เพียงกระซิบ

เพียงกระซิบ
ตอนที่ 2 ความลับ

"ตกลงตามนี้นะ" หญิงสาวเจ้าของผมสีผมบลอนด์ทองพูดพลางกับมองหญิงสาวอีกคนที่ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ที่โซฟาภายในห้องทำงานส่วนตัวของเธอเอง
"ทำไมต้องเก็บเป็นความลับด้วยครับคุณซอล" พนักงานหนุ่มเอ่ยถาม
"ฮัค แกอย่าถามมากได้ไหม คุณซอลบอกให้ทำก็ทำไปเถอะ" ผู้จัดการสาวเสริมขึ้น ยิ่งทำให้เขาฉงนขึ้นไปอีก
"เอาเป็นว่าถ้าทุกอย่างมันกระจ่างขึ้น เดี๋ยวนายก็รู้เองนั่นแหละ"
"ผมไม่เข้าใจครับคุณซอล"
"งั้นให้คิดว่ามันเป็นการประเมินพนักงานแล้วกัน นายออกไปเตรียมเปิดร้านได้แล้ว"
"แล้ว...หลงล่ะครับ"
"เดี๋ยวเรากับพี่จิ้งหรีดจัดการเอง"
"เอ่อ...รับทราบครับคุณซอล" แม้พนักงานหนุ่มจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์แต่เขาจำต้องเดินออกจากห้องไปอย่างเสียไม่ได้ เหลือเพียงสาวสวยทั้งสามอยู่ภายในห้องเท่านั้น
"คุณซอลมั่นใจแล้วเหรอคะว่าหลงคือคนที่ตามหาจริง ๆ" ผู้จัดการสาวเอ่ยถามคนเป็นนายที่เอาแต่นั่งจ้องมองพนักงานรุ่นน้องแบบไม่ละสายตาด้านข้างโซฟาคล้ายกำลังตรวจสอบใบหน้าอย่างไรอย่างนั้น
"เราว่าต้องใช่แน่ ๆ เราจำได้ว่าเป็นคนนี้ ไม่คิดเลยว่าคนที่เราตามหาจะอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง"
"ก็คุณซอลไม่ยอมดูรูปสมัครงานนี่คะ ไม่งั้นคงได้เจอกันไปนานแล้ว"
"เฮ้อ...เสียเวลาไปตั้งหลายปี แต่เราคิดว่ามันคงยังไม่ถึงเวลาของเราล่ะมั้ง"
"ก็อาจจะใช่นะคะ แล้ว...คุณซอลจะทำยังไงต่อไปเหรอคะ"
"เราอยากพิสูจน์"
"พิสูจน์?" เธอทวนคำพูดและเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
"พิสูจน์ว่าเด็กคนนี้จะเป็นคนที่เราตามหาจริงหรือเปล่า"
"พิสูจน์ยังไงเหรอคะ"
"ก็ตามที่เราบอกไปก่อนหน้านี้นั่นแหละ"
"เข้าใจแล้วค่ะ แล้วถ้าบังเอิญว่าหลงไม่ใช่คนที่คุณซอลตามหาล่ะคะ"
"ก็แค่ตามหาต่อไป"
"แล้วถ้า...ใช่..."
"ถ้าใช่ เราก็จะทำทุกวิถีทางที่คิดว่าจะทำให้เด็กคนนี้รักเรา" ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเธอดูมุ่งมั่นจนผู้จัดการสาวพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย เพราะคนอย่างหลงน่ะ เคยสนใจใครที่ไหนกัน
"ยากหน่อยนะคะที่จะทำให้หลงรักคุณซอลได้ ที่ผ่านมาหลงเหมือนคนไม่มีความรู้สึกเลย"
"ไม่มีใครที่ไม่มีความรู้สึกหรอกพี่จิ้งหรีด เพียงแต่   ว่า...มันอาจจะลึกจนเราต้องเข้าไปค้นด้วยตัวเองน่ะ ถึงมันจะลำบากหน่อยก็เถอะ แต่ถ้าเขาคือคนที่เราตามหาจริง ๆ เราว่ามันก็คุ้ม"
"ไม่กลัวว่ามันจะจบแบบเดิมเหรอคะคุณซอล"
"ไม่...เรารู้สึกว่ากับคนนี้มันจะไม่จบแบบเดิมอีก"
"เฮ้อ...งั้น...พี่เอาใจช่วยแล้วกันนะคะ..."


