เพียงกระซิบ

เพียงกระซิบ
ตอนที่ 9 รู้สึกผิด

กริ๊ง ๆ
เสียงกระทบกันของกระดิ่งทองเหลืองที่ห้อยติดกับประตูดังขึ้นเมื่อมีใครบางคนเปิดประตูเข้ามายังร้านขายหนังสือ ลูกค้าสาวร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปยังเคาน์เตอร์แทนที่จะเดินเข้าไปยังชั้นหนังสือที่เรียงรายหลายหมวดหมู่ แต่เมื่อผู้จัดการสาวเงยหน้าขึ้นเธอก็ต้องชะงัก เมื่อสาวสวยที่เดินเข้ามานั้นเป็นคนที่เธอรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
"สวัสดีค่ะพี่จิ้งหรีด" เธอเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
"อะอ้าว!! สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย กลับไทยแล้วเหรอคะเนี่ย"
"ใช่ค่ะ ซอลไม่อยู่เหรอคะ" เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ แต่ถามถึงเจ้าของร้านทันทีเมื่อมีโอกาส
"อ๋อ วันนี้คุณซอลไม่ได้เข้าร้านค่ะ มีอะไรฝากไว้ไหมคะ"
"เหรอคะ พอดีว่าไปหาที่บ้านมาแล้ว พ่อกับแม่บอกว่าซอลไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ทราบว่าพี่จิ้งหรีดพอจะรู้ไหมคะว่าซอลไปไหน"
"เอ่อ...พี่ไม่ทราบเลยค่ะ"
"งั้นไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาหาใหม่ก็ได้ ถ้ายังไงฝากพี่จิ้งหรีดช่วยบอกซอลหน่อยนะคะ ว่าจีนมาหา" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม
"ได้ค่ะน้องจีน ว่าแต่...จะกลับมาอยู่ที่ไทยเลยหรือเปล่าคะเนี่ย"
"ใช่ค่ะ กลับมาอยู่บ้านเราดีกว่า คิดถึงทุกคนจะแย่แล้ว อ้อ! จีนซื้อของมาฝากพี่จิ้งหรีดกับฮัคด้วยนะคะ" พูดจบ เธอจึงยื่นถุงกระดาษที่ถือติดมือมายื่นให้กับผู้จัดการสาว เจ้าตัวจึงแสดงท่าทีดีอกดีใจออกมา แต่ภายในใจเธอนั้นกลับกระวนกระวายและรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างไรชอบกล
แย่แล้วสิ...น้องจีนกลับมาไทยตอนนี้ ระหว่างคุณซอลกับเจ้าหลงจะเป็นยังไงเนี่ย...


"หลง เธอไม่กินเหรอ" ซอลถามพลางกับมองหญิงสาวเจ้าของห้องที่เอาแต่นอนซุกใต้ผ้าห่มตั้งแต่เธอออกจากห้องน้ำ จนตอนนี้ก็ไม่มีวี่แววว่าจะลุกมากินโจ๊กร้อน ๆ ที่ตนเป็นคนเตรียมเองเสียด้วยซ้ำ
"ไม่ล่ะ พี่กินเถอะ" หลงตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง
อาจจะเป็นเพราะหลงนึกอายก็เป็นได้ที่ได้เห็นเธอในสภาพที่เปลือยเปล่าในคืนที่ผ่านมาจึงได้แต่นอนหันหลังอยู่บนฟูกนอนสีดำอยู่อย่างนั้น ส่วนซอลนั้นก็อายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเสียตอนนี้เลย แต่เพราะกระเพาะเจ้ากรรมมันส่งเสียงร้องไม่หยุดนี่สิ ไหน ๆ เจ้าของห้องก็เทใส่ชามเตรียมไว้ให้แล้ว ก็กินเสียหน่อยแล้วกัน เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ
"อื้อหือ...เป็นโจ๊กที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลยนะเนี่ย!" แม้ซอลจะพยายามเรียกร้องความสนใจด้วยการส่งเสียงที่แสดงถึงความเอร็ดอร่อยพลางกับตักกินคำแล้วคำเล่าอย่างไร หลงก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอ ซอลจึงพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับบึนปากล่างด้วยความน้อยใจ
ไม่ชอบเอาเสียเลย หัวใจเธอมักจะว้าวุ่นทุกครั้งที่หลงแสดงท่าทีเมินเฉยเช่นนี้ ไม่มีเลย...ไม่มีอะไรที่ดูเป็นไปได้เลย หรือภาพที่เธอเห็นมันจะผิดเพี้ยนไปแล้ว จะยอมแพ้เสียตอนนี้มันยังดีกว่านะซอล...
"ขอบคุณที่ให้เรามาค้างที่นี่นะ แต่เราว่า เราไม่อยู่รบกวนเธอแล้วดีกว่า"
หลงยังคงนอนหันหลังแสดงท่าทีเมินเฉยอยู่อย่างนั้น ช่างน่าน้อยใจเสียนี้กระไร แม้ซอลจะอยากสู้ต่อ แต่เธอก็ไม่อาจเอาชนะใจหญิงสาวหน้าดุคนนี้ได้เลยจริง ๆ 
แต่เมื่อเธอกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นเพื่อที่จะโทรศัพท์หาใครสักคนให้มารับเธอไปจากที่นี่เสียที เธอก็สังเกตเห็นว่าร่างใต้ผ้าห่มนั้นพยายามที่จะนอนขดตัว แต่อากาศไม่ได้เย็นหรือหนาวถึงขั้นที่จะมีอาการแบบนั้นได้ ซอลจึงคลานเข้าไปหาด้วยความฉงน
"หลง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า"
"พี่ซอ...หลงปวดท้อง" เสียงสั่นเครือตอบกลับมาสร้างความร้อนใจให้คนตัวเล็กไม่น้อย ซอลจึงเอื้อมมือไปสัมผัสที่ต้นแขนของหลง ก่อนเจ้าตัวจะนอนขดตัวราวกับกุ้ง
"ล...หลง ปวดท้องแบบไหน"
"ประจำเดือนค่ะ"
"ปวดมากเลยเหรอ ทำไมก่อนหน้านี้ยังดี ๆ อยู่เลย"
"หลงฝืนไปซื้อโจ๊กให้พี่นั่นแหละ ตอนนี้เลยปวดลามไปถึงหลังแล้ว" คำตอบที่ได้ยิน ยิ่งทำให้ซอลร้อนใจหนักขึ้นไปอีก 
"ไหวไหมหลง เธอกินโจ๊กไปแล้วใช่ไหม งั้นลุกมากินยาก่อนเร็ว จะได้นอนพัก"
"ไม่เอา หลงเกลียดการกินยาที่สุด"
"ไม่ได้นะ ปวดท้องหนักขนาดนี้เธอต้องกินยานะหลง ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองทรมานแบบนี้"
"ไม่...ไม่กิน"
"อย่าดื้อสิหลง! เธอต้องกิน!"
