เพียงกระซิบ

เพียงกระซิบ
ตอนที่ 22 หมดความอดทน

แม้ช่วงเวลานี้จะยังมีผู้คนพลุกพล่านและเข้าออกจากหอพักเป็นว่าเล่นเพราะเป็นช่วงเวลาของการทำมาหากินของพ่อค้าแม่ค้าบางกลุ่ม เสียงจอแจของผู้คนและเสียงเครื่องยนต์บนท้องถนนที่แล่นไปมา แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ นี้กลับเงียบสงบราวกับอยู่คนละมิติอย่างไรอย่างนั้น
"ตอนนี้เราสองคนใจตรงกันแล้วใช่ไหม" เสียงที่เอ่ยถามนั้นช่างอ่อนโยนผิดจากก่อนหน้าที่ดูเรียบเฉยอย่างลิบลับ
นิ้วเรียวเอื้อมเกลี่ยผมสีบลอนด์ทองที่ปรกใบหน้าออกไปทัดกับหลังหูจนสามารถมองเห็นความอ่อนเยาว์ราวกับเด็กวัยใสได้อย่างชัดเจน แม้ใบหน้าจะไม่หลงเหลือเครื่องสำอางแล้ว แต่เธอก็ยังดูดีทุกมุมมอง จนรอยยิ้มเผยออกมาจากคนหน้าดุอย่างนึกชื่นชม
"สรุปว่า...เธอก็คิดเหมือนเราเหรอ" ซอลเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม หลงจึงพยักหน้าพลางกับอมยิ้ม ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาช้า ๆ 
ทุกอย่างดูเป็นไปตามที่ใจคิด ในที่สุดก็ถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองต่างเฝ้ารอมานาน ช่วงเวลาแห่งความสุข กำลังจะเริ่มต้น ณ บัดนี้ แต่ทว่า...
"โอเค! งั้นเดี๋ยวเราทำให้กินเอง"
จู่ ๆ คนตัวเล็กก็ดีดตัวลุกขึ้นพรวดจนหลงแทบหน้าทิ่ม สิ่งที่อีกคนคิดนั้นมันช่างแตกต่างกับเธอโดยสิ้นเชิง เพราะพี่ซอลน่ะ...เดินไปนั่งแหมะที่หน้าชั้นวางของเพื่อเลือกซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่น่ะสิ 
เหอะ...พี่ซอล!!!
"เอารสอะไรดีน้า...เลือกมาสักรสสิ เราจะใจตรงกันไหม" เธอว่าพลางกับหันมาถามด้วยรอยยิ้ม จนหลงได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ใครล่ะจะไปโกรธลง ก็เล่นน่ารักเสียขนาดนี้ ดูอย่างไรพี่ซอลก็เหมือนเด็ก บางครั้งก็ดูไร้เดียงสามากกว่าเธอเสียอีก ดูไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าหญิงสาวผู้นี้อายุจวนจะสามสิบแล้ว หรือที่ผ่านมาเธอจะคิดเรื่องอย่างว่ากับพี่ซอลอยู่ฝ่ายเดียวกันแน่...
"พี่หิวเหรอ"
"อื้อ ว่าจะชวนกินตั้งนานแล้ว แต่เห็นเธอปวดท้องอยู่เราเลยขอดูแลเธอก่อน"
"บะหมี่พิเศษเกี๊ยวที่ไปกินมานี่ไม่อิ่มเหรอ"
"ไม่อะ สงสัยประจำเดือนเราจะมาแล้วแน่ ๆ ถึงได้กินเหมือนปอบลงแบบนี้" เธอทำหน้าครุ่นคิด 
"อ่า...งั้นพี่กินเถอะค่ะ หลงกลัวพี่ไม่อิ่ม"
"ไม่ได้สิ เธอก็หิวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เธอบอกว่าเธอก็คิดเหมือนเรานี่"
"หลงไม่ได้คิดเรื่องนั้นสักหน่อย"
"แล้วเธอคิดเรื่องไหน"
"ช่างเถอะค่ะ ไว้พี่กินอิ่มค่อยว่ากัน"
เมื่อพูดจบหลงจึงคว้าผ้าห่มมาคลุมโปงพร้อมกับหันก้นใส่ทันที คนตัวเล็กก็ได้แต่เอียงศีรษะด้วยสีหนาฉงน
"ไหนบอกว่าคิดเหมือนกัน จะปล่อยให้เรากินคนเดียวได้ยังไง"
เฮ้อ...พี่ซอลก็เป็นเสียแบบนี้...
"หลง" เสียงเอ่ยเรียกดังไล่หลังมา หลงจึงต้องเปิดผ้าห่มออกอีกครั้ง เผยให้เห็นร่างคนตัวเล็กกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ที่หน้าชั้นวางของ เธอไม่ต่างกับเด็กน้อยเลยจริง ๆ
"อะไรคะ"
"เราอยากกินรสไหนเหรอ"
"เอ้า!! แล้วหลงจะรู้กับพี่ไหมเนี่ย!?"