เวลาล่วงเลยผ่านไปได้พักใหญ่ หญิงสาวร่างสูงโปร่งเริ่มรู้สึกตัวจึงใช้มือข้างหนึ่งเสยผมสีดำขลับของตนก่อนจะขยุ้มเอาไว้เพื่อบรรเทาอาการมึนศีรษะ พลางกับมองไป  รอบ ๆ ห้องและพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอต้องเข้ามาเอาหนังสือของคนเป็นนายเพื่อไปจัดวางบนชั้นหนังสือสำหรับอ่านฟรีภายในร้าน จึงได้รู้ว่าที่ที่เธอนอนพักอยู่ตอนนี้คือห้องทำงานส่วนตัวของคุณซอลนั่นเอง
"เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย"
เธอบ่นพึมพำเบา ๆ จำได้ว่า...ก่อนหน้านี้เหมือนมีบางสิ่งบางอย่าง คาดว่าจะเป็นผี พุ่งเข้าใส่และเธอก็จำเหตุการณ์อะไรไม่ได้อีกเลยคล้ายกับภาพตัดอย่างกะทันหัน เธอคงจะหมดสติไปเป็นแน่ ถึงได้มานอนอยู่บนโซฟาของเจ้านายได้ คิดขึ้นได้เธอจึงรีบพยุงตัวขึ้น ก่อนจะสะบัดศีรษะไปสองถึงสามครั้งเพื่อเรียกสติ
"ถ้ามึนหัวอยู่ก็อย่ารีบลุกสิ"
"เฮือก!!" 
เสียงใครบางคนดังเข้ามาในโสตประสาท ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้งเฮือก ตอนนี้เธออยู่ในห้องเพียงลำพังนี่ แล้วเสียงนั่น...เป็นเสียงของใครกัน
"ยังมึนอยู่ใช่ไหม"
ทันทีที่ได้ยินเสียงอีกครั้งเพื่อช่วยยืนยันว่าเธอไม่ได้หูแว่วแต่อย่างใด เธอถึงกับหันขวับไปตามต้นตอของเสียง ก่อนจะพบว่า บนโซฟาเดี่ยวด้านข้างกับที่เธอนอนอยู่มีร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งมองมาทางเธอ ทำเอาเธอถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ก่อนที่มือน้อย ๆ จะรีบเอื้อมมาปิดปากเธอเอาไว้แน่น
"ผ...ผี...อุ๊บ!!!"
"เราไม่ใช่ผีสักหน่อย!!" 
แม้จะยังตกใจกลัว แต่การที่สามารถสัมผัสร่างกายได้ขนาดนี้คงไม่ใช่ผีอย่างที่เธอเข้าใจ หลงจึงพยายามตั้งสติเพื่อสำรวจคนตรงหน้า แท้จริงแล้วเธอมีผมสีบลอนด์ทอง ไม่ใช่ผมสีขาว เธอสวมชุดเดรสสีชมพูอ่อน ไม่ใช่สีขาวอีกเช่นกัน และรองเท้าหุ้มส้นสีชมพูอ่อนค่อนไปทางสีเนื้อ รับกับผิวขาวอมชมพูของเธอได้เป็นอย่างดี
ใบหน้านั้นเรียกได้ว่าอ่อนเยาว์ราวกับเด็กวัยใส ปากกระจับอมชมพู นัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายแวววับกับขนตายาวงามงอน ดู ๆ แล้วคล้ายกับเด็กตัวเล็ก ๆ ที่แอบเอาเครื่องสำอางของแม่มาแต่งอย่างไรอย่างนั้น แต่เธอสามารถแต่งแต้มออกมาได้ดูดีเชียวล่ะ
นัยน์ตาสีดำสบประสานกับนัยน์ตาสีน้ำตาลอยู่ครู่หนึ่งในขณะที่คนตัวเล็กก็ยังใช้มือปิดปากเธออยู่ ก่อนที่สติของหลงจะคืนกลับมา ทำเอาเธอดวงตาเบิกโพลงอีกครั้งที่ทุกอย่างมันเงียบสงัดจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศภายในห้องกำลังทำงานอยู่
"เฮ้ย!!" เธออุทานลั่นพร้อมกับผละออกมาด้วยความตกใจ
เป็นไปไม่ได้! ทำไม! ทำไมไม่ได้ยินเสียงความคิดแล้วล่ะ!!? หลงคิดในใจก่อนจะเอื้อมมือทั้งสองข้างมาวางแหมะบนศีรษะของคนตัวเล็ก
"บ้าน่า...ทำไมล่ะ...ทำไม..." ว่าพลางกับใช้มือคลำที่ศีรษะอีกคนไม่เลิก จนหญิงสาวเจ้าของผมสีบลอนด์ทองมองเธอคิ้วขมวด
"นี่จะจับหัวเราเล่นอีกนานไหมหลง"
"ฮะ!!? รู้จักเราด้วยเหรอ!?" เธอรีบชักมือกลับทันทีเพราะเผลอทำเรื่องเสียมารยาทเข้า
"รู้จักสิ ตั้งแต่วันนี้เราจะมาทำงานที่นี่น่ะ เราชื่อ...เอ่อ...ซอนะ ซอด้วง ยินดีที่ได้รู้จักนะหลง" ว่าพลางกับยื่นมือออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่อีกคนกลับเดินหนีไปเสียอย่างนั้น
"อ้าวหลง!! จะไปไหน!? ยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลยนะ!! เดี๋ยวก่อน หลง!!"
