เพียงกระซิบ

เพียงกระซิบ
ตอนที่ 20 บททดสอบ

"คืนนี้หลงจะนอนหอตัวเองนะคะ" เสียงที่เอ่ยออกมานั้นดูเยือกเย็นรับกับใบหน้าเคร่งขรึมของผู้พูดเสียจนคนที่ได้ยินไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถาม
บรรยากาศบนรถนั้นเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนราวกับมีเมฆหมอกมาปกคลุมอย่างไรอย่างนั้น ซอลก็พอจะรู้ได้ว่าต้นเหตุมันอาจจะเป็นเพราะเธอเอง ที่เข้าใจผิดอีกฝ่ายจนต้องเจ็บตัว
ก็ขอโทษไปแล้วนี่ ยังไม่หายงอนอีกเหรอ... ซอลคิดในใจ
"วันนี้เราจะเข้าไปหาพี่สะใภ้ที่บ้านแล้วคุยกันเรื่องน้องลูกจ๋านะ"
"ค่ะ" หลงตอบกลับมาเพียงคำสั้น ๆ เท่านั้น จึงทำให้คนตัวเล็กหน้ายู่เพราะเธอไม่รู้จะง้อคนรักของตนอย่างไรดี กลัวว่าเจ้าตัวจะรำคาญหากพูดมากเกินไป เธอจึงได้แต่ขับรถไปเงียบ ๆ แม้ในใจเธอร้อนรนจนอกแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
"นี่...ตอนเที่ยงอยากกินอะไร เราจะซื้อเข้ามาให้"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"งั้น...ตอนเย็นเดี๋ยวเราเข้ามารับแล้วไปเยี่ยมแม่น้องลูกจ๋ากันเนอะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหลงไปเอง"
"ไม่ได้สิ เรารับปากคุณป้าเจ้าของหอเธอแล้วไงว่าจะไปเยี่ยม"
"พี่เสร็จธุระแล้วค่อยไปก็ได้"
"หลง...นี่เธอยังไม่หายงอนเราอีกเหรอ" ซอลถามด้วยสีหน้าคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ แต่หลงกลับนั่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
"น้องหลงขา...พี่ซอลขอโทษนะคะ"
"ค่ะ"
"ฮือ...อย่าใช้น้ำเสียงเย็นชาแบบนี้สิคะ พี่ซอลอกจะแตกตายแล้วนะคะ"
"ค่ะ"
"น้องหลงขา...คนดีของพี่ซอล น้องหลงผู้น่ารักที่สุดในโลก"
"พี่ช่วยขับรถเงียบ ๆ ได้ไหม" 
แม้ซอลจะใช้น้ำเสียงที่ออดอ้อนอย่างไรเจ้าตัวก็ไม่ใจอ่อนแต่อย่างใด ยิ่งได้ยินเสียงเรียบนิ่งตอบกลับมาแบบนี้เธอจึงรีบรูดซิปปากทันที 
เมื่อรถเก๋งสีขาวมาจอดเทียบฟุตบาทที่หน้าร้าน หลงจึงรีบปลดเข็มขัดนิรภัยและเปิดประตูลงจากรถโดยไม่แม้จะเอ่ยคำใดออกมา คนตัวเล็กมองตามเธอตาละห้อย ก่อนที่หลงจะเปิดประตูรถออกและกลับขึ้นมานั่งบนรถอีกครั้ง ทำเอาซอลถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน
"ลืมอะไรคะ"
"พี่" 
"หือ?"