"ไม่กิน หลงกินยาไม่ได้ หลงไม่ชอบกินยา พี่อย่าบังคับหลงเลย โอ๊ย..."
ยิ่งหลงพยายามขดตัว และส่งเสียงร้องโอดครวญออกมา ความรู้สึกของซอลคล้ายกับว่ามีก้อนหินกดทับหัวใจจนเธอรู้สึกแน่นหน้าอกและหายใจลำบากนัก แม้แต่น้ำตาก็ดูเหมือนจะแย่งกันไหล เธอจึงพยายามกลั้นใจและเก็บกดน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
"หลง...เราเห็นเธอทรมานแบบนี้ เราจะร้องไห้แล้วนะ..."
"ทำไมพี่ต้องจะร้องไห้ด้วย หลงปวดนะ ไม่ใช่พี่ปวด"
"ก็เพราะเธอปวดไง เราเลยเป็นห่วง!!" สิ้นคำพูดของซอล น้ำตาเจ้ากรรมก็รินไหลออกมาจนได้ ความรู้สึกเป็นห่วงอีกคนจนพาลทำให้เธอราวจะขาดใจไม่ต่างกันมันเป็นแบบนี้นี่เอง...
"ฮึก...กินยาเถอะนะ...เรา...เราไม่อยากเห็นเธอทรมาน" เสียงสะอื้นเล็ก ๆ เล็ดลอดออกมาแม้เจ้าตัวจะพยายามกลั้นเอาไว้ก็ตาม หลงจึงพยายามพลิกตัวกลับมาจึงได้เห็นคนตัวเล็กนั่งทับส้นอยู่ข้างฟูกนอนพร้อมกับจ้องมองเธอทั้งน้ำตา
มือเรียวข้างหนึ่งเอื้อมไปเช็ดน้ำตาที่กำลังรินไหลอย่างอัตโนมัติ เพราะเธอจำได้ดีว่าทุกครั้งที่ร้องไห้ คนเป็นยายจะใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาให้แบบนี้เสมอและเธอจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจคล้ายกับโดนปลอบประโลมแม้จะไม่มีคำพูดใดก็ตาม แต่ตอนนี้มันกลับต่างไป ต่างตรงที่เธอเป็นฝ่ายเช็ดน้ำตาให้กับผู้อื่นบ้าง
"พี่ร้องไห้ทำไมเนี่ย"
"ก็บอกว่าเราเป็นห่วงเธอไง ฮึก ๆ"
"เป็นห่วงอะไรขนาดนั้น หลงไม่ได้ตายซะหน่อย"
"อย่าพูดแบบนั้นนะ!! กว่าเราจะตามหาเธอเจอ เธอจะมาตายหนีเราไปไม่ได้!!"
"พี่พูดบ้าอะไรของพี่เนี่ย...อ๊ะ!" 
ยังไม่ทันที่หลงจะได้พูดจบ คนตัวเล็กก็โผเข้ามาสวมกอดเธอเสียแล้ว จากก่อนหน้าที่เธอเป็นฝ่ายทรมานกับอาการเจ็บป่วย ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอต้องกอดปลอบคนตัวเล็กที่นอนร้องไห้ในอ้อมกอดเธอเสียอย่างนั้น
"ถ้าไม่กินยาจะหายปวดท้องได้ไง เราต้องทำยังไง ฮึก! บอกเรามา เราจะดูแลเธอเอง"
"ไม่ต้อง"
"ทำไม เราจะดูแลเธอจริง ๆ นะหลง"
"อยู่แบบนี้สักพัก...เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเอง"
เรียวแขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กโอบกอดเธอเอาไว้จนสัมผัสได้ถึงร่างอุ่น ๆ ที่ตอนนี้แทรกตัวเข้ามาอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันไปเสียแล้ว มันทำให้หลงรู้สึกหวิว ๆ ในใจชอบกล จะว่าอึดอัดก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ชอบก็ไม่เชิง แต่มัน...เรียกว่ารู้สึกดีจะถูกมากกว่า
นับว่าเป็นอ้อมกอดแรกที่ไม่ใช่ของยายผู้เป็นที่รัก เพราะนี่คือคนที่เพิ่งจะรู้จักเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่มันกลับอบอุ่นประหนึ่งอ้อมกอดของคนเป็นยายที่ช่วยปลอบประโลมเธอได้เป็นอย่างดี
จากเดิมทีเธอจะได้ยินเสียงที่สับสนวุ่นวายจากความคิดของผู้คนแต่ตอนนี้มันกลับเงียบสงัดจนได้ยินเสียงของก้อนเนื้อที่กำลังเต้นอยู่ในร่างกายของตัวเอง มันดังชัดประหนึ่งเสียงตีกลองดังก้องในอาคารที่ไร้เสียงผู้คนมารบกวนอย่างไรอย่างนั้น
ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...
เสียงที่ดังก้องกังวาลไปทั่วโสตประสาทจนไม่สามารถแยกได้เลยว่ามันดังมาจากที่ใดกัน มันเป็นของเธอเอง หรือของหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังนอนสวมกอดเธออยู่กันนะ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลงชอบเสียงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่มากเสียจนอยากจะหลับใหลไปทั้งอย่างนี้ เพราะมันสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 
"ปวดมากไหมหลง มีอะไรให้เราช่วยบอกได้เลยนะ ให้หาถุงน้ำร้อนมาประคบท้องให้ไหม หรือให้เราไปซื้อแผ่นร้อนมาแปะท้องให้หรือเปล่า หรือจะดื่มอะไรอุ่น ๆ ไหม เราจะออกไปซื้อให้ ขอแค่ให้เธอบอกมาว่าเธอต้องการอะไร" ซอลยันตัวเองลุกขึ้นพลางกับจ้องมองอีกคนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หลงรู้สึกได้ทันทีแม้จะไม่ได้ยินเสียงความคิด เพราะแววตาที่มองมานั้น เต็มไปด้วยความจริงใจเหมือนนัยน์ตาคู่หนึ่งของคนเป็นยายไม่มีผิด
"ทำไมไม่ตอบ ไม่ไหวใช่ไหม เดี๋ยวเราไปซื้อถุงน้ำร้อนให้เดี๋ยวนี้แหละ!"
"ไม่!"