"ลองเลือกมา เผื่อเราใจตรงกัน"
"ไม่รู้ พี่รีบเลือกแล้วก็รีบกินเถอะ หลงรออยู่"
"เลือกมาเร็ว อยากรู้ว่าเราจะใจตรงกันไหม"
"พี่ซอล!" เมื่อหลงทำเสียงดุกลับไป คนตัวเล็กถึงกับหน้ามุ่ย แต่เธอก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามโดยการหยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมานั่งแหมะอยู่ข้าง ๆ เธอ
"หมูสับกับต้มยำกุ้ง รสไหนดี"
"พี่ซอล รีบ ๆ เลือก แล้วก็รีบ ๆ กิน ขอล่ะ"
"เอ้า! เธอก็ตอบเรามาสิ ว่าเอารสอะไร"
"เอารสที่ไม่เผ็ด แล้วก็ห้ามใส่ผงพริกด้วย" 
"ทำไมอะ ทำไมต้องเลือกรสนี้ด้วย เราไม่เห็นจะใจตรงกันเลย" เธอทำหน้ายู่ด้วยความผิดหวัง แต่ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้ลุกไปไหน หลงก็คว้าหมับที่ข้อมือของเธอเสียก่อน
"จะให้หลงตอบตรง ๆ เลยไหมล่ะพี่ซอล ว่าทำไมหลงถึงต้องเลือกรสนี้"
"ไม่เอาล่ะ เราหิว เราไปทำกินก่อนนะ"
สิ้นคำพูด เจ้าตัวจึงลุกเดินออกไปทันทีจนหลงถึงกับกุมขมับและแทบจะเอาศีรษะโขกผนังห้องให้มันรู้แล้วรู้รอด ชักจะหมดความอดทนกับเธอเต็มทีแล้ว แต่สิ่งที่ทำได้คงจะเป็นการโขกลงกับหมอนซ้ำ ๆ
"หลง เธอทำอะไรของเธอน่ะ"
"ไม่ต้องถาม หลงจะนอนแล้วนะ พี่กินเสร็จก็ปลุกแล้วกัน"
"ไม่ล่ะ เธอนอนเลย เราไม่รบกวนเธอหรอก"
"ไม่ได้!! พี่ต้องปลุกหลง!"
"ปลุกทำไม?"
โธ่เว้ย!!! ทำไมการพูดอออกมาตรง ๆ มันยากแบบนี้วะ!!? 
"หลงจะได้ตื่นมานอนพร้อมพี่ไง" 
ใช่...สิ่งที่คิด กับสิ่งที่พูดนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
"เธอจะไม่กินกับเราจริง ๆ เหรอหลง จะได้นอนพร้อมกันไง"
"หลงอยากกิน...พี่มากกว่า" เธอตอบเสียงแผ่วปลายจนซอลแทบจะจับใจความไม่ได้
"เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ"
"เปล่าค่ะ รีบกินได้แล้ว ขอร้องล่ะ"
"มากินด้วยกันนะ น้า...น้องหลง มากินกับพี่ซอลนะคะ กินคนเดียวมันเหงาอ่า..."
"ก็ได้ ๆ เฮ้อ..." 
เมื่อได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับที่เจ้าตัวกุมมือเอาไว้ที่หน้าอก ใครล่ะจะต้านทานไหว หลงจึงเดินไปนั่งเท้าคางอยู่ข้าง ๆ เธออย่างเสียไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวก็ดูกระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันทีเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนต้องการ แต่หลงนี่สิ...ไม่มีอะไรเป็นไปตามคาดเลยแม้แต่เรื่องเดียว
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ในที่สุดเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็พร้อมแล้ว แม้จะเป็นการเติมน้ำร้อนลงไปในชามแบบง่าย ๆ แต่กลิ่นของมันก็หอมเย้ายวนชวนน้ำลายสอ หลงจึงได้แต่กลืนน้ำลายดังอึกพลางกับมองคนรักของเธอคนเครื่องปรุงในชามบะหมี่อย่างอารมณ์ดีจนเธออดที่จะยิ้มตามไม่ได้
ซอลใช้ส้อมม้วนเส้นบะหมี่ลงบนช้อน ก่อนจะนำมาเป่าอยู่ครู่หนึ่งแล้วยื่นมาให้กับหลงด้วยรอยยิ้ม หลงจึงส่ายศีรษะกลับไป
"พี่กินก่อนเลย"
"ไม่เอา เราอยากดูแลเธอ"
"ประคบท้องให้ก็ถือว่าดูแลแล้ว พี่กินเถอะ หลงจะนั่งเป็นเพื่อน"
"อ้าม...." คนตัวเล็กหาได้ยี่หระกับคำพูดของเธอไม่ ซอลยื่นช้อนมาป้อนเธออีกครั้ง หลงจึงอ้าปากกินอย่างว่าง่ายจนเธอแสดงท่าทีกระดี๊กระด๊าด้วยความดีใจออกมาอีกครั้ง
"น้องหลงน่ารักที่สุดเลย"
"พี่นี่ดื้อเนอะ"
"ใช่ นี่เป็นเอกลักษณ์ของเราเลยล่ะ"
"มันใช่เรื่องมาภูมิใจไหมเนี่ย"
"ภูมิใจสิ ถ้าไม่ดื้อเราก็ไม่มีวันนี้หรอก เพราะเราดื้อที่จะเข้าหาเธอ เราถึงได้เป็นแฟนเธอไง เนี่ย...มันน่าภูมิใจไหมล่ะเธอว่า"
หลงชะงักกับคำตอบของเธอ ก่อนจะรีบเคี้ยวตุ้ย ๆ เพื่อปกปิดท่าทีเขินอายเอาไว้ พี่ซอลนั้นสามารถทำให้เธอประหลาดใจแทบจะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ จะเรียกว่าหญิงสาวมหัศจรรย์เลยก็ยังได้