"หลงไม่ได้งอนพี่แต่หลงเป็นประจำเดือน เลยรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย คืนนี้หลงเลยอยากอยู่คนเดียว เพราะกลัวว่าจะหงุดหงิดใส่พี่ อย่าคิดมากนะ" เธอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่มือกลับเอื้อมมือลูบศีรษะคนตัวเล็ก ราวกับอยากปลอบเต็มแก่แล้วเพียงแค่เธอแสดงความรู้สึกไม่เก่งก็เท่านั้น ซอลจึงอมยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
"หายงอนเราแล้วเหรอ"
"อืม ก็บอกแล้วว่าไม่ได้งอน แค่รู้สึกหงุดหงิดเพราะไม่สบายตัวน่ะ"
"งั้นขอจุ๊บหน่อยจิ" เธอพูดพลางกับทำปากจู๋ คนหน้าดุจึงรีบเปิดประตูลงจากรถทันที
"ฝันไปเถอะ"
ซอลถึงกับหลุดขำพรืดที่คนหน้าดุมักจะหลีกเลี่ยงการแสดงความรักแบบนี้อยู่เสมอ คนที่เคยอ้อนขอจูบก่อนทำงานเธอหายไปไหนกันนะ นับวันยิ่งปากแข็งเข้าไปทุกที เด็กปากแข็งก็คือเด็กปากแข็งวันยังค่ำ 
สภาพของหลงนั้นเดินขากะเผลกอ้อมไปทางหลังร้านพร้อมกับที่มือขวาค้ำเอวเอาไว้ ซอลจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังของเธอด้วยความรู้สึกผิด ก็เธอเล่นถีบแบบเต็มแรงจนหลงกระเด็นตกเตียงเสียขนาดนั้น ไม่เจ็บตัวน่ะสิถึงจะแปลก
"ตั้งแต่คบกันมา ดูเหมือนเธอจะเจ็บตัวบ่อยมากเลย หรือสีชมพูจะเป็นสีกาลกิณีของเธอจริง ๆ นะหลง" ซอลทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ยี่หระและขับรถออกไป

"สวัสดีค่ะพี่จิ้งหรีด สวัสดีค่ะพี่ฮัค" หลงกล่าวทักทายรุ่นพี่ทั้งสองที่กำลังนั่งกินข้าวร่วมกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหลังร้านก่อนจะเดินขากะเผลกไปเปิดประตูจนทั้งสองได้แต่มองตามแบบคิ้วขมวด
"เดี๋ยว ๆ ทำไมเดินแบบนั้นน่ะ" ผู้จัดการสาวเอ่ยถาม
"ตกเตียงค่ะ"
"หือ!!? ไหนแกเคยบอกพี่ว่าที่หอไม่มีเตียงไง"
เมื่อได้ยินคำถามทำเอาหลงถึงกับชะงัก แต่เธอยังแสดงสีหน้าเรียบเฉยได้อย่างแนบเนียนจนไม่สามารถจับพิรุธได้แม้แต่น้อย
"นั่นแหละค่ะ ตกที่นอน ประมาณนั้นแหละ"
"อ่า...มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ" รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยถามบ้าง
"ลงผิดท่าก็งี้แหละค่ะ เลยเจ็บหน่อย"
"เหรอ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณซอลใช่ไหม" หลงชะงักอีกครั้งเมื่อได้ยินคำถามจากผู้จัดการสาว ดูเหมือนรุ่นพี่ทั้งสองจะรู้เรื่องระหว่างเธอกับคนเป็นนายแล้ว คงไม่มีอะไรให้ปิดบังแล้วกระมัง
พี่ซอลเคยบอกว่าให้ลองเปิดใจนี่นา... 
หลงคิดในใจอย่างพินิจพิเคราะห์ถึงคำพูดที่คนรักเคยบอกเอาไว้ว่าให้ลองเปิดใจเรียนรู้ผู้อื่นดูบ้าง เธอจึงพยักหน้าตอบกลับไป
"ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่พี่ซอลเข้าใจผิดคิดว่าหลงแกล้ง ทั้ง ๆ ที่หลงอยากมีอะไรกับพี่ซอลจริง ๆ ก็เลยโดนถีบตกเตียง"
"พรืด!!!!" 
เมื่อหลงพูดออกมาแบบหน้าตาเฉย ทำเอาน้ำเย็น ๆ พวยพุ่งออกมาจากปากและจมูกผู้จัดการสาวใส่หน้าชายหนุ่มเต็ม ๆ ราวกับน้ำพุอย่างไรอย่างนั้น แต่หากจะเรียกว่าน้ำมนต์ก็ยังได้
"อื้อหือ...หน้าผม!!"
"แค่ก ๆ ๆ หลง!!! แค่ก ๆ"
หลงได้แต่ยืนมองทั้งสองด้วยความมึนงง ก่อนจะถูกชายหนุ่มรุ่นพี่กวักมือไล่เข้าไปในร้าน เพราะเขาต้องคอยลูบหลังให้กับผู้จัดการสาวเสียก่อน หลงจึงพยักหน้าและเดินขากะเผลกเข้าไปในร้านทั้งที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เสียด้วยซ้ำ
"แก...หลงกับคุณซอล...ถึงขั้นนั้นแล้วเหรอวะ แค่ก ๆ"
"ไม่อยากจะเชื่อเลย..."