ยังไม่ทันที่ซอลจะได้ลุกไปไหนก็มีมือเรียวข้างหนึ่งคว้าที่ข้อมือของเธอเสียก่อนจนทำเธอถึงกับชะงักและหันมามองเจ้าของมือเรียวที่ใช้แววตาดุดันมองมา เธอทำอะไรให้เจ้าตัวไม่พอใจอีกแล้วหรือเนี่ย
"ทำไม?" ซอลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน หลงจึงใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เกาที่ขมับพร้อมกับหลบสายตาไปทางอื่น
"ไม่ได้ใส่อะไรข้างในไม่ใช่เหรอ จะออกไปทำไม"
"ถ้าเราไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราไม่ใส่ ก็ใส่เสื้อฮู้ดเธอคลุมไปก็ได้นี่"
"ไม่...ไม่อนุญาตให้ใส่"
"งั้นเราจะไปดูเสื้อผ้าที่ตากไว้แล้วกัน" เมื่อซอลกำลังจะลุกขึ้น หลงก็รีบคว้าที่ข้อมือบางเอาไว้อีกครั้ง
"อะไรของเธอเนี่ยหลง เราไม่ใส่ของเธอก็ได้ ป่านนี้เสื้อผ้าเราแห้งแล้วมั้ง"
"ยังไม่แห้งหรอก"
"แดดก็แรงอยู่นะ ทำไมจะไม่แห้งล่ะ"
"ก็บอกว่ายังไม่แห้งไง! ทำไมพี่ไม่เข้าใจ หลงไม่ให้พี่ออกไปไหนทั้งนั้น!" เมื่อจู่ ๆ นัยน์ตาสีดำทมิฬแสดงความดุร้ายออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซอลจึงได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
นี่หลงโกรธอะไรเราเนี่ย?
"ถ้าไม่ให้เราออกไปไหนแล้วจะให้เราทำยังไง ปกติเธอทำยังไงถึงจะหายปวดท้อง"
"นอน"
"แค่นอนพักเฉย ๆ น่ะนะ?"
"อื้อ พี่ก็นอนด้วย ตราบใดที่เสื้อผ้ายังไม่แห้งพี่ห้ามออกไปไหน"
"คือเราไม่เข้าใจ เราต้องดูแลเธอนะหล...อ๊ะ!"
ยังไม่ทันที่ซอลจะได้พูดจบประโยค ข้อมือของเธอก็ถูกคนหน้าดุกระชากจนร่วงตุบไปนอนซบหน้าอกเจ้าตัวเสียแล้ว และเมื่อเธอพยายามจะลุกขึ้นก็ถูกเรียวแขนทั้งสองข้างโอบรัดเอาไว้เสียอย่างนั้น ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าคนหน้าดุต้องการอะไรกันแน่
"อ๋อ...อยากนอนกอดเราก็ไม่บอก"
"ทำไมพี่พูดมากจัง อยู่เงียบ ๆ หน่อยได้ไหม"
"จิ๊!"
คนตัวเล็กทำเสียงจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจ แต่หลงกลับนอนอมยิ้มที่เจ้าตัวสงบปากสงบคำเสียที พูดมากดีนัก กอดเสียให้เข็ด!
"ปกติปวดท้องประจำเดือนหนักขนาดนี้ตลอดเลยเหรอ"
"ค่ะ"
"แล้วตอนปวดท้องมาก ๆ เธอไปทำงานได้ยังไงเนี่ย"
"หลงไม่เคยไปทำงานวันที่ประจำเดือนมาค่ะ เพราะหลงไม่ไหวจริง ๆ ทุกครั้งจะปวดหนักมาก แต่หลงก็กินยาไม่ได้"
"ทำไมกินยาไม่ได้ล่ะ"
"ก็...เอ่อ...หลงกลืนยาเม็ดไม่เป็น"
"เธอนี่มันเหมือนกับเด็กชะมัด"
"ผู้ใหญ่กลืนยาเม็ดไม่ได้ก็เยอะแยะ ทำไมต้องบอกว่าหลงเป็นเด็กด้วย หลงโตกว่าพี่ตั้งเยอะ"
"ชิ..."
ไม่มีคำใดเถียงกลับมา นอกจากคนตัวเล็กจะนอนแน่นิ่งอยู่ในอ้อมกอดจนความเงียบเข้ามาปกคลุมคนทั้งสองอีกครั้ง ไออุ่นที่ได้รับนั้นมันทำให้ทั้งสองต่างเคลิบเคลิ้มและหลับใหลไปพร้อม ๆ กันในเวลาเพียงไม่นาน
กระทั่งเวลาผ่านไปค่อนชั่วโมง ซอลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เธอจึงนอนมองอีกคนที่ตะแคงหันมาทางเธอพร้อมกับกอดเธอเอาไว้ราวกับกลัวว่าจะถูกปล่อยให้อยู่คนเดียว มันทำให้คิดถึงภาพวันที่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งก็คือเหตุการณ์ที่หลงจับชายกระโปรงของเธอเอาไว้พร้อมกับเบือนหน้าหลบไปอีกทางเพื่อเก็บซ่อนน้ำตา
"ความจริงแล้ว...เธอก็ต้องการใครสักคนใช่ไหมหลง" มือเล็กเอื้อมไปเกลี่ยผมสีดำขลับไปทัดที่หลังหู ก่อนจะวางลงที่แก้มเนียนอย่างแผ่วเบา
รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยบนใบหน้าหญิงสาวเจ้าของผมสีบลอนด์ทองอย่างอัตโนมัติทันทีที่เห็นคนหน้าดุนอนหลับตาพริ้มราวกับเด็ก ปากอมชมพูค่อนไปทางฉ่ำแดงขยับเม้มเป็นพัก ๆ พร้อมกับคิ้วกระตุกขมวดผูกเป็นปม ซอลจึงใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หัวคิ้ว ก่อนจะลากมาที่ปลายจมูกช้า ๆ จนมาหยุดที่ริมฝีปากอมชมพู
"เจ้าหลงกำลังฝันอะไรอยู่เนี่ย..."
"ยาย...น้องหลงเหงา...กลับมาได้ไหม กลับมาอยู่กับน้องหลงได้ไหม น้องหลงคิดถึงยาย..." เสียงละเมอคล้ายคนกำลังพึมพำเบา ๆ มันทำให้ซอลถึงกับชะงัก ภาพถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นคงเป็นยายของเธอสินะ
"ไม่เป็นไรนะหลง...ต่อจากนี้เธอจะมีเรานะ เราจะไม่ทิ้งเธอไปไหน" ซอลเอื้อมมือลูบศีรษะหลงอย่างแผ่วเบาจนอาการก่อนหน้าค่อย ๆ สงบลง เจ้าตัวคงนอนหลับไปได้อย่างอุ่นใจแล้วเป็นแน่ เพราะคิ้วที่เคยขมวดเป็นปม ตอนนี้ค่อย ๆ คลายออกแล้ว อีกทั้งรอยยิ้มมุมปากคล้ายคนกำลังฝันดีมันทำให้ซอลอดที่จะยิ้มตามไม่ได้เลยจริง ๆ


"ถ้าหลงกินยาไม่ได้ก็คงต้องใช้ไอ้นี่แหละ คงช่วยบรรเทาได้บ้าง" ซอลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางกับเลือกดูกระเป๋าน้ำร้อนที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นวาง ซึ่งทั้งหมดเต็มไปด้วยกระเป๋าน้ำร้อนไฟฟ้าลายการ์ตูนน่ารัก ๆ คงไม่ถูกใจเจ้าตัวเป็นแน่ แต่สำหรับซอลแล้วนั้น เธออยากจะเหมาหมดเสียทั้งชั้นเลย
"ฮือ...น่ารัก นี่ก็น่ารัก ถ้าซื้อเจ้านี่ไปรู้เลยว่าหลงต้องทำหน้าดุใส่แน่ ๆ แต่ก็ไม่สนหรอก ชอบทำหน้าดุใส่ดีนัก เอาลายหมีสีชมพูไปเลยแล้วกัน! คิกคิก" ปากว่า มือก็หยิบกระเป๋าน้ำร้อนลายหมีสีชมพูลงตะกร้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนเธอจะชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังเลือกซื้อของอยู่ไม่ไกลจากเธอมากนัก
ทันทีที่สาวสวยคนนั้นหันมาทางเธอ ต่างฝ่ายต่างชะงักและดวงตาเบิกโพลงไม่ต่างกัน เพราะเธอคนนั้นเป็นคนที่ซอลคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั่นเอง
"จีน!" 
