกาสเราแก้ตัวได้ไหม ฮึก ๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเธอ ฮึก! เราขอโทษ"
"ว่าแล้วเชียว ว่าการทำให้พี่รู้สึกผิดมันจะไม่เวิร์ค เห็นพี่ร้องไห้แบบนี้หลงก็รู้สึกผิดตามไปด้วยนะ...ความจริงหลงรู้นานแล้วแหละว่าพี่เป็นใคร หลงแค่อยากฟังความจริงจากปากพี่"
คนตัวเล็กผละออกจากอ้อมกอดทั้งน้ำตา ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปาดน้ำตาออกและสะอึกสะอื้นราวกับเด็ก
"อะไรนะ ฮึก ๆ"
"เอ่อ..."
"เธอรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็...ตั้งแต่วันที่พี่เมา"
"ฮะ!?"
"หลงว่าพี่สงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่า พี่ร้องไห้แบบนี้หลงจะกล้าเล่าได้ยังไง เหมือนกำลังรังแกพี่อยู่เลย"
"หลง!! ฮึก ๆ เธอรู้มาตลอดเหรอ!!?"
"แฮะ ๆ" หลงได้แต่ใช้นิ้วเกาที่ขมับพลางกับยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะโดนกำปั้นน้อย ๆ ทุบลงที่แขนของเธอ
ตุ๊บ!!
"โอ๊ย!! พี่ซอล หลงเจ็บนะ"
"ทั้งหมดนี่คือแผนของเธอเหรอ!?"
"ป...เปล่านะคะ"
"เรื่องมันเป็นยังไง บอกเรามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
"พี่หยุดร้องไห้ก่อนนะ แล้วเราค่อยคุยกัน"
"ฮึก ๆ หลง ฮึก ๆ ฮือ!!!" 

เวลาผ่านไปนานราวครึ่งชั่วโมง กว่าซอลจะสงบลงได้หลงต้องกอดปลอบเธออยู่นาน จากที่รู้สึกผิดเต็มประดาตอนนี้กลับกลายเป็นความสับสน หลงยังคงนั่งเงียบอยู่บนโซฟาภายในห้องทำงานส่วนตัว โดยมีคนตัวเล็กนั่งสะอื้นอยู่ข้าง ๆ
"ดีขึ้นหรือยังคะ" หลงถามพลางกับมองอีกคนที่เอาแต่นั่งหน้ามุ่ย แม้จะไม่มีน้ำตาไหลออกมาแล้วแต่เธอก็ยังสะอึกสะอื้นจากการร้องไห้อย่างหนัก จนกลายเป็นหลงที่รู้สึกผิดเสียเอง
"อืม สรุปว่าเธอรู้ได้ยังไง วันที่เราเมา เราเผลอพูดความจริงออกมาเหรอ"
"อ่า...จะว่าไงดี อันที่จริงหลงก็สงสัยมานานแล้วค่ะ พี่จำได้ไหม วันที่พี่วิดีโอเฝ้าหลงนอน ตอนนั้นหลงยังไม่หลับ เลยได้ยินเสียงพี่กำลังคุยกับใครอีกคน ซึ่งพี่แทนตัวเองว่าซอล ส่วนอีกคนชื่อฟา หลังจากนั้นหลงก็คอยสังเกตพี่มาตลอด"
"นี่หมายความว่า เธอรู้มาตลอดเลยเหรอ!?"
"จะว่ารู้มาตลอดก็ไม่ใช่ซะทีเดียวค่ะ ปกติหลงเป็นคนช่างสังเกตอยู่แล้ว ก็เลยเหมือนจะจับพิรุธทั้งพี่และคุณฟาได้ แต่ก็นั่นแหละค่ะ ที่ผ่านมาคือหลงตามน้ำมาตลอด"
"เธอนี่มันร้ายนะหลง เห็นหน้านิ่ง ๆ คือคอยจับผิดเราอยู่ว่างั้น"
"หลงไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่าย ๆ ไงและการที่พี่พยายามเข้าหาหลงมันทำให้หลงยิ่งไม่ไว้ใจเลย เพราะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่พี่เข้าหาหลงมันคืออะไรกันแน่ แต่จะมาโทษหลงฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้"
"อืม...เราผิดเอง ที่ไม่ใช้ความจริงใจเข้าหาเธอก่อน เราขอโทษนะหลง"
"เปล่าค่ะ"
"หือ?" ซอลเอียงศีรษะและขมวดคิ้วด้วยความฉงน
"ทั้งหมด มันคือแผนของคุณฟา"
"อะไรนะ!!?" ซอลพูดโพล่งออกมาด้วยความตกใจ จนหลงได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ กลับมา
"แฮะ ๆ"
"บอกเรามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!! แผนของพี่ฟาคืออะไร!!?"