"ไม่นะ...เจ้าหลงผู้ไร้เดียงสาของฉัน ฮือ...."


"หลง! เข้ามาหาพี่หน่อย!!"
หลงถึงกับหันขวับเมื่อได้ยินเสียงดุดังเอ่ยเรียก ก่อนเธอจะเดินไปตามต้นตอของเสียงจึงได้พบว่าผู้จัดการสาวนั่งกอดอกรอเธออยู่บริเวณล็อกเกอร์เก็บของ และมีเก้าอี้อีกตัวอยู่ฝั่งตรงข้าม สีหน้าของผู้จัดการสาวราวกับคนกำลังโกรธ
"นั่งสิ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย"
"คะ? ไม่เปิดร้านเหรอคะ จะถึงเวลาเปิดร้านแล้วนะคะ"
"เดี๋ยวให้ฮัคไปเปิดรอก็ได้"
"อ๋อค่ะ หลงทำอะไรผิดไปหรือเปล่า"
"นั่งก่อน"
หลงเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามตามคำเชื้อเชิญ สถานการณ์แบบนี้ราวกับเธอกำลังจะถูกสอบสวนอย่างไรอย่างนั้น ทำให้เธอหวั่นใจไม่น้อย
"พี่จิ้งหรีดจะคุยอะไรกับหลงเหรอคะ"
"หลง หลังจากนี้ให้ระวังเวลาจะพูดเรื่องส่วนตัวนะ เข้าใจไหม"
"เรื่องไหนคะ"
"เรื่องระหว่างหลงกับคุณซอลไง อย่าเที่ยวไปพูดเรื่องนี้กับใคร เพราะมันอาจจะทำให้ทั้งหลงและคุณซอลเสียหายได้นะ"
"แต่พี่ซอลบอกว่าพี่สองคนไว้ใจได้"
"อ่า...มันก็ใช่อยู่หรอก สำหรับพี่น่ะคือพูดได้ทุกเรื่องนั่นแหละ แต่คนอื่นคือพี่ไม่รู้ไงว่าเขาจะมองหลงกับคุณซอลยังไง เข้าใจที่พี่พูดไหม"
"เข้าใจค่ะ หลงจะระวังค่ะ"
"คือที่พี่บอกเพราะพี่หวังดีนะ อย่าเข้าใจผิด พี่ไม่ได้ว่าอะไรหลงอยู่แล้ว คนเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีบ้างแหละเนอะเรื่องอย่างว่าน่ะ แต่ก็นั่นแหละ ให้คุยกับคนที่สนิทใจก็พอ โอเคไหม"
"โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ"
"อืม แล้ว....หลงกับคุณซอลคบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม"
"ค่ะ" หลงพยักหน้า
"อยู่กับคุณซอลมีความสุขดีหรือเปล่า"
"ก็ดีค่ะ ทำไมเหรอคะ"
"ก็ถามดู พี่กลัวว่าหลงจะถูกคุณซอลรังแกน่ะ เพราะที่ผ่านมาพี่ไม่เคยเห็นคุณซอลเขาจริงจังกับใครเลย พอรู้ว่าคบกันพี่ก็เลยห่วงเรานิดหน่อย"
"พี่ซอลเป็นคนดีค่ะ ดูแลหลงดีมากด้วย"
"เหรอ ก็ดีแล้ว ถ้าหลงมีความสุขพี่ก็ดีใจ ไปทำงานได้แล้ว" 
หลงพยักหน้าและเดินจากไป แต่ภายในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ทำไมใครต่อใครต่างก็เตือนและเป็นห่วงเธอเรื่อง 'คุณซอล' มาตลอด ทั้ง ๆ ที่เธอสัมผัสได้ว่าคุณซอลของเธอออกจะเป็นคนดีเสียด้วยซ้ำ
แม้จะไม่เข้าใจนัก แต่เธอก็ต้องเก็บความสงสัยเอาไว้แล้วกลับไปทำหน้าที่ของตนอย่างเสียไม่ได้ ตอนนี้คุณซอลอาจจะไม่ใช่คุณซอลคนเดิมแล้วก็ได้ เพราะเธอน่ะจริงจังไปเสียทุกอย่าง