"อื๊อ! อร่อยอะ ทำไมรสหมูสับมันอร่อยแบบนี้ อ๋อ...เพราะกินกับแฟน คิกคิก" หลงได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ อย่างประหลาดใจที่เจ้าตัวกระดี๊กระด๊าและพูดอยู่คนเดียว
ใช่...เธอนี่มันหญิงสาวมหัศจรรย์จริง ๆ
จากที่ตั้งใจจะมานั่งเป็นเพื่อน กลับกลายเป็นว่าหลงถูกคนรักเอาใจด้วยการตักบะหมี่กึ่งสำเร็จมาป้อนซ้ำ ๆ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธเสียงแข็งแบบใบหน้าดุดันอย่างไรก็ต้องใจอ่อนกับความน่ารักของคนตัวเล็กแต่โดยดี ยิ่งได้เห็นเธอมีความสุข หลงก็ยิ่งสุขใจตามไปด้วย ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มของเธอ หลงก็ยิ่งยิ้มออกมาแบบไม่มีเก็บงำความรู้สึกภายในใจอีกต่อไปแล้ว 
"เออนี่หลง ว่าแต่เธอได้เจอแม่บ้างหรือเปล่า" หลงส่ายศีรษะก่อนจะหยิบช้อนมาป้อนเจ้าตัวคืนบ้าง
"ตอนเธอป้อนนี่อร่อยกว่าเดิมอีกอะ ง่ำ ๆ" หลงยิ้มให้กับความน่ารักของเธอซ้ำ ๆ แต่คำถามที่ซอลถามทิ้งไว้เมื่อสักครู่ มันทำให้หลงรู้สึกเจ็บแปลบอย่างไรชอบกล
ตั้งแต่เกิดเรื่องที่หอพัก แม่ของเธอก็หายไปอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมา แต่มันก็ถือเป็นเรื่องปกติที่แม่จะหายไปพร้อมกับเงินเก็บที่เธอตั้งใจจะหยอดกระปุกเก็บไว้ให้คนเป็นแม่อยู่แล้ว
"แล้วเธอมีเงินใช้หรือเปล่า แม่เอาไปหมดเลยไม่ใช่เหรอ" 
"แม่เอาไปแค่ส่วนที่หลงหยอดกระปุกไว้ให้แม่ค่ะ แต่เงินอีกส่วนหนึ่งหลงเก็บไว้ในบัญชี"
"เก่งมากเลย ถ้าเงินไม่พอใช้ก็บอกนะ"
"อย่าให้เฉย ๆ นะ หลงไม่เอาหรอก"
"มาเป็นเลขาส่วนตัวเราไหม เราจะเพิ่มเงินเดือนให้"
"เลิกคิดอะไรแบบนี้สักทีน่าพี่ซอล แค่นี้หลงก็อยู่ได้แล้ว"
"เธอนี่น้า...เราอยากให้เธอสบายกว่านี้นี่นา เราอยากให้ชีวิตเธอดีขึ้นกว่าเดิม"
"มีคนมาเสนองานใหม่ให้หลงด้วยแหละ บอกว่าหลงจะสบายขึ้น จะมีชีวิตที่ดีขึ้นถ้าไปทำงานกับเขา" ซอลถึงกับชะงักเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอจึงลดสายตาลงจ้องมองชามบะหมี่ด้วยท่าทีสลด
"เธอไปได้นะ ถ้าเธอต้องการ เราจะไม่รั้งเธอเลย เพราะถ้าหากมันทำให้ชีวิตเธอดีขึ้น เราก็ยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนเธอทุกอย่างอยู่แล้ว"
หลงนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปพลางกับมองคนตัวเล็กทำหน้ายู่และใช้นิ้ววาดลงไปบนพื้นไปมาราวกับเด็กกำลังน้อยใจอย่างไรอย่างนั้น ก่อนเธอจะเงยหน้าขึ้นเมื่อไม่เห็นหลงแสดงท่าทีหรือพูดปฏิเสธอะไรออกมา
"เธออยากไปไหมหลง เราถามจริง ๆ"
"ถ้าหลงอยากไป พี่จะโอเคไหม"
"ก็..."
"ขอความจริงนะพี่ซอล พี่รู้สึกยังไงถ้าหลงเลือกที่จะไป"
"เราก็ต้องยินดีกับเธอสิถูกไหม"
"แล้วในใจลึก ๆ ของพี่ล่ะ"
"ก็...ใจหายนิดหน่อยที่จะไม่ได้แอบมองเธอทำงานอีกแล้ว เพราะตอนเธอตั้งใจทำงานน่ะ เธอน่ารักมากเลยนะ"
"โรคจิตเปล่าเนี่ย"
"เปล่านะ แอบมองแฟนนี่ผิดเหรอ"
"ก็ไม่ได้ว่าผิด หลงไม่ไปหรอก พี่สบายใจได้"
"ทำไมล่ะ"
"แค่ได้เจอพี่ ชีวิตหลงก็ดีขึ้นมากแล้ว มันดีจนน่าใจหาย ถ้าสมมติว่าวันหนึ่งพี่ทิ้งหลงไป หลงจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่"
เกิดความเงียบเข้ามาปกคลุมทั้งสองชั่วขณะหลังจากที่หลงพูดจบ เพราะซอลเองก็อึ้งกับคำตอบของคนหน้าดุถึงขั้นไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ หลงรักเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ที่ไม่ได้บอกรัก ก็ไม่ได้แปลว่าหลงไม่รักเธอเสียหน่อย ซอลยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่แขนของหลงเบา ๆ
"พูดอะไรแบบนี้ก็เป็นเหรอเราน่ะ เมาบะหมี่เหรอ คิกคิก"
"พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด พอหลงจริงจัง พี่ก็ทำเป็นเล่นอะ ไปแปรงฟันนอนแล้วนะ!" พูดจบเธอจึงลุกเดินออกไปทันทีจนคนตัวเล็กถึงกับหน้าเหวอ
"อ๊ะ! หลง!! เดี๋ยวก่อนสิ รอเราด้วย!"