หลงรีบเดินจ้ำอ้าวออกมาจากห้องด้วยความตื่นเต้น ในที่สุด...ความทุกข์ทรมานก็สิ้นสุดลงเสียที ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ยินเสียงความคิดของคนอื่นอีกต่อไปแล้ว! นี่สิคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝัน เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเสียที
"พี่จิ้ง!!" เธอโผเข้าไปหาผู้จัดการสาวด้วยความดีใจคล้ายคนเก็บอาการไม่อยู่ ทำเอาคนเป็นพี่ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะเห็นรุ่นน้องยิ้มแป้นแล้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา
'กรี๊ด!!! อกอีแป้นจะแตก ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็นเจ้าหลงยิ้มแป้นเป็นครั้งแรก!!!' จากรอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินเสียงความคิดของผู้จัดการสาว 
"เฮ้ย!! อะไรหลง ทำไมทำหน้าแบบนั้น เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!?"
"เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร"
มันเกิดอะไรขึ้น...หลงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมเธอถึงไม่ได้ยินเสียงหญิงสาวตัวเล็กที่เอื้อมมือมาปิดปากเธอ แต่ผู้จัดการสาวกลับได้ยินเสียงเช่นที่เคยเป็น ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาพนักงานหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังจัดหนังสือบนชั้นวาง  แล้วจึงเอื้อมมือไปวางแหมะที่บ่าของเขาจนเขาถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
'แม่มึงเอ๊ย!!!!!' 
"อุ้ย!! ไอ้เจ้าหลง!!" เสียงอุทานในความคิดกับความเป็นจริงช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลงจึงรีบชักมือกลับและทำทีเสยผมสีดำขลับของตน ทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับขมวดคิ้วและมองเธอด้วยความแปลกใจ
"พี่ฮัคว่าผมหลงสวยปะ"
"เป็นไรวะไอ้เจ้าหลง เป็นลมแล้วสมองกลับเหรอ อะไรเข้าสิงแกวะ"
"เปล่าซะหน่อย ก็แค่ถามน่ะว่าผมหลงสวยไหม"
"ไม่"
"เอ้าพี่!!!"
"ไป ๆ เกะกะ ทำเอาพี่ใจหายใจคว่ำหมด" ว่าพลางกับบึนปากล่างเป็นเชิงไล่ให้เธอไปที่อื่น เพราะเขากำลังถือกองหนังสือไว้ในมือจึงไม่สามารถใช้มือไล่ได้
หลงเดินกลับมาหาผู้จัดการสาวด้วยความสับสนอีกครั้ง นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดเป็นแน่ ก่อนจะพบว่าหญิงสาวตัวเล็กเดินออกมายืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์พลางกับส่งยิ้มหวานมาให้เธอ
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอใครที่ทำหน้าแป้นแล้นใส่เธอมาก่อน เพราะเธอน่ะหน้าดุราวกับจะพิฆาตใครด้วยสายตา แม้แต่เด็กคนใดที่ได้เห็นเธอต่างก็ร้องไห้และวิ่งหนีไปทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเสียด้วยซ้ำ จึงสร้างความแปลกใจให้หลงไม่น้อย
"แกเป็นอะไรของแกเนี่ยหลง วันนี้ทำตัวแปลกนะ" ผู้จัดการสาวเอ่ยถามเพราะเห็นท่าทีของหลงดูผิดแปลกไปจากเดิม
"หลงแปลกยังไงคะพี่จิ้ง"
"เมื่อกี้ยิ้มแป้นออกมาเชียว ตอนนี้กลับมาหน้าบูดเป็นตูดอีกแล้ว โดนไอ้ฮัครังแกมาเหรอ"
"เปล่าค่ะ แล้ว...จะรับพนักงานใหม่ทำไมไม่บอกหลงหน่อย ตกใจหมดนึกว่าโดนผีหลอกตอนเช้า" 
"ฮ่า ๆ พี่เนี่ยตกใจเสียงแกกับคุณซอลจนเกือบหัวใจวาย"
"คุณซอล?" เมื่อหลงทวนคำพูดของเธอพร้อมกับเอียงคอทำหน้าฉงน เจ้าตัวจึงรีบพูดแก้อย่างทันควัน
"ซอค่ะ! ซอด้วง" 
"อ่า ใช่ ๆ นี่คือซอด้วงนะ จะมาทำงานกับเราที่นี่ตั้งแต่วันนี้" ว่าพลางกับผายมือไปทางหญิงสาวตัวเล็กที่ยังคงส่งยิ้มหวานไม่เลิก แต่หลงกลับทำแค่เพียงกระตุกมุมปากให้ดูเหมือนยิ้มเท่านั้น
"ปากแกหนักเหรอหลง ตอนยิ้มน่ารักจะตายชัก ทำไมถึงทำหน้าอมทุกข์อีกแล้วเนี่ย ช่วยยิ้มต้อนรับพนักงานใหม่หน่อยได้ไหม"
สิ้นคำพูดของผู้จัดการสาว หลงจึงพยายามฉีกยิ้ม ช้า ๆ คล้ายคนแสยะยิ้ม ซึ่งมันดูน่ากลัวกว่าตอนเธอทำหน้าอมทุกข์เสียอีก ทำเอาหญิงสาวทั้งสองถึงกับขนลุกซู่
"พอ ๆ ถ้าฝืนก็ไม่ต้องยิ้ม! น่ากลัวโว้ย!!"