"เฮ้ย! ซอล!" สาวสวยโผเข้ามาสวมกอดเธอด้วยความดีใจพร้อมกับกระโดดโลดเต้นประหนึ่งเด็กน้อยได้ของขวัญอย่างไรอย่างนั้น ก่อนเธอจะผละออกจากอ้อมกอดและสำรวจไปรอบ ๆ ตัวของซอลด้วยความตื่นเต้น
"จ...จีน กลับไทยแล้วเหรอ"
"อื้อ! จีนเพิ่งกลับไทยเมื่อสามวันก่อนนี่เอง ซอลเป็นยังไงบ้าง ดีใจจังที่ได้เจอที่นี่"
"ซอลสบายดี แล้วจีนมาทำอะไรแถวนี้เนี่ย"
"จีนไปหาซอลที่ร้านมานี่แหละแต่พี่จิ้งหรีดบอกว่าซอลไม่เข้าร้าน ก็เลยขับรถเล่นมาเรื่อย ๆ จนมาเจอร้านนี้ คิดถึงเมื่อก่อนเนอะ ซอลชอบเข้าร้านกิ๊ฟช็อปมาก ตอนนี้ก็ยังชอบเข้าร้านกิ๊ฟช็อปเหมือนเดิมเลยนะ" เธอพูดพลางกับยิ้มไม่หุบ
"อ๋อ อื้อ ก็คนเดิม ยังไงก็เหมือนเดิมแหละ"
"นั่นสิเนอะ แล้วซอลชอบสีดำตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ ปกติเห็นใส่แต่สีชมพูนี่" จีนมองสำรวจเสื้อผ้าที่คนตัวเล็กสวมใส่ ซึ่งเป็นสีดำล้วน ตั้งแต่เสื้อฮู้ด และกางเกงขายาวที่ดูตัวใหญ่ผิดไซส์ไปหน่อย แต่สำหรับซอลนั้นก็ยังคงดูน่ารักในแบบฉบับของเธออยู่ดี
"เอ่อ...ก็...เปล่าหรอก พอดีว่าไปค้างบ้านเพื่อนมาน่ะ เลยยืมชุดใส่"
"อ๋อ...ถึงว่าล่ะ แล้วนี่กินไรยัง ไปกินเกี๊ยวหมูเฮียเฮงกันไหม ว่าแต่ยังขายอยู่ไหมเนี่ย ไม่อยู่ไทยสองปี เฮียยังขายอยู่หรือเปล่า"
"อื้อ" ซอลพยักหน้าพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ กลับไป เพราะคนที่ทำให้เธอชอบกินเกี๊ยวหมูมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
จะว่าดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอกที่ได้เจอจีนที่นี่ แต่ทำไม...เราถึงรู้สึก อยากหนีไปจากที่นี่ตอนนี้เลย ซอลคิดในใจ
"เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สะดวกก็บอกได้นะ"
"ไว้วันหลังนะจีน คือวันนี้ซอลไม่สะดวกจริง ๆ"
"ได้สิ ไว้จีนเข้าไปหาซอลที่ร้านก็ได้"
"ม...ไม่!! เรานัดเจอกันข้างนอกดีกว่านะ ไม่ต้องเข้าไปหรอก พอดีว่าซอลไม่ค่อยเข้าร้านไง จีนก็รู้นี่"
"อ้อ! จริงด้วย แล้วนี่จะไปไหนต่อเหรอ"
"กลับไปหอเพื่อนน่ะ เพื่อนปวดท้องประจำเดือนเลยออกมาซื้อกระเป๋าน้ำร้อนให้นี่แหละ" สิ้นคำพูดของซอล จีนจึงชะงักเล็กน้อยก่อนจะเหลือบมองกระเป๋าน้ำร้อนในตะกร้า จากใบหน้าที่แต้มไปด้วยรอยยิ้ม มันกลับจางหายไปในชั่วพริบตา จนซอลเองก็แปลกใจว่าทำไมกัน คนที่เคยสดใสกลับกลายเป็นใบหน้าเศร้าได้
"จีนเป็นอะไรหรือเปล่า"
"เจอแล้วสินะ คนที่ซอลตามหา"
"หือ...จีนหมายความว่ายังไง"
"เขาคนนั้นโชคดีเนอะที่ถูกซอลใส่ใจแบบนี้" 
เมื่อจีนยิ้มกลับมาแต่มันกลับทำให้ซอลรู้สึกเจ็บแปลบอย่างไม่ทราบสาเหตุ คำพูดของเธอมันหมายความว่าอย่างไรกัน อีกทั้งแววตาที่มองมามันอธิบายเป็นคำพูดใด ๆ ไม่ได้เลย
"ซอลมายังไง หน้าร้านไม่เห็นมีรถซอลจอดอยู่เลย"
"เดินมาน่ะ จีนจำรถซอลได้ด้วยเหรอ"
"อะไรที่เกี่ยวกับซอล จีนจำได้หมดแหละ ให้จีนไปส่งไหม จีนว่างนะ"
"ไม่เป็นไร หอเพื่อนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่น่ะ เดินกลับแป๊บ ๆ ก็ถึงแล้ว"
"อ๋อ อืม งั้นกลับดี ๆ นะ งั้นจีนกลับก่อนนะ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก ดีใจที่ได้เจอซอลนะ" รอยยิ้มเผยบนใบหน้าของจีนอีกครั้ง แต่แววตาของเธอนั้นไม่ได้ยิ้มตามไปด้วยเลยแม้แต่น้อย แต่ในขณะที่จีนกำลังจะก้าวเดินจากไป อยู่ ๆ เธอก็หยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้
"ที่จีนกลับมา...เพราะจีนคิดถึงซอลนะ" ใบหน้าสวยแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินจากไปสร้างความรู้สึกหวิว ๆ ในใจให้ซอลไม่น้อย เพราะเดิมทีผมของหญิงสาวร่างสูงโปร่งคนนี้เคยยาวสลวยสีดำขลับ แต่ตอนนี้กลับถูกตัดสั้นประบ่าทั้ง ๆ ที่เธอรักและหวงแหนผมยิ่งกว่าอะไรดี 
อืด อืด อืด ~
ในขณะที่ซอลเต็มไปด้วยความสงสัยนั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อฮู้ดก็สั่นครืดจนทำเธอถึงกับสะดุ้ง
"ฮ...ฮัลโหลพี่ฟา"
"แหม ก็ฟื้นแล้วนี่ แต่ไม่กลับบ้าน ไม่เข้าร้าน ไม่โทรให้พี่ไปรับด้วย มันอะไรขนาดนั้นน่ะซอล ติดเด็กจริง ๆ เหรอเนี่ย" เสียงกระแนะกระแหนจากปลายสายทำเอาซอลถึงกับหน้ามุ่ย
"เปล่าซะหน่อย พอดีว่าหลงปวดท้องประจำเดือนน่ะ เลยอยู่ดูแล"
"อ้าว พลัดกันดูแลเหรอ แล้วเมื่อคืนหลงดูแลดีไหม แล้วรู้ตัวไหมว่าตัวเองไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้"
"ฮะ!? อะไรอะ ซอลสร้างวีรกรรมอะไรคะ"
"หลงเข้าใจผิดว่าซอลเป็นแฟนเก็บพี่น่ะสิ"
"เฮ้ย!!! ได้ไงเนี่ย!!?"