ซ่า ~ 
น้ำที่พวยพุ่งออกมาจากก๊อกน้ำบริเวณอ่างล้างหน้ากระทบกับชามพลาสติก ทำให้ทั้งน้ำและฟองจากน้ำยาล้างจานกระเซ็นไปเปรอะโดนเสื้อสีดำที่คนหน้าดุสวมอยู่ มือน้อย ๆ ทั้งสองข้างจึงเอื้อมมือตั้งตระหง่านเป็นเกราะกำบังถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย
"ดีจัง กินเสร็จก็มีคนล้างให้" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม แต่คนหน้าดุกลับใช้หางตาเหลือบมองเธอเท่านั้น
"งอนพี่เหรอคะน้องหลง"
"ไปไกล ๆ เลย เดี๋ยวก็เปียกหรอก"
"เปียกก็อาบน้ำใหม่สิ เสื้อผ้าก็เสื้อผ้าเธอ มีคนซักให้ ดีจะตาย"
"ใครบอก พี่ต้องเป็นคนซักเองนะ"
"ไม่เอา มือเราบอบบางมาก ๆ เราไม่ซักเองหรอก"
หลงพ่นลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่งอย่างเอือมระอา พลางกับล้างฟองน้ำยาล้างจานออกจนหมดเกลี้ยง ก่อนจะเดินนำไปคว่ำไว้บนชั้นวางหน้าห้องน้ำ แต่เมื่อเธอเดินกลับมาที่ห้องน้ำอีกครั้ง กระจกห้องน้ำถูกวาดเป็นรูปหัวใจด้วยยาสีฟัน พร้อมกับที่แปรงสีฟันของเธอก็มีใครบางคนแอบบีบยาสีฟันรออยู่แล้ว 
หลงหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก็เพราะเจ้าตัวใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ใครกันจะไปโกรธลงไม่ว่าเธอจะทำอะไรผิด จะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่แค่ไหนก็ตาม หลงจึงเอื้อมมือหยิบแปรงสีฟันของตนเพื่อมายืนแปรงฟันเคียงข้างกับแฟนสาว
"อาอี๋อันอูดเอียวอับแอน อะอ่อยอาก ๆ (ยาสีฟันสูตรเดียวกับแฟน อร่อยมาก ๆ)" ขณะที่แปรงฟัน ซอลก็ยังไม่วายหยอดคำหวานที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ออกมา ทำเอาหลงถึงกับคิ้วขมวด
"อ๊ะ? อังไอ่อู๊เอื่อง (ฮะ? ฟังไม่รู้เรื่อง)"
"เอาออกอ่า อาอี๋อันอะอ่อย (เราบอกว่า ยาสีฟันอร่อย)" เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลงจึงดึงแปรงสีฟันออกจากปากเธอทันที
"หลง!! เธอแย่งแปรงเราไปทำไม!?"
"ก็พี่บอกว่าเอาออกให้หน่อย ไม่ใช่เหรอ?" หลงเอียงศีรษะด้วยสีหน้าฉงน
"ไม่ใช่!! เราบอกว่ายาสีฟันอร่อย!"
"พี่นี่พิลึกคนจริง ๆ ยิ่งรู้จักยิ่งพิลึก ห้ามกลืนลงไปนะ บ้วนออกมาเลย"
"รู้แล้วน่า...เธอนี่ชอบทำเหมือนเราเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย"
"ก็พี่ชอบทำตัวเหมือนเด็กอะ เหมือนเป็นเพื่อนกับน้องลูกจ๋าเลย"
"เอ๊ะ!! เราเป็นรุ่นพี่เธอนะ!!'
"ไม่เห็นมีตรงไหนที่ดูโตกว่าหลงเลย แม้แต่ตรงนั้น..." สายตาของเธอลดต่ำลง ดูอย่างไรก็หมายถึงหน้าอกหน้าใจ ซอลจึงใช้มือข้างหนึ่งปิดหน้าอกของเธอเอาไว้ ก่อนจะฟาดไปที่แขนของคนหน้าดุด้วยความมันเขี้ยว
เพียะ!!!
"อ๊ะ!! เจ็บนะ!!"
"แปรงฟันไปเลย เดี๋ยวเราก็แทงเธอด้วยแปรงสีฟันเลยนี่!!"
คนตัวเล็กว่าพลางกับกำหมัดขึ้นมา ในมือของเธอไม่มีแปรงสีฟันอยู่เสียด้วยซ้ำ หลงจึงล้างแปรงสีฟันทั้งของตัวเองและของเธอให้ ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในแก้วหน้ากระจก และใช้มือรองน้ำมาเช็ดคราบยาสีฟันที่เลอะรอบริมฝีปากให้กับเจ้าตัวด้วยใบหน้าเรียบเฉยตามแบบฉบับของตน
"อื๊อ! เราเปียกหมดแล้ว!"
"ใครบางคนบอกว่าถ้าเปียกก็อาบน้ำใหม่ไง เปียกแค่นี้คงไม่เป็นไรหรอก"
"ชิ! เดี๋ยวต่อยเลย"
"โหดเนอะ ตัวก็แค่เนี้ย"
"ตัวแค่นี้ก็ถีบเธอตกเตียงได้แล้วกัน!!"
"หลงก็เคยต่อยพี่ตกเตียงมาแล้วนะ"
"หน็อย!! ในที่สุดเธอก็ยอมรับความจริงแล้วสินะ ว่าวันนั้นเธอต่อยเราจริง ๆ" 
"ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจไง"
"เธอตั้งใจจะลอบฆ่าเราใช่ไหม บอกความจริงมา!!"
คนตัวเล็กยังแสดงท่าทีแบบทีเล่นทีจริง พร้อมกับตั้งการ์ดขึ้นมา บ้างก็ต่อยอากาศ บ้างก็ต่อยโดนแขนคนหน้าดุจริง ๆ หลงจึงได้แต่สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อระงับอารมณ์ของตนเอาไว้
"ฟิ่ว! ฟิ่ว! ไอ้สัตร์ประหลาด ฟิ่ว! ฟิ่ว! ไอ้หมาดุ! ฟิ่ว! ฟิ่ว!"