"พี่จะให้หลงทำยังไง คือ...หลงเข้ากับคนไม่เก่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเราเข้าหาหลงเอง" หญิงสาวผม บลอนด์ทองพูดพลางกับอมยิ้ม ผู้จัดการสาวจึงผินหน้าไปทางอื่นพร้อมกับเกาที่ท้ายทอยแกรก ๆ เพราะไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเป็นอย่างไรต่อไป
คนหนึ่งราวกับไอศกรีมแสนหวานละมุนหลากสีสัน ที่ใคร ๆ ต่างก็อยากลิ้มลอง ส่วนอีกคนราวกับโคนของไอศกรีมที่เป็นสีชาโคลดูดุดัน มันดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่มันอาจจะเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวก็ได้ ใครจะไปรู้
"งั้นวันนี้หลงช่วยสอนงานคุณซอล เอ้ย! ซอด้วง หน่อยนะ"
"ให้พี่ฮัคสอนไม่ได้เหรอคะ"
"ไม่ หลงนั่นแหละ เหมาะสมที่สุดแล้ว"
"แต่หลงเพิ่งจะมาเป็นฟูลไทม์เองนะพี่จิ้ง คนที่เหมาะสมมากกว่าหลงคือพี่ฮัค"
"โอ๊ย! พี่มอบหมายให้แกทำ! อย่าขัดคำสั่งพี่!"
"อ่า...ก็ได้ค่ะ" เมื่อคนเป็นนายมอบหมายหน้าที่ ใครกันจะกล้าขัดคำสั่ง แม้เธอจะไม่ถูกชะตาหญิงสาวผม บลอนด์เอาเสียเลย...
หลงเหลือบมองหญิงสาวตัวเล็กพลางกับพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหนักใจ ปกติเธอก็ไม่อยากคบค้าสมาคมกับใครนักหรอก เพราะเธอบอบช้ำมามากพอแล้ว เริ่มต้นก็เหมือนจะดี ท้ายที่สุดก็ไม่ได้รักและหวังดีกับเธอเลยสักคน จะมีก็แต่จิ้งหรีดและฮัคนี่แหละที่เอาแต่คิดถึงเรื่องของกันและกัน จึงไม่ได้สนใจในตัวหลงมากนัก เธอชอบที่จะเป็นอากาศมากกว่า ยิ่งกับคนที่ต่อหน้ายิ้มหวาน ลับหลังอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้
ฉันไม่ชอบผมสีทองของเธอเลย ความมั่นใจของเธอมันทำให้ฉันประหม่า... หลงคิดในใจก่อนจะเดินกลับไปทำหน้าที่ของตน
"ทำไมเรารู้สึกว่าการเข้าหาเด็กคนนี้มันช่างยากเย็นเหลือเกินนะ" ซอลบ่นพึมพำ
"เห็นไหมคะ พี่บอกแล้ว ยังไงก็สู้ ๆ นะคะคุณซอล"
"ขอบคุณค่ะ งั้นซอด้วงขอไปเรียนรู้งานก่อนนะคะผู้จัดการ"
"ค่ะ"
ผู้จัดการสาวได้แต่มองตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่วิ่งเข้าไปหาหญิงสาวผมดำขลับเจ้าของสายตาพิฆาตด้วยความหนักใจก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"เฮ้อ..."
ก็หวังว่า...หลงจะเป็นคนที่คุณตามหาจริง ๆ นะคะคุณซอล...