เมื่อรถเก๋งสีขาวมาจอดที่ลานจอดรถภายในบ้าน ซอลเปิดประตูรถลงมาแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เดินไปไหนเสียด้วยซ้ำก็มีแม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีค่ะคุณซอล ป้านึกว่าเมื่อคืนคุณซอลจะกลับมานอนที่บ้านซะอีก ป้ากับคุณนิดก็อุตส่าห์ทำเกี๊ยวหมูของโปรดคุณซอลไว้เยอะแยะเลยค่ะ"
"น่าเสียดายจังเลยค่ะที่ไม่ได้อยู่ทาน ขอโทษนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงนี้คุณซอลไม่ค่อยกลับบ้านเลยนะคะ ป้าน่ะคิดถึ้งคิดถึง" ซอลอมยิ้มพลางกับปิดประตูรถของตน
"โธ่ป้าแจ่มจันทร์ก็...เลี้ยงซอลตั้งแต่เด็กแล้วไม่เบื่อซอลเหรอคะ"
"ไม่เลยค่ะ คุณหนูเล็กน่ะน่ารักและก็เลี้ยงง่าย ป้าไม่มีทางเบื่อแน่นอนค่ะ"
"ฮ่า ๆ ป้าเนี่ยเอาใจซอลเก๊งเก่ง"
"ฮ่า ๆ แล้ววันนี้จะนอนที่บ้านไหมคะ"
"คงไม่ค่ะ ซอลแค่จะเข้ามาหาพี่ปราณน่ะค่ะ"
"วันนี้คุณปราณไม่อยู่หรอกค่ะ"
"อ้าว...พี่ปราณไปไหนคะ"
"ออกไปกับคุณมีตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ สงสัยวันนี้มีงานมั้งนะคะ ป้าก็ไม่ได้ถามเอาไว้"
"อ้าว ซะงั้น ซอลอุตส่าห์มีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่ปราณสักหน่อย สงสัยต้องเข้ามาวันหลัง"
"ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไม่เข้าไปหาคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงหน่อยเหรอคะ ท่านดูเหงา ๆ นะคะตั้งแต่คุณซอลไม่ค่อยกลับบ้าน"
"อย่าพูดให้ซอลรู้สึกผิดสิคะป้า" ซอลทำหน้ายู่จนหญิงวัยกลางคนต้องรีบกุมมือเธอเอาไว้
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะคุณหนูเล็ก ป้าไม่ได้มีเจตนาจะให้คุณหนูเล็กรู้สึกผิดนะคะ"
"ซอลหยอกเล่นค่ะ ซอลโตแล้วนะป้า เลิกเรียกซอลว่าคุณหนูเล็กสักที ไม่ชอบเลยอะไรที่มันทางการแบบนี้"
"แฮะ ๆ ป้าขอโทษค่ะ" เธอยิ้มเจื่อน ๆ กลับมา ซอลจึงกุมมือเธอเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม
"หยอกเล่นน้า...แล้วแต่ป้าจะเรียกเลยค่ะ เพราะยังไงซอลก็เป็นยัยตัวเล็กของป้าอยู่ดี จริงไหมคะ"
"ค่ะคุณซอล แล้วจะเข้าบ้านสักหน่อยไหมค่ะ"
"ก็คงต้องเข้าไปหาพ่อกับแม่สักหน่อยแหละค่ะ ไหน ๆ ก็กลับมาแล้ว ซอลมีเรื่องที่จะคุยกับพ่อแม่พอดี"
"ดีเลยค่ะ เดี๋ยวป้าจะทำของว่างมาให้ทานนะคะ"
"โอเคค่ะ" สิ้นคำตอบ หญิงวัยกลางคนจึงเดินเข้าไปในบ้านอย่างรีบร้อน 
ซอลสูดหายใจลึก ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยืดอกเดินเข้าไปในบ้านด้วยความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม วันนี้เธอจะต้องพูดคุยกับคนเป็นพ่อและแม่เรื่องความสัมพันธ์ของเธอและหลงให้ได้!