"เฮ้อ...หลงชักจะหมดความอดทนกับพี่แล้วนะ พี่เป็นเด็กสี่ขวบเหรอพี่ซอล พี่ไม่ใช่เด็กแล้วนะ"
"จะทำไมล่ะ เมื่อกี้เธอยังบอกว่าเราเป็นเพื่อนกับน้องลูกจ๋าอยู่เลย ฟิ่ว! ฟิ่ว!" ซอลยังคงต่อยแขนเธอเบา ๆ เป็นเชิงหยอกล้อ ก่อนที่หลงจะคว้าหมับที่ข้อมือจนเธอถึงกับชะงัก จะชักมือกลับตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว
"อ๊ะ!! ปล่อยมือเรานะ!!"
"หลงชักจะหมดความอดทนกับพี่แล้วนะพี่ซอล หลงบอกให้รีบ ๆ กิน ตอนนี้ก็มัวมาเล่นอยู่ได้ พี่จะปล่อยให้หลงรอพี่อีกนานแค่ไหนเหรอ"
"เราขอโทษ ก็นาน ๆ ทีจะได้เล่นกับเธอนี่นา เธอไม่ตลกเหรอ"
"ไม่" หลงตอบด้วยน้ำเสียงดุดัน จนคนตัวเล็กถึงกับหน้ามุ่ย
"อื้อ ๆ ยอมแล้ว ๆ ปล่อยเราได้แล้ว"
หลงพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยเพราะเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ก่อนจะยอมปล่อยข้อมือแต่โดยดี ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังเพื่อที่จะเดินออกจากห้องน้ำ เธอก็ต้องชะงักอีกครั้ง เพราะเธอรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมากระทบกับแผ่นหลังของเธอ ทำเอาเธอถึงกับหันขวับ
"ฝ่ามือพิฆาต!! แฮ่ ๆ"
มันคือฝ่ามือน้อย ๆ จากแฟนสาวของเธอนั่นเอง จนเสื้อของหลงมีรอยเปียกเป็นรูปฝ่ามือและรอยนิ้วทั้งห้าครบแบบไม่มีขาดแถมยังขึ้นรูปสวยงามราวกับจิตรกรรมจากฝ่ามืออย่างไรอย่างนั้น อารมณ์ของหลงที่เก็บเอาไว้ตั้งแต่ต้นชักจะหมดความอดทนเต็มแก่แล้ว...
"ดื้อนะพี่ซอล"
"คิกคิก" คนตัวเล็กหาได้ยี่หระและสำนึกผิดไม่
"หลงเริ่มหมดความอดทนกับพี่แล้วนะ"
"ทำไม เธอจะทำอะไรเรา"
"หึ...ดื้อนักใช่ไหม ได้...ถึงทีหลงบ้างนะ"
สิ้นคำพูด คนหน้าดุก็เริ่มก้าวเข้าหาช้า ๆ จนซอลต้องก้าวถอยหลังหนีทันที แต่เพราะห้องน้ำมันคับแคบเสียจนไม่สามารถหลีกหนีได้พ้น ทำให้แผ่นหลังของเธอชนเข้ากับผนังในที่สุด
"อ...อื๊อ!! ออกไปนะ!!" เมื่อหลงยื่นหน้าเข้าใกล้เรื่อย ๆ ซอลจึงรีบเบือนหน้าหนีและหลับตาด้วยความหวาดหวั่น สองมือก็ดันหน้าอกของหลงเอาไว้ แต่ทว่า...
ข้อมือทั้งสองข้างของเธอถูกหลงจับรวบ ก่อนจะจับยกขึ้นและกดกับผนังด้วยมือข้างเดียว ส่วนมือข้างขวาที่ยังว่างอยู่จับหมับที่เอวบางจนซอลถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
"ธ...เธอจะทำอะไรน่ะ!!?"
"ก็ทำในสิ่งที่พี่ต้องการมันมาตลอดไง"
"อะไร!!? เธอหมายถึงอะไร?" เธอยังคงทำไขสือ
"พี่อยากมีอะไรกับหลงไม่ใช่เหรอ หลงรอพี่ตั้งนาน พี่ก็มัวแต่ลีลาอยู่ได้ หรือความจริงพี่ต้องการ แต่พี่นั่นแหละที่ไม่กล้า..." ซอลกลืนน้ำลายดังอึกพลางกับมองอีกคนใช้สายตาดุดันจ้องมาจนเธอแทบผวา 
"เธอพูดอะไรของเธอน่ะ...เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ"
"พี่คิดพี่ซอล ถ้าพี่ไม่คิดพี่คงไม่เอาไปเขียนไดอารี่หรอก"
"เฮ้ย!!! นี่เธอแอบอ่านไดอารี่เราเหรอ!!!?'
"หลงไม่ได้แอบนะ แต่พี่นั่นแหละที่อนุญาตให้หลงอ่านเอง"
"จะบ้าเหรอ!!? เราไปอนุญาตตอนไหน!!!?"
ใครล่ะจะไม่ตกใจ เธอไปอนุญาตให้อ่านตอนไหนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน เพราะไม่เห็นจะมีความทรงจำเรื่องนี้ในสมองของเธอแม้แต่น้อย
"ตอนไหนไม่สำคัญหรอกค่ะ แต่หลงถือว่าพี่อนุญาตแล้วหลงถึงเปิดอ่าน เพราะปกติหลงก็ไม่ยุ่งกับของของใครอยู่แล้ว"
"เธอขี้โกงนี่นา"
"หลงไม่ได้โกง แต่พี่เป็นคนอนุญาตกับปากตัวเองแท้ ๆ ถ้าพี่จะจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงเรื่องที่พี่ต้องการหลงก็รู้ไปแล้ว แล้วตอนนี้เราเข้าเรื่องได้หรือยัง"
"เข้าเรื่องอะไร!?"
"เรื่องของเรา"
"เธอหมายความว่า..."