"เฮ้อ...พี่สิต้องเป็นคนถาม ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง รีบไปบอกความจริงกับหลงเดี๋ยวนี้เลยนะ คนอื่นเดือดร้อนไปหมดเลยเนี่ย!"
"ฮือ! พี่ฟาชอบดุอะ!!"
"ก็มันน่าดุไหมล่ะ!!?"
"ซอลพยายามอยู่ค่ะ แต่แบบ...เวลามีโอกาส ซอลกลับไม่กล้าพูดออกมาตลอดเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม"
"เพราะซอลกลัวหลงไม่รักไง ซอลอยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริงตามภาพที่ซอลเห็น ซอลเลยทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันเกิดขึ้น"
"ไม่ใช่สักหน่อย ซอลเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ต่างหาก"
"แน่ใจนะ"
"พี่ฟา...ทำไมพูดแบบนี้อีกแล้วเนี่ย พี่ฟาเชื่อซอลมาตลอดนะคะ" เธอพูดเสียงแผ่วด้วยความน้อยใจ
"เฮ้อ...ซอล พี่ถามจริง ๆ นะ ซอลคิดยังไงกับหลง" สิ้นคำถาม ทำเอาซอลถึงกับชะงัก ก่อนปลายสายจะพูดเสริมจากเดิม
"ซอลรักหลงหรือเปล่า หรือแค่อยากให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเหมือนในภาพที่เห็น ซอลแค่อยากให้เรื่องทุกอย่างมันดำเนินไปในแบบที่ซอลต้องการเฉย ๆ หรือเปล่า คิดดี ๆ นะ ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไรก็หยุดเถอะ อย่าทำให้หลงรู้สึกดีกับซอลไปมากกว่านี้เลย เพราะซอลเองนั่นแหละ ที่จะทำให้ทุกอย่างพังหมด และซอลเองนั่นแหละที่จะเป็นคนทำร้ายหลง เหมือนที่ซอลทำกับจีนไง"
ความรู้สึกเหมือนมีหอกแหลมพุ่งเสียบกลางหัวใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง ร่างกายของซอลเย็นเฉียบจนยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิม คำพูดของคนเป็นพี่มันรุนแรงจนกระแทกหัวใจของเธอแทบบอบช้ำ
มันไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย...ก็เพราะรักน่ะสิ ถึงต้องทำทุกวิถีทาง และจีนต่างหากที่ทำร้ายเธอ ไม่ใช่เธอเป็นฝ่ายกระทำเสียหน่อย...
"เงียบนะ โดนพี่พูดความจริงหน่อยจุกจนพูดไม่ออกเลยเหรอ"
"ซอลเป็นฝ่ายถูกทิ้งนะพี่ฟา ทำไมพี่ต้องพูดแบบนี้อะ พี่ฟาไม่เคยอ่อนโยนต่อจิตใจซอลเลย"
"ซอล ซอลคิดดี ๆ นะ ที่ผ่านมาซอลเคยใส่ใจจีนบ้างหรือเปล่า"
"ใส่ใจสิคะ!"
"แล้วเคยดูแลวันที่จีนปวดท้องประจำเดือนบ้างไหม" สิ้นคำถาม ทำให้ซอลแทบกระอักอีกครั้ง มือข้างซ้ายที่ถือตะกร้าจู่ ๆ ก็อ่อนแรงจนตะกร้าร่วงตุบตามแรงโน้มถ่วงทันที
ตุบ!!!
"จีนไม่เคยปวดท้องประจำเดือนนะพี่ฟา"
"ผู้หญิงที่ไม่ปวดท้องประจำเดือนคือลาภอันประเสริฐ แต่สำหรับจีนคือไม่ เพราะพี่นี่แหละเคยพาจีนไปหาหมอเพราะปวดท้องประจำเดือนมาก แต่ซอลกลับเอาแต่อ่านหนังสืออยู่ที่ร้าน"
"ม...ไม่จริงน่า...ทำไมจีนไม่เคยบอกซอลล่ะ"
"พี่ถึงเตือนสติซอลตลอดไง หัดใส่ใจคนอื่นบ้างนะ ซอลพลาดอะไรไปเยอะแยะเลยล่ะรู้ตัวไหม จีนน่ะรักซอลมากนะ แต่ซอลนั่นแหละที่ไม่ได้รักจีนเลย แต่ซอลแค่ยอมให้เรื่องทุกอย่างมันดำเนินไปตามภาพที่ซอลเห็น เลิกคิดถึงไอ้ภาพนั่นสักทีเถอะ แล้วหันมาสนใจคนรอบข้าง หันมามองโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง ก่อนที่อะไร ๆ มันจะสายไปกว่านี้ ไม่สิ...พี่ต้องบอกว่า ก่อนที่ซอลจะทำร้ายหลงใช่ไหม ซอลถึงจะหยุด"
เจ็บ...เจ็บปวดไปทั้งหัวใจ...


เอี๊ยด...
เสียงของวงกบประตูที่เต็มไปด้วยคราบสนิมส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดบ่งบอกถึงความเก่า ซอลยืนมองร่างของใครอีกคนที่ยังคงนอนหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาสีดำ
คำพูดของคนเป็นพี่มันทำให้เธอฉุกคิด ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอรู้สึกอย่างไรกับหลงกันแน่ อีกทั้งแววตาของหญิงสาวคนรักเก่าที่มองเธอ มันทำให้รู้สึกจุกอยู่ในอกจนแทบไร้เรี่ยวแรงจะเดินต่อ
วืด....วืด...
ซอลนั่งจ้องมองกระเป๋าน้ำร้อนที่เพิ่งจะซื้อมากำลังขยายใหญ่ขึ้นหลังจากที่เสียบปลั๊กเพื่อทำความร้อน อีกประเดี๋ยวก็คงจะอุ่นได้ทีเหมาะสำหรับนำไปประคบท้องให้คนป่วยแล้วล่ะ
กึก!