กริ๊ง ๆ
"สวัสดีค่ะ..." ผู้จัดการสาวถึงกับชะงักเมื่อเห็นลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน
ฝ่ายชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็กสีดำ สวมแว่นตากรอบดำและเซ็ทผมเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนลูกค้าหญิงแต่งกายไม่ได้แตกต่างกันมากนักเพียงแต่เป็นเสื้อเชิ้ตสีชมพูและสวมส้นสูงดูมีสง่าราศี แม้แต่หน้าตาก็เรียกได้ว่าระดับดาราเซเลบเลยก็ว่าได้
ทั้งสองเพียงแค่หันมายิ้มให้กับเธออย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในร้านซึ่งเป็นโซนที่หลงดูแลอยู่
"สวัสดีค่ะ เจ้าของร้านอยู่หรือเปล่าคะ" สาวสวยเอ่ยถาม
"สวัสดีค่ะ พอดีว่าวันนี้คุณซอลมีธุระข้างนอกน่ะค่ะ"
"โทรตามให้หน่อยได้ไหมคะ"
"เอ่อ...เดี๋ยวติดต่อคุณซอลให้นะคะ"
ทำไมวันที่พี่ซอลไม่อยู่ชอบมีคนมาหาทุกที... หลงคิดในใจ พลางกับกดค้นหาเบอร์โทรศัพท์คนเป็นนาย ซึ่งหนุ่มหล่ออีกคนยืนกอดอกกดดันเธอด้วยใบหน้าเคร่งขรึมมันทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...
ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...
"ติดต่อได้หรือยังคะ"
"สักครู่นะคะ ยังติดต่อไม่ได้เลยค่ะ" หลงตอบด้วยความร้อนใจ เพราะไม่มีการตอบรับจากปลายสายมาหลายนาทีแล้ว
ถ้าเป็นแขกคนสำคัญของพี่ซอล ทำไมพี่จิ้งหรีดไม่มาต้อนรับวะ... 
หลงอดสงสัยกับสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้ เพราะโดยปกติแล้วหากมีลูกค้าคนสำคัญของคุณซอล ผู้จัดการสาวจะทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับและคอยดูแลแขก และสิ่งที่ทำให้สงสัยยิ่งกว่าก็คงจะเป็นตัวลูกค้าเอง ไฉนถึงเดินตรงเข้ามาหาเธอ แทนที่จะเข้าไปถามพนักงานที่ประจำอยู่บริเวณเคาน์เตอร์
ตอนที่คุณจีนกับพี่ชายพี่ซอลมาก็แบบนี้เลย เหมือนทุกคนจงใจเดินมาหาเรามากกว่าจะมาถามหาพี่ซอล ลูกค้าสองคนนี้ต้องมีความข้องเกี่ยวกับพี่ซอลแน่ ๆ 
หลงพยายามวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ หากเป็นอย่างที่เธอคิดจริง ๆ เธอจะได้ตั้งรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ แต่หากไม่ใช่ เธอก็จะไม่ทำให้คุณซอลเสียหายอย่างแน่นอน
"ดูเหมือนคุณซอลจะติดธุระสำคัญอยู่ค่ะ มีอะไรด่วนฝากไว้ที่หลงก่อนได้ค่ะ เดี๋ยวหลงแจ้งคุณซอลให้"
"ไม่เป็นไรค่ะ มาขนาดนี้แล้วก็คงรออยู่นี่แหละ"
"คุณเคยเล่นหมากรุกหรือเปล่า" เมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง หลงจึงโค้งตัวลงเล็กน้อย
"เคยค่ะ"
"เล่นกับผมสักหน่อยได้ไหม ระหว่างที่รอซอลกลับมา"
"แต่หลงไม่แน่ใจว่าวันนี้คุณซอลจะเข้ามาที่ร้านหรือเปล่า สะดวกเข้ามาวันหลังหรือเปล่าคะ"
"ไม่อยากเล่นกับผมเหรอ" หลงชะงักเล็กน้อย สีหน้าของเขาดูจริงจังจนหลงไม่กล้าแม้แต่จะสบตา อีกทั้งน้ำเสียงที่ดูเคร่งขรึม มันทำให้หลงประหม่าไม่น้อย เขาผู้นี้ต้องการอะไรจากเธอกันแน่
"เอ่อ...เดี๋ยวหลงไปถามผู้จัดการดูนะคะว่าเอาหมากรุกไปเล่นได้หรือเปล่า"
"เดี๋ยวผมจ่ายเอง คุณจัดการได้เลย" พูดจบเขาจึงเดินจากไปทันที จนหลงได้แต่พยักหน้าตามหลังโดยมีสาวสวยยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ
"เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ อาจจะดูดุ ๆ หน่อยแต่เขาไม่ใช่คนใจร้ายนะคะ แค่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง"
"แฮะ ๆ" หลงแสยะยิ้ม จู่ ๆ ก็เห็นตัวเองในตัวเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"จะรอชมฝีมือการเล่นหมากรุกของคุณนะคะ"
"ค่ะ"
แม้จะไม่อยากตกปากรับคำไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ดูเหมือนกับว่าเธอกำลังจะถูกทดสอบอย่างไรอย่างนั้น หากเป็นการทดสอบเพื่อพี่ซอลแล้วล่ะก็ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องชนะเท่านั้น แต่ถ้าไม่ใช่...ก็ถือเสียว่าเล่นสนุก ๆ ระหว่างรออย่างที่เขาต้องการก็แล้วกัน...