หลงไม่รอให้อีกฝ่ายถามจบเสียด้วยซ้ำเพราะเธอก้มลงประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันเสียแล้ว ดวงตาของซอลเบิกโพลงกับการกระทำของหลงที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ดวงตาที่เคยดุดันตอนนี้หลับพริ้มราวกับกำลังเคลิบเคลิ้มในภวังค์ที่ตนได้สร้างขึ้น ก่อนที่มือข้างซ้ายที่กดข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้จะค่อย ๆ คลายและปลดปล่อยออกจากการพันธนาการในที่สุด
แขนทั้งสองข้างของซอลโอบรอบคอของคนหน้าดุอย่างอัตโนมัติก่อนจะหลับตาพริ้มและประกบริมฝีปากให้แนบแน่นขึ้น ทั้งสองเริ่มขยับบดจูบรีมฝีปากของกันและกันช้า ๆ และอ่อนโยนราวกับต้องการทะนุถนอมกลัวว่ามันจะช้ำไปเสียก่อน จนร่างบางถึงกับอ่อนระทวยแนบไปกับผนังห้องน้ำโดยไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะต่อต้าน
เรื่องการจูบนั้น หลงขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญกว่าซอลเสียอีก เพราะแม้มันจะเพิ่งเริ่มต้น แต่เธอก็สามารถควบคุมอีกคนได้อย่างอยู่หมัด เพียงแค่เธอสอดลิ้นเข้าทักทายในโพลงปาก อีกฝ่ายก็ตวัดลิ้นตอบรับอย่างอัตโนมัติ หลงนำอย่างไร เธอก็ตามอย่างนั้น ราวกับกำลังถูกควบคุมอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่ลมหายใจยังประสานเข้าด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง
"เฮือก!!" ซอลถึงกับหายใจเฮือกเมื่ออีกฝ่ายผละริมฝีปากออก เพราะเธอแทบจะตกอยู่ในภวังค์จวนจะขึ้นไม่ไหว โชคยังดีที่หลงดึงสติเธอเสียก่อน
"ตรงนี้ไม่ดีมั้ง มันเฉอะแฉะ" หลงพูดสลับกับหอบแฮ่ก ๆ จากรสจูบเมื่อสักครู่
"เธอหมายความว่าไง เธอจะทำจริง ๆ เหรอ"
"หลงไม่ได้ล้อเล่นนะพี่ซอล"
"มันจะพังอีกหรือเปล่า เราไม่อยากค้างเหมือนทุกครั้งแล้วนะ เธอรู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหน"
"หลงรู้พี่ซอล เพราะหลงก็ทรมานเหมือนกัน แต่ครั้งนี้หลงจะไม่ทำพลาดอีกแล้ว พี่เชื่อใจหลงนะ"
"เราเชื่อใจเธอ....แต่ว่า..." ซอลลดสายตาลงต่ำคล้ายกับคนกำลังมีเรื่องอะไรในใจ หลงจึงเชยปลายคางขึ้นช้า ๆ
"แต่อะไรคะ"
"เธอเป็นประจำเดือนไม่ใช่เหรอ เธอปวดท้องอยู่นี่นา"
"ไม่เป็นไร ขอแค่พี่มีความสุข หลงทนได้"
"เรามียาในกระเป๋านะ"
"หลงไม่ชอบกินยาพี่ก็รู้"
"งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เธอมองตาเราเอาไว้นะ"
"มองทำไมคะ"
คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไร และพลิกตัวเดินถอยหลังทั้งที่แขนทั้งสองข้างยังคล้องที่คอของหลงเอาไว้อยู่ ทำให้อีกคนเดินตามเธออย่างว่าง่ายและไม่ได้ละสายตาออกจากกันแต่อย่างใด
"ปิดไฟห้องน้ำ" สิ้นคำสั่ง หลงจึงเอื้อมมือไปปิดไฟโดยไม่จำเป็นต้องหันไปมองเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเธออาศัยการสัมผัสแทน เพราะจำได้ขึ้นใจว่ามันอยู่บริเวณไหน
กึก!
ทันทีที่ไฟห้องน้ำดับลง ซอลจึงก้าวเดินถอยหลังอีกครั้ง จนมาหยุดอยู่บนฟูกนอน ก่อนจะย่อตัวลงช้า ๆ และหลงก็ย่อตามเธอราวกับถูกสะกดจิต เพราะนัยน์ตาที่จ้องมองมานั้นเป็นประกายวิบวับราวกับดวงดาวบนฟากฟ้าอย่างไรอย่างนั้นจนหลงไม่อาจละสายตาจากเธอได้เลย
"มองตาเราไว้นะหลง"  เสียงที่เอ่ยพูดนั้นแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ หลงจึงพยักหน้าช้า ๆ แม้ว่าจะไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้
ซอลเอื้อมมือไปทางกระเป๋าถือของตนทั้งที่ดวงตายังจับจ้องกันและกันอยู่อย่างนั้น ซึ่งแม้แต่เธอก็ต้องอาศัยการสัมผัสเพื่อที่จะควานหาแผงยาแก้ปวดท้องประจำเดือนที่เธอพกติดกระเป๋าเอาไว้เป็นประจำด้วยมือข้างเดียว
"อย่าละสายตาจากเรานะหลง"
เพราะมีเสียงกรอบแกรบจากการพยายามแกะยาจากแผงยาแก้ปวด ซอลจึงย้ำการกระทำอีกครั้ง หลงยังคงจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาของเธออยู่อย่างนั้น