ทันทีที่ระบบไฟฟ้าตัดไปเมื่อกระเป๋าน้ำร้อนได้อุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว ซอลจึงนำไปวางประคบที่หน้าท้องของหลงพลางกับมองใบหน้าเจ้าตัวที่ยังคงนอนหลับตาพริ้ม มันอดคิดถึงคำพูดของคนเป็นพี่ไม่ได้เลยจริง ๆ
"แล้วเคยดูแลวันที่จีนปวดท้องประจำเดือนบ้างไหม"
"ซอลรักหลงหรือเปล่า หรือแค่อยากให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเหมือนในภาพที่เห็น"
ใช่...คำพูดเหล่านั้นรบกวนจิตใจเธอจนกระทั่งตอนนี้ 
ถ้าไม่ได้เจอจีนวันนี้....เราก็คงไม่สนใจคำพูดของพี่ฟาด้วยซ้ำ เราคงจะปล่อยผ่านมันเหมือนทุก ๆ ครั้ง แต่ตอนนี้เรากลับรู้สึกผิดจนไม่กล้าที่จะอยู่ตรงนี้ มันก็จริงอย่างที่พี่ฟาพูดทุกอย่าง ที่ผ่านมาเราไม่เคยใส่ใจใครเลย จีนปวดท้องประจำเดือนเรายังไม่เคยรู้ หลงไม่เคยไปทำงานวันที่ปวดท้องประจำเดือนเราก็ไม่เคยสนใจ เพราะเป็นแค่พนักงานพาร์ทไทม์คนหนึ่ง จะมาหรือไม่มาก็ไม่ได้สน ยังไงก็จ่ายเงินเดือนตามวันเวลาที่มาทำงานอยู่แล้ว เหอะ...ถ้าเราไม่เจอหน้าหลง ถ้าหลงไม่ได้หน้าเหมือนคนที่เรากำลังตามหา เราก็คงจะไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าหลงจะเป็นตายร้ายดียังไง เรานี่มัน...แย่จริง ๆ
"หลง...ถ้าอยู่ ๆ เราก็หายไป...เธอจะเสียใจไหม ฮึก ๆ" เสียงสั่นเครือเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา จนพามือเล็กทั้งสองข้างสั่นเทาไปด้วย เป็นเพราะความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใจแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
"ไม่หายไป...ไม่ได้เหรอ" มือเรียวข้างหนึ่งเอื้อมมากุมมือเธอเอาไว้จนซอลถึงกับสะดุ้ง เจ้าตัวไม่ได้หลับอย่างที่เข้าใจ แต่เธอแค่นอนหลับตาเพราะทรมานจากอาการปวดท้องก็เท่านั้น
"พี่หายไปไหนมา หลงไม่ให้พี่ออกไปไม่ใช่เหรอ"
"เราไปซื้อกระเป๋าน้ำร้อนมาให้เธอ"
"พี่นี่ดื้อชะมัด แต่หลงคงห้ามพี่ไม่ได้สินะ หลงเข้าใจ เพราะตอนที่พี่เมา หลงก็ห่วงพี่จนต้องทำทุกอย่างเพื่อดูแลพี่เหมือนกัน"
"ฮึก ๆ" คำพูดของหลงมันทำให้ทวีความเจ็บปวดในหัวใจขึ้นอีกเป็นเท่าตัว 
อาจเป็นเพราะอารมณ์อ่อนไหวใจช่วงประจำเดือนก็เป็นได้ถึงทำให้หลงพูดออกมาทั้งอย่างนี้ อีกทั้งนัยน์ตาสีดำที่แสดงความอ่อนโยนออกมาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทำให้เสียงสะอื้นดังออกมาด้วยความรู้สึกผิดเต็มประดา
อย่าเพิ่งรู้สึกอะไรกับเราตอนนี้นะหลง...ขอล่ะ
"อย่าร้องไห้สิคะ" น้ำเสียงที่อ่อนโยนของหลงสัมผัสได้เลยว่าเธอกำลังพยายามที่ปลอบประโลม ซ้ำยังมีเรียวเอื้อมมาปาดน้ำตาให้อีกด้วย
"หลง...ทำไมเธอต้องดีกับเราด้วย"
"เพราะพี่เป็นคนเดียวที่อยากเป็นเพื่อนกับหลง หลงเลยอยากทำดีกับพี่ให้มาก ๆ ไง"
"ม...ไม่ต้องหรอก ฮึก! เพราะเราไม่ใช่คนดีหรอกนะ"
"หลงไม่สนหรอกว่าพี่จะเป็นคนดีหรือไม่ดี ขอแค่พี่จริงใจกับหลงก็พอ"
ไม่...ไม่ใช่...เราไม่ได้จริงใจกับเธอเลยสักนิด เราขอโทษนะหลง...
"เราต้องกลับแล้วนะ พี่สาวเราจะมารับ เดี๋ยวเราซักชุดมาคืนนะ" ในขณะที่ซอลกำลังจะลุกเดินจากไป หลงก็รีบคว้าที่ข้อมือของเธอเอาไว้เสียก่อน
"อย่าเพิ่งกลับได้ไหมพี่...นะ..." น้ำเสียงและแววตาของหลงที่มองมาประหนึ่งเด็กกำลังออดอ้อน ซอลจึงพยายามหักห้ามใจเอาไว้ไม่ให้ตนเผลอใจอ่อน เธอจึงพยายามชักมือกลับ แต่เมื่อเธอจะลุกขึ้นหลงก็โผเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลัง ทำเอาซอลถึงกับชะงักและดวงตาเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่หลงทำ
"ล...หลง..."