"เป็นยังไงบ้างล่ะเรา ไปอยู่คอนโด ไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่องเลยนะ" คนเป็นแม่พูดพร้อมกับปอกแอปเปิ้ลไปพลาง ๆ ลูกสาวที่นั่งอยู่โต๊ะอาหารจึงได้แต่มองแบบลุ้นตาม
"แม่วางมีดก่อนไหม ซอลเสียว"
"พูดอย่างกับแม่ไม่เคยปอกงั้นแหละ"
"ก็ปกติแม่ให้ป้าแจ่มจันทร์ทำนี่นา"
"ไม่ต้องมาเนียนเปลี่ยนเรื่องเลย"
"ซอลเปล่าเปลี่ยนเรื่องนะคะ เป็นห่วงนะเนี่ย แม่วางมีดก่อน ขอแบบนั่งคุยดี ๆ ได้ไหมคะ"
คนเป็นแม่ไม่ได้วางมีดลงแต่เงยหน้ามองลูกสาวพลางกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ส่วนคนเป็นพ่อก็ยังคงง่วนกับการอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ม้านั่งโยกเยกไม่ได้สนใจการมาของลูกสาวแม้แต่น้อย
"มีอะไรจะคุยกับแม่"
"แม่คะ...คือว่า...แม่จะว่าอะไรไหมคะ ถ้า..."
ครืด!! ครืด!!
ยังไม่ทันที่ซอลจะได้ถามอะไร โทรศัพท์มือถือก็สั่นครืดขัดจังหวะเสียก่อน ทำเอาความกล้าที่เธอสั่งสมมาถึงกับกระเจิง เธอจึงกดปิดระบบสั่นเอาไว้ และนั่งรวบรวมความกล้าใหม่อีกครั้ง
"คือ..."
"อะไรลูก คือ ๆ อยู่นั่นแหละ จะคุยอะไรก็คุยมาสิ"
"พ่อกับแม่จะว่าอะไรไหมคะถ้าซอลมีแฟนเป็นผู้หญิง!!?" ซอลพูดโพล่งออกมา แต่พ่อกับแม่ของเธอกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ 
"ทำไม? ที่ผ่านมาซอลก็คบกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ"
"ก...ก็ใช่ค่ะ...คือ...ซอลอยากรู้ไงว่าพ่อกับแม่จะโอเคหรือเปล่า อะไรแบบนี้!!" เธอเลี่ยงที่จะถามออกมาตรง ๆ แต่ท่าทีลุกลี้ลุกลนส่อพิรุธของเธอมีหรือคนเป็นแม่จะไม่รู้
"ถ้าบอกว่าไม่โอเค แล้วซอลจะกลับมาคบกับผู้ชายให้พ่อกับแม่ได้หรือเปล่าล่ะ? แม่มีลูกสาวแค่สองคน คนโตก็กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิง คนเล็กก็ยังมาชอบผู้หญิงอีก ซอลว่าแม่จะโอเคเหรอ"
"แม่...ไม่เอาแบบนี้สิคะ"
"รู้ว่าพ่อกับแม่ไม่โอเคแล้วก็ยังจะดื้อคบอีกอยู่ดี" คนเป็นพ่อพูดแทรกโดยที่ยังไม่ละสายตาจากหนังสือพิมพ์แต่อย่างใด ซอลจึงได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับคนเป็นแม่
"แม่...คือ...ซอลขอโทษค่ะ แต่ซอลเปลี่ยนไม่ได้"
"ลูกแค่ยังไม่เจอผู้ชายดี ๆ ตอนนี้แม่เลยคิดว่าลูกคงยังไม่รู้ใจตัวเอง"
"ซอลรู้ใจตัวเองดีค่ะ ว่าซอลชอบผู้หญิง"
"มันก็แค่ความสัมพันธ์ฉาบฉวยของวัยรุ่น แม่เข้าใจ ลูกอาจจะไม่ได้จริงจังเหมือนพี่ฟาเขาใช่ไหม"