ระหว่างที่หลงกำลังจำแนกหมวดหมู่หนังสือจากลังกระดาษที่เป็นของคุณซอลด้วยความขะมักเขม้น หญิงสาวตัวเล็กก็เอาแต่นั่งมองหน้าเธอและตามติดราวกับเงาจึงทำให้หลงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยที่มีคนเดินตามเธอทุกฝีก้าวแบบนี้ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนหรือทำอะไรก็มีคนตัวเล็กตามติดไม่ห่าง
"นี่ ๆ วันนี้เราต้องทำอะไรเหรอ"
"แยกหนังสือของคุณซอลไปวางไว้บนชั้นสำหรับอ่านฟรีค่ะ" ปากว่า มือและสายตาก็ยังวุ่นกับการทำงานไม่สนใจอีกคนแม้แต่น้อย
"อ๋อ...คุณซอลนี่เป็นคนยังไงเหรอ"
"ไม่รู้ค่ะ หลงไม่เคยเจอ แต่ก็คิดว่าคงจะเป็นคนใจดีมาก ๆ ล่ะมั้ง"
"เหรอ...ทำไมถึงรู้ว่าเป็นคนใจดีล่ะ"
"ก็หนังสือพวกนี้เป็นของคุณซอลหมดเลย เห็นพี่จิ้ง บอกว่าคุณซอลรักหนังสือมาก แต่ยอมให้คนอื่นอ่านฟรี ๆ แบบนี้ก็ต้องเป็นคนใจดีสิ"
"อ้อ...หลงมองว่าคนที่แบ่งปันของรักของหวงว่าเป็นคนใจดีสินะ" 
"..." หลงเหลือบสายตามองเจ้าตัวเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาคัดแยกกองหนังสือต่อไป แต่อีกคนก็ยังเอาแต่พูด พูด และก็พูดไม่เลิก ไม่ได้ตั้งใจทำงานอย่างเธอเลยแม้แต่น้อย
"นี่ ๆ หลงว่า...คุณซอลจะหน้าตาเป็นยังไง เห็นพี่จิ้งหรีดบอกว่าสวยมากเลยนะ"
"ไม่รู้ค่ะ ไม่เคยเห็น"
"ลองเดา ๆ ดูสิ"
"นี่เธอ! คุณซอลรับเธอมาทำงานนะ ไม่ใช่ให้มาถามนั่นถามนี่ถึงเจ้านาย!!" 
"งั้นไม่พูดถึงคุณซอลแล้วก็ได้ เราชื่อซอด้วงนะ" หลงกลอกตามองบนเล็กน้อยพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก 
"ค่ะ" 
"ไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอคะ"
"เธอก็รู้จักเราแล้วไง"
"รู้จักแค่ชื่อเอง อยากรู้จักมากกว่านี้น่ะ ต้องทำยังไง"
"ทำงาน"
"ถ้าทำงานเสร็จแล้วเราจะได้ทำความรู้จักกันใช่ไหม"
"อืม" พูดจบหลงก็รีบหอบกองหนังสือแล้วเดินจ้ำอ้าวหนีไปทันที แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่วายหอบกองหนังสืออีกกองวิ่งตามเธอมาด้วย
"นี่ ๆ กองนี้เราต้องเอาไปไว้ที่ไหนเหรอ"
"..."
"นี่ ๆ ตอบเราหน่อยสิหลง!"
"..."
"เจ้าหลง!!" สิ้นคำพูดของเธอ ทำเอาหลงถึงกับหันขวับ
แววตาที่มองมานั้นราวกับจะฉีกเนื้อให้เป็นชิ้น ๆ จนซอลถึงกับชะงัก ก่อนหญิงสาวร่างสูงโปร่งจะสาวเท้าเข้าหาอย่างรวดเร็วราวกับกำลังไม่พอใจที่ถูกเรียกแบบนั้น
คนหนึ่งก้าวเข้าหา อีกคนถอยหลังหนี จนในที่สุดแผ่นหลังของซอลก็ชนเข้ากับผนังร้านเข้าจนได้ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กหนีต่อไปไม่ได้อีกแล้ว คนหน้าดุจึงโน้มตัวเข้าหาเธอช้า ๆ แต่โชคยังดีที่มีกองหนังสืออยู่ในมือ ซอลจึงใช้บรรดาหนังสือที่ถืออยู่ดันร่างอีกคนให้ถอยห่างออกไป
ไม่ได้ยินเสียงความคิดของผู้หญิงคนนี้จริง ๆ ด้วย ทำไมกันนะ...เพราะพูดมากผิดปกติจนความคิดตามไม่ทันหรือเปล่านะ
หลงพินิจพิเคราะห์ในใจพลางกับมองสำรวจใบหน้าของคนตัวเล็กแบบไม่ละสายตา ทำเอาเจ้าตัวถึงกับยืนตัวแข็งทื่อราวกับถูกสายตาพิฆาตเสกเธอให้กลายเป็นหินอย่างไรอย่างนั้น