"อย่าไปนะพี่ซอ อย่าทิ้งหลงไป หลงไม่อยากอยู่คนเดียว"
"คือ...เราขอโทษนะหลง แต่ตอนนี้เราไม่อยากอยู่รบกวนเธอ"
"ไม่ ไม่เลย พี่ไม่ได้รบกวนหลงเลย การมีพี่มันทำให้หลงอุ่นใจ นะพี่ซอ...อย่าเพิ่งกลับนะ"
"อ...อืม" แม้จะอยากปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม แต่ซอลก็พ่ายแพ้ให้กับหลงจนได้ ก้อนเนื้อที่เต้นตึกตักเธอไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันคืออะไร
มันคือความรู้สึกผิด หรือความดีใจ หรือความแปลกใจ หรือความสงสาร ความสับสนอลหม่านก่อเกิดขึ้นเพียงเพราะการกระทำที่ไม่คุ้นชินของเจ้าตัวหรือเปล่านะ ที่ปกติแล้วจะต้องทำหน้าดุใส่ แต่ครั้งนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนจนซอลตั้งตัวไม่ทัน มันถึงทำให้เธอใจอ่อนฮวบราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกจนคืนสภาพในทันทีทันใด 


"ดีขึ้นบ้างไหม" ซอลถามพลางกับนั่งกอดเข่าพิงผนังห้องเอาไว้ โดยที่มีคนหน้าดุก็นั่งพิงพนังกุมท้องอยู่ข้าง ๆ ด้วยเช่นกัน
"ดีขึ้นค่ะ เพราะกระเป๋าน้ำร้อนของพี่เลยนะเนี่ย"
"อืม...เราซื้อให้นะ ถ้าปวดท้องอีกก็เสียบปลั๊ก รอให้ไฟตัดแล้วก็เอามาประคบท้องแบบนี้อีกนะ"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ" 
ซอลนึกแปลกใจเล็กน้อยที่ตนไม่ถูกเจ้าตัวดุ เพราะมันคือสีชมพูที่บอกว่าเกลียดนักหนา แต่ไฉนตอนนี้กลับกอดเอาไว้ราวกับตุ๊กตา ทำไมเธอไม่ถูกดุกันนะ
"ไม่ชอบสีชมพูไม่ใช่เหรอ"
"อื้อ"
"ทำไมไม่บ่นเราล่ะ ที่เราซื้อสีชมพูมาให้"
"มีคนซื้อให้ทำไมต้องบ่นด้วย แบบนี้คนซื้อเสียใจแย่ หลงต้องขอบคุณสิถึงจะถูก"
"เอ่อ...นั่นสินะ พอเป็นประจำเดือนแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยเนอะ"
"เปลี่ยนยังไงคะ"
"ดูเธอ...อ่อนโยน" 
เมื่อคนหน้าดุหันขวับมามอง ซอลจึงรีบหลบสายตาทันที คงเผลอพูดอะไรผิดอีกเป็นแน่ กะแล้วเชียวว่าอย่างไรเสีย วันนี้เธอก็ต้องโดนดุเข้า แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเข้าใจ
"นอกจากยาย พี่คือคนแรกเลยนะที่ได้เห็นมุมนี้ของหลงน่ะ"
"เหรอ แล้วทำไมถึงไม่แสดงมุมที่อ่อนโยนแบบนี้ให้คนอื่นได้เห็นล่ะ"
"หลงไม่อยากอ่อนแอในสายตาคนอื่น เพราะหลงเคยพยายามเข้าหาคนอื่น ๆ ด้วยความอ่อนโยน แต่หลงกลับถูกรังแกเหมือนหลงเป็นตัวประหลาด" 
ซอลหันมามองเจ้าตัวทันทีที่พูดจบ แววตาของหลงมองตรงไปข้างหน้าพลางกับนั่งเอนพิงพนังห้องอย่างเลื่อนลอย ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าคนหน้าดุกำลังคิดอะไรในใจ เพราะจู่ ๆ เธอก็ยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น ก่อนจะหัวเราะในลำคอจนทำให้ซอลมองเธอคิ้วขมวด
"หึหึ"
"เธอหัวเราะอะไรน่ะ"
"แค่ตลกตัวเองเมื่อก่อน"
"ทำไมล่ะ"
"หลงถูกรังแกมาตั้งแต่เกิดน่ะพี่ซอ เพราะหลงอ่านความคิดของคนอื่นได้ ไม่สิ...หลงได้ยินเสียงความคิดของทุกคน มันเลยทำให้หลงถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด" สิ้นคำพูดของหลง ทำเอาซอลถึงกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
"มันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ แสดงว่าเธอก็ได้ยินเสียงความคิดเราสิ"
"เปล่า..."
"หมายความว่ายังไง"
"หลงได้ยินเสียงความคิดของทุกคน ยกเว้นพี่"
"จ...จริงเหรอ" 
"ค่ะ วันนั้นที่มีปัญหากับลูกค้าเพราะหลงได้ยินเขาคิดว่าจะขโมยหนังสือ แล้วเขาก็ขโมยหนังสือที่ร้านเราหลายครั้งแล้ว หลงเลยทำตัวไม่ถูก คิดแค่ว่าต้องปกป้องหนังสือเล่มนั้นของคุณซอลเอาไว้"
"งั้นก็หมายความว่าเธอก็ได้ยินเสียงความคิดของคุณซอลแล้วสิ!!"
"ไม่ค่ะ ต้องสัมผัสโดนตัวกันเท่านั้นถึงจะได้ยิน หรือไม่ก็มีตัวกลางเป็นตัวนำพา อย่างเช่นถ้าหลงจับหนังสือเล่มเดียวกันกับพี่จิ้งหรีด หลงก็จะได้ยินเสียงความคิด แต่ถ้าไม่ได้สัมผัสอะไรเลยก็จะไม่ได้ยิน หลงเลยเลี่ยงที่จะสัมผัสโดนตัวทุกคน แต่มันก็เลี่ยงได้เท่าที่เลี่ยงนั่นแหละค่ะ"
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีอะไรแบบนี้บนโลกด้วย แบบนี้ก็ดีสิที่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเรา"
"ไม่ดีหรอก"
"อ้าว ทำไมล่ะ"
"ภายในใจทุกคนมักจะตรงข้ามกับสิ่งที่พูดออกมาเสมอนั่นแหละพี่ซอ ต่อหน้าชมเชยเรา ในใจอาจจะอิจฉาและด่าทอเราอยู่ก็ได้ ซึ่งหลงได้ยินแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วแหละ มันทรมานนะพี่ ที่ต้องโตมากับคำด่าสารพัด"
"โห...เพราะแบบนี้มันทำให้เธอเป็นคนเข้าถึงยากหรือเปล่า"
"ก็ไม่เชิงว่าเข้าถึงยากหรอกค่ะ แต่มันเพราะหลงป้องกันตัวเองจากคนไม่จริงใจน่ะ ตอนเด็ก หลงเคยรักและเชื่อใจครูคนหนึ่งมาก ๆ และมองว่าเขาเป็นพ่อเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาพูดเพราะ และดูใจดี แล้ววันหนึ่งหลงก็บังเอิญรู้ความลับของเขาเข้าเพราะเขาเดินมาจูงมือหลงตอนที่ยายมารับ หลงได้ยินเขาคิดว่าจะไปแอบถ่ายใต้กระโปรงครูผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหลงยังเด็กเลยไม่รู้ว่ามันคืออะไร หลงก็เลยเดินไปบอกเจ้าตัวให้เลย สุดท้ายกลายเป็นเรื่องใหญ่ ครูคนนั้นโดนผอ.เรียกไปพบแล้วก็ถูกติเตือน โชคดีที่เป็นญาติของ ผอ.เลยไม่ถูกไล่ออก แต่ครูผู้หญิงคนนั้นดันโดนไล่ออกเพราะทำร้ายร่างกายครูผู้ชาย หลังจากนั้นหลงก็ถูกครูคนนั้นกลั่นแกล้งมาตลอด ยายเลยบอกหลงว่า ห้ามไปพูดตามความคิดของใคร เพราะมันจะเป็นภัยต่อตัวเอง"
"เธอเก่งมากเลยนะหลง ที่โตมาได้ขนาดนี้ เราเข้าใจเธอนะ เราก็สัมผัสได้ในบางครั้งว่าเธอก็ต้องการใครสักคน ไม่ได้อยากปิดกั้นตัวเองเสียทีเดียว"
"ใช่ค่ะ หลงต้องการใครสักคนมาก ๆ ตั้งแต่ยายเสีย ชีวิตของหลงก็เหมือนไม่เหลือใคร"
"เราเชื่อนะหลง ว่าเธอจะมีคนที่รักและคอยอยู่เคียงข้างเธอ"
"ขอบคุณนะคะ"
"ว่าแต่ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงความคิดของเราล่ะ"
"หลงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ มันกวนใจหลงมากเลยที่หลงไม่ได้ยินเสียงความคิดของพี่ หลงไม่รู้ว่าพี่มาดีหรือมาร้าย แต่รอยยิ้มของพี่ แววตาของพี่ มันทำให้หลงคิดถึงยาย พี่ต้องเป็นคนใจดีเหมือนยายแน่ ๆ"
"เอ่อ..." 