"ทีนี้หลับตาลง แล้วไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ทำตามที่เราบอกก็พอ" 
หลงหลับตาลงอย่างว่าง่าย จนในที่สุดเม็ดยาก็ถูกคาบด้วยริมฝีปากของคนตัวเล็กไปเสียแล้ว ซอลรีบกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อหาขวดน้ำที่วางอยู่ไม่ไกลตัวนัก เธอจึงรีบเอื้อมไปหยิบมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของหลงเอาไว้แล้วประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันอีกครั้ง
เม็ดยาถูกส่งแบบปากต่อปาก แต่หลงกลับไม่ได้มีท่าทีขัดขืนหรือต่อต้านสิ่งใด ซอลจึงรีบยกกระดกขวดน้ำเข้าไปในปากของตนก่อนจะประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันอีกครั้ง และยืดตัวขึ้นให้หลงแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย และแน่นอน...หลงกลืนทั้งน้ำและยาลงไปอย่างง่ายดายโดยไม่มีการต่อต้านเม็ดยาในปากแม้แต่น้อย ซึ่งหลงเองก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าตนถูกหลอกล่อให้กินยาลงไปด้วยวิธีการนี้ จนรอยยิ้มมุมปากเผยออกมาจากคนตัวเล็กด้วยความภาคภูมิใจ
"เก่งมากค่ะ..." ซอลกระซิบที่ข้างหู ก่อนจะจูบลงที่ขมับอย่างอ่อนโยน
"หลอกให้หลงกินยาเหรอ"
"ก็กินได้นี่นา คิกคิก"
"พี่ก็ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย"
"เราเปล่าร้ายนะ เราก็แค่...ไม่อยากให้เธอทรมานในขณะที่เรามีความสุขไง"
"ขอบคุณนะคะ" หลงยิ้ม
"เราขอถามหน่อยสิ"
"อื้อ"
"ทำไมถึงเลือกรสหมูสับเหรอ"
"เพราะเดี๋ยวพี่ก็โดนหลงจูบจนปากบวมอีก ถ้าพี่กินเผ็ดเข้าไปด้วย ปากพี่คงทั้งบวมทั้งแดงเลยล่ะ" หลงตอบด้วยรอยยิ้ม
"ทำไมรุนแรงกับเราขนาดนั้นกันนะ เราไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของเธอสักหน่อย"
"ขอโทษนะคะ หลงจะไม่รุนแรงแบบนั้นอีกแล้ว หลงสัญญา"
"อื้อ...แต่ถ้าเธอจะทำแรง ๆ เราก็ไม่ว่านะ แค่เป็นเธอ เรายอมทุกอย่างเลย"
"หมดเวลาคุยกันแล้วนะพี่ซอล ตอนนี้กินยาแล้ว...แล้วหลงกินพี่ได้หรือยัง..."
คนตัวเล็กอมยิ้มแทนคำตอบ หลงจึงใช้สองมือประคองที่เอวของเธอเอาไว้ ก่อนจะค่อย ๆ เลิกเสื้อคอกลมตัวโคร่งสีดำขึ้นช้า ๆ แต่ซอลกลับคว้าที่ข้อมือของเธอเอาไว้เสียก่อนจนหลงถึงกับชะงัก
"ไม่ได้เหรอคะ..." หลงเอ่ยถามเสียงแผ่ว
"ได้ แต่สัญญานะว่าจะไม่หยุดกลางคันอีก"
"งั้นพี่ก็เลิกขัดสักที หลงเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ"
"ขอจูบแบบตอนอยู่ในห้องน้ำได้ไหม เราชอบมากเลย แล้วเราจะยอมเธอทุกอย่าง"
"ต่อให้พี่ไม่ขอ หลงก็จะทำให้"
"งั้นก็เริ่มเลยค่ะคนเก่ง ก่อนที่จะหมดความอดทนไปซะก่อน" 
สิ้นคำพูด หลงจึงใช้มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปที่ท้ายทอยใต้ผมสีบลอนด์ก่อนจะโน้มตัวประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันอย่างอ่อนโยน รสจูบของเธอยังคงนุ่มนวลไม่มีเปลี่ยน กลิ่นยาสีฟันนั้นช่างหอมหวานและละมุนต่างจากทุก ๆ วันโดยสิ้นเชิง ลมหายในอุ่นที่พ่นออกมานั้นก็หอมสดชื่น มันหอมเสียจนหลงเคลิบเคลิ้มได้อย่างรวดเร็ว
เสื้อตัวโคร่งถูกเลิกขึ้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวยอมยกแขนขึ้นแต่โดยดี จนมันหลุดออกจากเรียวแขนในที่สุดเผยให้เห็นเรือนร่างของนางฟ้าตัวน้อยที่งดงามราวกับภาพวาด หลงจ้องมองอย่างไม่ละสายตา ความหวามไหวเริ่มทำลายสติของเธออย่างรวดเร็วจนอารมณ์ที่คุกรุ่นก่อนหน้าจวนจะปะทุอย่างอดรนทนไม่ไหว ก่อนมือข้างหนึ่งจะปิดหน้าอกเอาไว้ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
"อย่าจ้องเราแบบนั้นสิ รู้หรอกน่าว่าหน้าอกเราเล็ก"
"เปล่า...พี่สวยมากเลยพี่ซอล สวยจนหลงละสายตาไม่ได้เลย"
"ถ้าเธออยากสัมผัสมัน เราก็พร้อม..."