"ล...หลง...เราพูดอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า"
"เปล่า แต่ช่วยหยุดพูดสักสิบนาทีได้ไหมนะ"
"รำคาญเหรอ" เธอถามเสียงแผ่ว
"ไม่เชิงหรอก แต่ปกติไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วยน่ะ เลยไม่ชิน"
"แต่เราอยากคุยกับหลงนะ"
"ทำไมถึงอยากคุยด้วย เราไม่ใช่คนใจดีเหมือนคุณซอลหรอกนะ ขนาดเด็กมองหน้าเรายังร้องไห้เลย ตอนนี้หน้าเธอก็เหมือนจะร้องไห้เลยรู้ตัวไหม"
"งั้นก็ช่วยใจดีกับเราหน่อยไม่ได้เหรอ" 
"..." เพราะคนตัวเล็กมีสีหน้าคล้ายเด็กกำลังจะร้องไห้ หลงจึงรีบผละออกทันที 
ใช่ว่าเธอจะเป็นคนใจไม้ไส้ระกำเสียหน่อย เพียงแค่เธอสายตาไม่ค่อยจะดีจึงต้องเพ่งมองมากกว่าปกติ บวกกับแววตาและใบหน้าดูดุดันด้วย ที่ทำให้ใคร ๆ ต่างก็หวาดกลัวเธอไปเสียหมด หลงจึงได้แต่ใช้นิ้วชี้เกาที่ขมับเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวว่าอย่างไรดี ถ้าบอกว่าเธอเป็นคนใจจิตอ่อนโยนยิ่งกว่าแม่ชี ใครกันจะเชื่อ
"ถามจริง ๆ นะ ยังเด็กอยู่เลย ทำไมถึงมาทำงานน่ะ พ่อกับแม่ไม่ว่าเหรอ"
"ฮะ!?" 
"เราถามว่าทำไมถึงมาทำงาน พ่อแม่ไม่ว่าอะไรเหรอ อายุถึงไหมเนี่ย เดี๋ยวพี่จิ้งหรีดก็โดนเล่นงานหรอก มานี่ เดี๋ยวช่วยถือ" พูดจบเธอจึงหอบหนังสือกองโตช่วยคนตัวเล็ก เพราะกลัวจะถูกกล่าวหาว่าใช้แรงงานเด็ก
"อ้าว ถามทำไมไม่ตอบ ทีเมื่อกี้ล่ะพูดไม่หยุดเลยนะ"
"เรากำลังงงอยู่น่ะ ที่เธอบอกว่าเด็กคือหมายถึงใคร"
"แล้วนี่เราคุยกับใครอยู่ล่ะ"
"คือเราไม่เด็กแล้วนะหลง"
"เด็กก็ชอบบอกว่าตัวเองโตแล้วกันทั้งนั้น บรรลุนิติภาวะหรือยังคะเด็กน้อย" 
"เราอายุมากกว่าเธอแล้วกัน!!" คนตัวเล็กพูดพลางกับมองค้อน
"ถามจริ๊ง!!?" 
"แหม...เสียงสูงขนาดนี้เอาบัตรประชาชนมาเทียบกันเลยไหมไอ้น้อง"
"มาเลย! ใครเด็กกว่าเป็นหมานะน้องนะ"
"โอ๊ยด๊าย!! เทียบเสร็จหอนให้ดูด้วยล่ะไอ้หมาหลง!"
"หน็อยแน่!! เดี๋ยวเจอ! เห็นบัตรประชาชนพี่แล้วน้องจะหนาว แป๊บนะ วางหนังสือก่อน จะได้เตรียมฟังเด็กแถวนี้หอน" ว่าพลางกับนำหนังสือกองโตวางลงกับพื้นก่อนจะรื้อแขนเสื้อขึ้นเป็นเชิงท้าทาย ส่วนคนตัวเล็กนั้นกอดอกพลางกับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย เพราะเธอน่ะรู้ประวัติส่วนตัวของพนักงานคนนี้ดีเชียวล่ะ
ต่างคนต่างคว้าบัตรประจำตัวประชาชนออกมาอย่างไม่มีใครยอมใคร และคนที่ดูมั่นอกมั่นใจที่สุดก็คงจะเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งนี่แหละที่คิดว่าตนเหนือกว่า ก่อนเธอจะดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นปีเกิดของคนตัวเล็กที่มากกว่าเธอถึงเจ็ดปี ทำเอาเธอถึงกับอ้าปากเหวอ
"ไงไอ้น้อง...หอนให้พี่ฟังหน่อยสิ"
"เฮ้ย! น้องแอบเอาบัตรประชาชนใครมาเนี่ย!! อย่ามาอำนะ"
"ใครเขาจะพกบัตรของคนอื่นกันล่ะ ว่ายังไง ใครนะเป็นคนพูดว่าใครเด็กกว่าเป็นหมา อุ๊ย! อยู่ดี ๆ เด็กแถวนี้ก็ได้เป็นหมาอะ โฮะ ๆ" หลงแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ช่างน่าอับอายขายขี้หน้าเสียนี้กระไร 
"ให้ตายสิ!!"