"เอ่อ...วันที่พี่เมา หลงปั่นหัวคุณฟานิดหน่อย  จนคุณฟาเก็บความลับไม่ไหวแล้วมาสารภาพกับหลงจนหมดเปลือก หลังจากนั้นคุณฟาเลยบอกหลงว่า ให้หลงทำยังไงก็ได้ให้พี่รู้สึกผิดจนพูดความจริงออกมาเอง ตอนแรกหลงก็ปฏิเสธไปแล้ว และบอกว่าหลงจะใช้วิธีของหลงเอง หลงเลยแกล้งทำเป็นปวดท้องประจำเดือนเพื่อที่จะดูปฏิกิริยาของพี่ ซึ่งมันทำให้หลงรู้ว่าพี่เป็นห่วงหลงจริง ๆ ไม่เห็นจะเหมือนที่คุณฟากล่าวหาเลย แต่ดูเหมือนคุณฟาจะเบนเข็มไปหาคุณจีนแทน"
ซอลได้แต่อ้าปากเหวอเมื่อได้รู้ความจริงทุกอย่าง แท้จริงแล้ว เธอนั่นแหละที่ถูกคุมเกมมาตลอด
"อื้อหือ...ทำไมทุกคนทำกับเราแบบนี้ แสดงว่าที่วันนั้นจีนมาหาเราแล้วพูดให้เรารู้สึกผิดคือเป็นแผนของพี่ฟาเหรอเนี่ย!?"
"ก็น่าจะใช่นะคะ"
"บ้าเอ๊ย!! เธอรู้ไหมว่าเราต้องเก็บตัวเป็นอาทิตย์เพื่อทบทวนตัวเอง ว่าที่ผ่านมาเราผิดพลาดอะไรไปบ้าง เราทุกข์ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เราคิดถึงเธอจนใจจะขาด กว่าเราจะรวบรวมความกล้าเพื่อกลับมาเจอเธอมันยากมากเลยนะ!"
"แต่มันก็ทำให้พี่รู้ใจตัวเองไม่ใช่เหรอคะ"
"ก็ใช่ แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าที่ผ่านมาที่เราหายไป คือเราไปทบทวนตัวเอง"
"ไม่รู้หรอกค่ะ แต่คิดว่าพี่น่าจะมีเหตุผล หลงเชื่อว่าพี่จะกลับมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะหายไปนานขนาดนี้"
"เฮ้อ...ไม่รู้ว่าควรที่จะรู้สึกยังไงดี ทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทำไมพี่ฟาต้องเล่นแรงขนาดนี้เนี่ย!!?"
"เพราะพี่เอาแต่ใจ และไม่รู้จักโต พี่หลอกหลง พี่ไม่จริงใจ"
"ขอโทษ..."
"พี่ขโมยหัวใจหลง พี่ทำให้หลงแทบบ้า พี่ทำให้หลงนอนร้องไห้เพราะคิดถึงพี่" ซอลถึงกับหันขวับกับคำพูดที่คาดไม่ถึงว่ามันจะออกจากปากคนหน้าดุ เจ้าตัวพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ดูไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ท้ายที่สุด หลงนี่แหละคือคนที่ดูไม่จริงใจที่สุด!
"หลง! สรุปว่าเธอรักเราไหมเนี่ย หรือเธอก็หลอกให้เรารัก เธอหลอกล่อให้เรายอมนอนกับเธอใช่ไหม!!?"