จะว่าอย่างไรดีล่ะ ใครจะไปคิดว่าหลงจะมองเธอแบบนั้น มันยิ่งทำให้ซอลรู้สึกกระอักกระอ่วนและรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตนทำลงไป แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสพูดความจริง เธอมักจะไม่กล้าเสมอ
"เราไม่ใช่คนดีหรอกนะหลง เราอาจจะกำลังหลอกเธออยู่ก็ได้"
"แต่หลงเชื่อว่าพี่ไม่ใช่คนแบบนั้น"
"ทำไมเธอถึงเชื่อคนง่ายแบบนี้ล่ะ เธอจะรู้ได้ยังไง ตราบใดที่เธอไม่ได้ยินเสียงความคิดของเรา เธอก็ไม่มีวันรู้หรอกว่าจริง ๆ แล้วเราเป็นคนยังไง"
"ก็ถ้าพี่เป็นคนไม่ดี พี่คงไม่คอยดูแลหลงหรอก พี่จะไม่ใจอ่อนและก็ทิ้งให้หลงนอนทรมานอยู่คนเดียว พี่จะไม่ดื้อเอาชุดของหลงใส่ออกไปข้างนอกเพื่อที่จะหาซื้อกระเป๋าน้ำร้อนกลับมาให้"
นัยน์ตาทั้งสองคู่หันมาสบประสานกันโดยบังเอิญ ท่ามกลางแสงสลัวภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นตอนกลางวัน แต่เพราะมีผ้าม่านสีทึบปิดหน้าต่างเอาไว้จึงทำให้บรรยากาศภายในห้องไม่ต่างจากเวลากลางคืน
หัวใจทั้งสองดวงต่างแข่งขันกันเต้นโครมครามอย่างไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะบรรยากาศโดยรอบก็เป็นได้ถึงทำให้ต่างคนต่างรู้สึกหวิว ๆ ในใจอย่างไรชอบกล จะเรียกว่าหวั่นไหวก็คงจะใช่ ยิ่งคนหน้าดุมีท่าทีที่อ่อนโยนผิดไปจากเดิมมันยิ่งทำให้หัวใจของซอลสั่นไหวทวีคูณ
"พี่บอกว่าพี่มองเห็นภาพอนาคตได้ใช่ไหม"
"ธ...เธอจำสิ่งที่เราพูดได้ด้วยเหรอ"
"หลงจำได้ทุกเรื่องที่พี่พูด"
"อ...เอ่อ...อืม แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วน่ะ ว่ามันจะเรียกว่าเห็นภาพอนาคตได้ไหม หรือเรากำลังทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างภาพที่เห็นก็ไม่รู้"
"แล้วตอนที่เรารักกันมันเป็นยังไงเหรอ" ดูเหมือนหลงจะไม่ฟังที่เธอพูดเสียด้วยซ้ำ เพราะหลงดูสนอกสนใจเสียอย่างนั้น
"บ้า...ไม่เล่าหรอก มันน่าอายออก"
"เล่าสิ มีอะไรน่าอายกว่าที่หลงเห็นพี่โป๊อีกเหรอ"
"หลง!!!!"
อยากจะต่อยเสยปลายคางจริง ๆ มันน่านัก!
"คิกคิก หลงดูคลั่งรักพี่ปะ"
"มากเลยเหอะ เธอน่ะมาจูบเราด้วยแหละ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนหน้าดุอย่างเธอจะจูบใครเขาเป็นด้วย"
"หลงจูบเก่งปะ"
"ก็ถ้าในภาพที่เห็นก็เก่งนะ จูบจนเราเคลิ้มเลยล่ะ"
"อืม...หลงก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย" เจ้าตัวว่าพลางกับอมยิ้ม ดูเธอภาคภูมิใจมากเชียวล่ะ ทั้ง ๆ ที่เรื่องต่าง ๆ มันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
"ทำไมยิ้มแบบนั้น คิดอะไรของเธอ บอกมานะ!"
"แค่คิดว่า ถ้ามันจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ พี่คือคนแรกของหลงเลยนะ"
"คนแรกอะไร"
"จูบแรก และคนแรกที่ได้ครอบครองหัวใจของหลง"
ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...
"มันอาจจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ ใครจะไปรู้ ขนาดเธอยังไม่ได้ยินเสียงความคิดของเราเลย เพราะงั้นเรื่องระหว่างเราสองคนมันก็อาจจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ อ้อ...และมันดูไม่มีทางเป็นไปได้มาก ๆ ที่เธอจะคลั่งรักเราได้ขนาดนั้น"
"หลงดูเหมือนคนไม่มีหัวใจเหรอ หลงก็มีความรู้สึกนะ"
"ก็มี...แต่เราหมายถึงว่าไม่มีทางที่เธอจะจูบเรา..."
ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงหวาน คนหน้าดุก็โน้มตัวมาประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันเสียแล้ว ดวงตาสีน้ำตาอ่อนเบิกโพลงด้วยความตกใจเพราะเธอไม่ได้ตั้งตัวและไม่คิดว่าจะถูกจูบนี่สิ
"หลง!! ท...ท...ทำไม...เธอ...ถึงจูบเราล่ะ!!?" ทันทีที่หลงผละริมฝีปากออก ซอลจึงใช้มือปิดปากตัวเองเอาไว้อย่างไม่เชื่อสายตา จนพาลทำให้เธอลุกลน ทำตัวแทบไม่ถูก
"พิสูจน์ให้พี่ดูไง"
"พิสูจน์อะไร!!?"
"พิสูจน์ว่าภาพนั้นมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ เพราะตอนนี้...หลงรู้สึกแบบนั้นกับพี่จริง ๆ"
"ม...ม...ไม่จริงน่า...เป็นไปไม่ได้!!!!"
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“เอาแล้ววววววว ไอ้เจ้าหลงรุกพี่ซอลแล้ววววววว >////<”