"หอนสิไอ้น้อง อยากฟังจังเลย"
"เพ้อเจ้อ! นี่มันเวลางานนะ เอาหนังสือกองนี้กลับไปจัดใส่ชั้นวางเองแล้วกัน" พูดจบก็รีบเดินจ้ำอ้าวหนีไปทันที คนตัวเล็กจึงรีบหอบกองหนังสือวิ่งตามเธอไปอีกครั้ง
"นี่หลง!! อย่าโกงกันนะ!!"
"ไม่ได้โกง ก็บอกว่านี่มันเวลางานไง!!"
"เนี่ย!! แบบนี้มันโกงกันชัด ๆ"
"ก็บอกว่าไม่ได้โกง!!"
"ขี้โกง!!"
"ไม่ได้โกง!!"
"ไอ้ขี้โกง!!!"
"ไม่ได้โกงไงโว้ย!!"
"เนี่ย!! โกงกันเห็น ๆ"
เสียงหญิงสาวทั้งสองที่เถียงกันดังลั่นร้านไม่ได้เกรงใจลูกค้าแม้แต่น้อยราวกับว่าที่นี่มีเพียงแค่เธอสองคนเท่านั้น ทำเอาผู้จัดการสาวต้องรีบวิ่งไปขอโทษขอโพยลูกค้าแบบยกใหญ่
คุณซอลนะคุณซอล พออยู่กับเจ้าหลงก็กลายเป็นเด็กไม่ต่างกันหรอกค่ะ!!


"เฮ้อ...เหนื่อยเป็นบ้าเลย ยัยบ้านั่นทำฉันปวดประสาททั้งวัน"
หญิงสาวร่างสูงโปร่งเจ้าของผมยาวสลวยสีดำขลับบ่นพึมพำระหว่างเดินทางกลับหอพักของตน แม้ระยะทางจะไกลหลายกิโลแต่เธอก็เลือกที่จะใช้การเดินเท้าในการไป-กลับหอพักและที่ทำงานแทน เพราะหากต้องขึ้นไปอยู่บนรถที่มีคนแออัดมันจะทำให้เธอเสียสุขภาพจิตกับการได้ยินเสียงความคิดที่สับสนวุ่นวายของคนเหล่านั้นที่มาสัมผัสโดนตัวเธอ
แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่เธอไม่สามารถได้ยินเสียงความคิดของหญิงสาวพนักงานใหม่ มันเพราะเหตุใดกันนะ ยิ่งคิด หลงก็ยิ่งสับสน ก่อนเธอจะสะบัดศีรษะเรียกสติตัวเองให้เลิกฟุ้งซ่านเสียที
"มิ้ว ๆ" ทันทีที่เดินมาถึงหน้าหอพัก เธอก็ไม่ลืมที่จะมองหาเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเจอกันเมื่อวันที่ผ่านมา พร้อมกับล้วงเอาซองขนมสำหรับแมวในกระเป๋าเป้สีดำของเธอออกมาด้วย
"มิ้ว ๆ แมวเอ้ย...มากินขนมเร็ว..." 
ในที่สุดเจ้าแมวเด็กลายสลิดก็โผล่หน้าออกมาจากพุ่มไม้จนได้ จากที่หลงกำลังยืนอยู่ก็เปลี่ยนไปเป็นนั่ง จากนั่งก็เปลี่ยนไปเป็นคลาน และท้ายที่สุดก็จบลงด้วยการนอนราบกับพื้นเช่นเดิม คนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับมองเธอเป็นตาเดียว แต่ใครล่ะจะสน หลงสนใจแค่เจ้าแมวน้อยที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ที่พุ่มไม้เท่านั้น
"เป็นทาสแมวเหรอเนี่ย ถึงว่าล่ะ ทำไมเราบอกให้หอนแล้วไม่ยอมหอนสักที" สิ้นเสียงหวาน หลงจึงหันขวับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ
"เฮ้ย!!! พี่มาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย!!!?" ทั้งคนทั้งแมวต่างสะดุ้งโหยงจนมันรีบกระโจนหนีไปในทันที พร้อมกับที่หลงก็รีบดีดตัวขึ้นด้วยความตกใจ
"หิวจัง ไปกินข้าวกันไหม เดี๋ยวเราเลี้ยง"
"ฮะ!!!?"