มือข้างที่ปิดหน้าอกลดต่ำลงช้า ๆ จนเผยให้เห็นยอดปทุมถันตั้งตระหง่านเรียกร้องสายตา หลงเอื้อมมือสัมผัสและลูบไล้มันช้า ๆ จนได้ยินเสียงลมหายใจกระเส่าดังออกมาจากเจ้าของทรวงอกที่งดงามคู่นี้
ลมหายใจอุ่นและริมฝีปากไล้ที่ต้นคอระหง จนคนตัวเล็กถึงกับแหงนหน้าเคลิบเคลิ้มกับทุกสัมผัส ครั้งนี้หลงไม่รีบร้อนเหมือนทุกครั้ง แต่เธอให้ทุกอย่างมันดำเนินไปอย่างเชื่องช้าผิดกับจังหวะหัวใจของทั้งคู่ที่เต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก 
หลงพรบจูบที่ต้นคอระหงสลับทั้งสองข้างเพิ่มดอมดมกลิ่นกายหอมรัญจวนชวนลุ่มหลงราวกับกลิ่นฟีโรโมนที่สะกดเธอได้อย่างอยู่หมัด แม้แต่มือทั้งสองข้างก็ลูบไล้สัมผัสไปทั่วเรือนร่างบางจนขนทั่วทั้งตัวลุกซู่ด้วยความเสียวซาบซ่าน
ร่างบางถูกประคองให้โน้มตัวลงนอนช้า ๆ ก่อนที่หลงจะก้มลงครอบครองยอดปทุมถันที่เรียกสายตาตั้งแต่ต้น เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาแบบน้อยนิด แต่มันสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเจ้าตัวได้เป็นทวีคูณ เธอจึงจูบไล่ลงต่ำเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ใต้สะดือ พร้อมกับที่นิ้วเรียวเกี่ยวขอบกางเกงดึงลงตามเรียวขาช้า ๆ ซึ่งอีกคนก็ยกสะโพกให้ความร่วมมือกับเธอ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด
พี่ซอลอยากให้จูบตรงนี้...
หลงยังจำได้ดีว่าคนรักเคยบอกอะไรกับเธอไว้บ้าง เธอจึงจูบไล้ที่เรียวขาไต่ระดับขึ้นด้านบนช้า ๆ จนซอลแทบหายใจติดขัดกับทุกสัมผัสที่หลงมอบให้ แน่นอนว่าครั้งนี้มันดีจนน่าเหลือเชื่อ และในที่สุด...กลีบดอกไม้ที่ชุ่มไปด้วยน้ำหวานก็ถูกพรมจูบเข้าจนได้
"อ๊ะ...อือ..." 
มันไม่ใช่เพียงแค่สัมผัสด้วยริมฝีปากเท่านั้น แต่ความหวามไหวที่อยู่ในใจทำให้หลงอยากจะลิ้มลองมันเหลือเกิน ลิ้นอุ่นจึงค่อย ๆ โลมเลียชิมน้ำหวานช้า ๆ จนร่างบางถึงกับดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน และรีบคว้าผมสีดำขลับเอาไว้
"ซี๊ด...อะ...."
"ไม่ชอบเหรอ"
"ป...เปล่าค่ะ ชอบค่ะ ชอบมาก ๆ เลย"
"อืม...หลงก็ชอบ" เธอไม่ว่าเปล่า พูดจบก็ก้มลงโลมเลียน้ำหวานอีกครั้งจนร่างถึงกับสั่นระริก 
ยิ่งดูดดื่มมันมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนกับว่าน้ำหวานจะไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป มันหลั่งไหลออกมามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ และยิ่งเธอตวัดเลีย ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางดังออกมาเป็นระยะ พี่ซอลคงจะชอบมันน่าดู หลงจึงเร่งจังหวะขึ้นอีกและพรมจูบมันอย่างดูดดื่ม ผมสีดำจึงยิ่งถูกขยุ้มแน่นขึ้น
"อือ...อื๊อ...อ๊า....อื๊อ!!"
หลงจำได้ดี หากร่างกระตุกเกร็งมันหมายความว่าเพลงรักบทแรกได้จบลงแล้ว เธอจึงก้าวขึ้นมาประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อีกคนจูบตอบเธออย่างดูดดื่มราวกับหิวกระหาย เธอจึงใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสกลีบดอกไม้ช้า ๆ
ถ้ามันเปียก...แปลว่าพี่ซอลพร้อมแล้ว...
"อึก...อื๊อ!!"
หลงไม่รอช้ารีบสอดนิ้วเรียวเข้าทำหน้าที่จนสองมือจิกที่แขนของเธอแน่น น้ำหวานมันมีมากเสียจนทำให้เธอเพลิดเพลินกับการมอบความสุขในครั้งนี้ เสียงครวญครางที่ดังออกมานั้นช่างไพเราะเสนาะหูก่อนที่มันจะหายวับเข้าไปในปากของเธอ เมื่อซอลคว้าหมับที่ท้ายทอยแล้วดึงเธอเข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม
"อือ...อือ...อือ...."
ยิ่งนิ้วเรียวเร่งจังหวะเท่าไหร่ สองมือยิ่งจิกแขนเธอแน่นเท่านั้น หลงจึงใช้มืออีกข้างโอบกอดร่างคนตัวเล็กเอาไว้และโหมจังหวะดังพายุกระหน่ำปิดท้ายเพลงรักจนในที่สุด พายุก็ได้ซัดเข้าสู่ชายฝั่ง น้ำต่างทะลักเปรอะไปท่วมฝ่ามือของเธอ ร่างบางสั่นระริกและกระตุกเกร็ง อีกทั้งลมหายใจหอบแฮ่ก ๆ บอกเป็นสัญญาณของความสุขสมแล้ว
หลงยิ้มออกมาเมื่อส่งคนรักถึงฝั่งฝันแล้ว ก่อนจะก้มลงจูบลงที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน ไล่มาถึงริมฝีปาก แต่อีกฝ่ายไม่เหลือแม้แต่แรงจะจูบตอบเธอนี่สิ...
"ขออีกได้ไหม..." หลงเอ่ยถาม พร้อมกับที่มือก็เริ่มทำหน้าที่อีกครั้งโดยไม่ฟังคำตอบเสียด้วยซ้ำ ซอลจึงกอดรัดร่างของเธอเอาไว้แน่นอีกครั้ง แม้จะพูดออกมายังฟังไม่ได้ศัพท์
"อือ...หลง...หลง...หลง...อ๊า..."
"หลงรักพี่นะ...หลงรักพี่...หลงรักพี่ซอล..."
"อ๊า...อ๊า...หลง...ซี๊ด...อ๊า..."
"หลงรักพี่ซอล...หลงรักพี่ซอล...ได้ยินไหม...หลงรักพี่ซอล..."