"พี่อยากนอนกับหลงเองไม่ใช่เหรอ เห็นบอกว่าอยากค้างที่ห้องหลงตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเลยนะ"
"หลง!!!" ซอลโผเข้าไปคว้าคอเสื้อของหลงเอาไว้แน่น พร้อมกับจ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตาสีดำทมิฬคู่นี้ แต่คนหน้าุกลับอมยิ้มและคว้าหมับที่เอวจนซอลถึงกับสะดุ้ง
"ธ...เธอหลอกให้เราตายใจ เพื่อที่เธอจะได้ตัวเราใช่ไหม!?"
"แล้วพี่คิดว่าไง"
"หลง!!! เธอบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!" 
หลงไม่เอ่ยคำใดออกมาทั้งสิ้นนอกจากจ้องมองกลับมาราวกับว่าเธอกำลังจะสื่อสารผ่านแววตา สองมือเล็กที่กำลังกำคอเสื้อของเธออยู่จึงค่อย ๆ อ่อนแรงลงอย่างอัตโนมัติราวกับถูกสะกด ฝ่ามือเรียวข้างหนึ่งของหลงประคองใบหน้าคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนจะใช้นิ้วโป้งสัมผัสที่ริมฝีปากอมชมพูอย่างแผ่วเบา
"คนอย่างหลงถ้าได้บอกรักใคร มันแปลว่ารักจริง ๆ คนอย่างหลงถ้าได้จูบใครมันแปลว่าหมดทั้งหัวใจมันเป็นของคนคนนั้นไปแล้ว" น้ำเสียงที่อ่อนโยนควบคู่กับแววตาที่แสนจริงใจ แม้แต่สัมผัสที่ริมฝีปากก็อ่อนโยนราวกับต้องการทะนุถนอมเธออย่างไรอย่างนั้น
ความโกรธและความรู้สึกสับสนก่อนหน้ามลายหายไปในทันที ทุกคำที่หลงพูดออกมานั้นดังคำประกาศิต แววตาอันใสซื่อสามารถบรรยายความรู้สึกที่มันท่วมท้นได้แม้จะเอ่ยออกมาเพียงไม่กี่คำ ซอลไม่ต่างกับถูกโอบอุ้มด้วยมวลบางอย่างที่แสนอบอุ่นพานทำให้เธออุ่นใจ ก้อนเนื้อที่กำลังเต้นโครมครามสั่งการให้เธอหลับตาพริ้มอย่างอัตโนมัติก่อนริมฝีปากของทั้งคู่จะประกบเข้าด้วยกันอย่างเชื่องช้าและอ่อนโยน
หลงผละริมฝีปากออกช้า ๆ จึงได้เห็นแววตาของอีกคนจ้องมองตามริมฝีปากของเธออย่างเว้าวอน เธอจึงอมยิ้มออกมาเล็กน้อยตามแบบฉบับคนหน้าดุที่แสดงสีหน้าไม่ค่อยเก่งนัก
"หลงไม่ชอบบอกรักเท่าไหร่ แต่หลงชอบที่พี่บอกรักนะ"
"เรารักเธอนะหลง" เสียงบอกรักที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ หลงจึงโน้มตัวเข้าไปประชิดตัวของซอลมากขึ้น จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกันที่กำลังรดใบหน้าอยู่
"พี่ช่วยพูดคำว่ารักให้ดังขึ้นอีกหน่อยได้ไหม"
"คำว่ารักน่ะ พูดเบา ๆ เหมือนเสียงกระซิบก็พอแล้ว"
"ทำไมล่ะ หลงอยากได้ยินให้ดังกว่านี้"
"เพราะมันต้องใช้ใจฟังไง"
"งั้นกลับหอกันเถอะ หลงอยากใช้ใจฟังคำบอกรักของพี่แล้ว"
"หือ? ทำไมใช้ใจฟังต้องกลับหอ" ซอลเอ่ยถามพลางกับขมวดคิ้วด้วยความฉงน หลงจึงกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบที่ข้าง ๆ หูจนทำให้ซอลถึงกับดวงตาเบิกโพลง
"อยากใช้ใจฟังแบบเมื่อคืน หัวใจพี่เต้นแรงจนหลงได้ยินชัดเลยล่ะ"
"หลง!!!"