"ตกใจอะไร แค่ชวนไปกินข้าว"
"เดี๋ยว ๆ ก่อนอื่นคือพี่ควรบอกหลงก่อนนะ ว่าพี่มาอยู่ที่นี่ได้ไง"
"ก็เดินตามเธอมาไง"
"ตามหลงมาทำไมเนี่ย!!?"
"เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตามมาทำไม รู้ตัวอีกทีก็หาทางกลับไม่เจอแล้ว ว้า...สงสัยจะหลงแล้วมั้ง ปะ ไปกินข้าวกัน"
"เฮ้ย!! พี่บ้าปะเนี่ย!!?" 
หญิงสาวตัวเล็กไม่ได้ตอบคำถามของเธอแต่อย่างใดแต่กลับจูงแขนเธอไปอย่างหน้าตาเฉย ดูเธอเอาแต่ใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หลงก็จำต้องยอมเดินตามเธอไปอย่างเสียไม่ได้

"อยากกินอะไร"
"แล้วแต่พี่เลย"
"แล้วแต่เราไม่ได้ ต้องแล้วแต่เธอสิ เพราะเราบอกว่าจะเลี้ยงไง"
"ก็ต้องแล้วแต่คนเลี้ยงสิ แต่อันที่จริงพี่ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้นะ หลงเกรงใจ"
"อืม" แม้ปากจะตอบ แต่เธอก็ลากอีกคนเข้าไปนั่งหน้าร้านบะหมี่เกี๊ยวข้างทางไปเสียแล้ว
"อยากกินอะไร"
"ถามทำไม พี่ลากหลงมาแล้ว"
"ไม่ไง จะให้สั่งเผื่อด้วย"
"พี่นี่ต้องเป็นคนยังไงเนี่ย แปลกคน ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนแบบพี่นี่แหละ"
"ดีจังที่เราไม่เหมือนใคร" หลงได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ คนคนนี้ทำเอาเธอถึงกับอึ้ง
"เอาไรครับน้อง" พนักงานหนุ่มเอ่ยถาม
"เอ่อ...เอาบะหมี่พิเศษเกี๊ยวหนึ่ง ส่วนของหนูน้อยนี่เอาธรรมดาค่ะ"
"เศษเกี๊ยวหนึ่ง เกี๊ยวดาหนึ่งนะ"
"ไม่ค่ะ ไม่เอาเศษเกี๊ยว เอาเกี๊ยวที่เป็นชิ้นเหมือนในรูปน่ะค่ะ จะขายของไม่ตรงปกเหรอ" คำพูดของเธอทำเอาพนักงานหนุ่มและหลงถึงกับอ้าปากเหวอ ก่อนหลงจะรีบเอื้อมมือมาปิดปากเธอเอาไว้ แล้วหันไปยิ้มเจื่อน ๆ ให้พนักงานหนุ่มอย่างเขิน ๆ
"ค่ะพี่ ตามนั้นแหละค่ะ" เธอรีบแก้ต่าง ก่อนพนักงานหนุ่มจะพยักหน้าและเดินจากไปด้วยความมึนงง คนตัวเล็กจึงปัดมือเธอออกทันที
"หลง! เรามาซื้อกินนะ ไม่ได้มาขอ ทำไมต้องกินเศษเกี๊ยวด้วย!" ว่าพลางกับทำหน้ามุ่ยและกอดอกด้วยความไม่พอใจ 
"มันคือคำย่อของ พิเศษเกี๊ยวค่ะคุณพี่ขา พี่เป็นคนที่ไหนค้า!!?" อยากจะบ้าตาย!!!
"อ้าวเหรอ อุ๊ย...อายจัง"
"พี่นี่เป็นคนแปลกจริง ๆ ไม่มีคนปกติที่ไหนเขาอยากญาติดีกับหลงหรอกนะ"
"ทำไมว่างั้นล่ะ"
"หน้าหลงดูเป็นมิตรที่ไหนล่ะ ขนาดพี่เห็นหลงจ้องพี่ยังแทบจะร้องไห้ด้วยซ้ำ"
"ใช่ งั้นก็ใจดีกับเราให้มาก ๆ สิ"
"ทำไมหลงต้องใจดีกับพี่ด้วย แล้วทำไมพี่ต้องตามหลงมา พี่มีจุดประสงค์อะไรบอกมา"
"คืนนี้ขอค้างห้องหลงนะ"
"เฮ้ย!!! พี่จะบ้าเหรอ!!!?"

แปลก...ยังไงยัยคนนี้ก็แปลกพิลึกกึกกือ รู้จักกันไหม ก็ไม่ อยู่ ๆ จะมาขอค้างห้องคนอื่นได้ยังไง 
บ้าไปแล้ว!!!