"ทำไมการคบเพศเดียวกันแม่ถึงบอกว่าซอลไม่ได้จริงจังล่ะคะ ในเมื่อมันก็คือความรักเหมือนที่พ่อกับแม่รักกัน เพียงแค่เราสองคนเป็นผู้หญิงแค่นั้นเอง" คนเป็นแม่ผ่อนลมหายใจออกมา แสดงออกถึงความหนักใจจนซอลรับรู้ได้
"ซอล...ทำไมไม่ลองอยู่ในสังคมที่มีผู้ชายบ้าง ลูกอยู่แต่กับพี่ฟา เขาก็พาลูกไปเจอแต่สังคมแบบนั้น มันเลยอาจจะทำให้ลูกตื่นเต้นก็ได้นะ"
"แม่ มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ซอลไม่ได้อยากเป็นเหมือนพี่ฟา ซอลก็คือซอล พี่ฟาก็คือพี่ฟา เราต่างก็มีคนที่เราอยากจริงจังด้วย แม่ไม่เห็นเหรอว่าพี่พายเขาก็ดูแลพี่ฟาได้ดี"
"เพราะพี่พายเขามีทุกอย่างไงลูก แม่กับพ่อถึงปล่อย ยังไงพี่ฟาเขาก็ไม่ลำบากในอนาคต" ซอลชะงัก
"ความรักในนิยามของพ่อกับแม่คือต้องมีเงินเหรอคะ" สิ้นคำถาม ทำเอาพ่อของเธอพับกระดาษหนังสือพิมพ์ดังพรึบ จนเธอถึงกับสะดุ้ง
"ทำไม แฟนลูกไม่มีเงินเหรอ" คนเป็นพ่อเอ่ยถาม
"ม...ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ"
"แล้วมันอย่างไหน?"
"อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเงินสิคะ ซอลถามเรื่องที่ซอลคบผู้หญิงอยู่"
"ก็ถ้าซอลคบกับคนที่มีพร้อมทุกอย่าง ซอลคงไม่ลำบากใจที่จะคุยกับพ่อหรอก ขนาดตอนคบกับจีนก็ไม่เห็นว่าซอลจะลำบากใจเลยนี่ จู่ ๆ ก็พาเข้าบ้านแล้วให้พี่ฟาเขาช่วยพูด จากนั้นก็ลอยหน้าลอยตา พาเข้าบ้านบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่พ่อกับแม่ยังไม่เห็นดีเห็นงามด้วย ลูกก็เอาแต่ใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เหมือนพี่สาวของลูกไม่มีผิด" 
"คุณ!!" ซอลแทบกระอักเพราะคำพูดคนเป็นพ่อ แม้แม่ของเธอจะรีบห้ามปรามแต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว
"สรุปว่าพ่อกับแม่พอจะเดาได้ใช่ไหมคะที่ซอลไปอยู่คอนโดเพราะว่าซอลอยากอยู่กับแฟน"
"พ่ออาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมพ่อจะไม่รู้ ไหน ๆ ก็หนีไปอยู่ด้วยกันขนาดนั้นแล้วก็ไปให้สุดสิ จะกลับมาบอกพ่อกับแม่ทำไม"
"พ่อ!! ซอลไม่ได้หนีนะ!!"
"ก็เห็นหายหน้าหายตาไปนอนกกกันมาตั้งนาน จะมาบอกเอาป่านนี้เหรอ"
"คุณพอสักที!!" คนเป็นแม่ตวาดลั่น
"ทำไมพ่อใจแคบแบบนี้คะ"
"ซอล!!!" เมื่อถูกขึ้นเสียงใส่ ซอลจึงกัดฟันแน่น แต่เธอยังคงนั่งอยู่เงียบ ๆ ด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมแม้พ่อของเธอจะแสดงท่าทีขึงขังอย่างคนกำลังโกรธจัด
"ถ้าจะมาพูดแบบนี้ก็กลับไปเถอะ!! ทำขนาดนี้แล้วยังเห็นหัวพ่อกับแม่อยู่อีกเหรอ!!?"
"ก็เพราะซอลยังเคารพพ่อกับแม่อยู่นี่แหละค่ะ ซอลเลยอยากขออนุญาตที่จะคบกับแฟนแบบเปิดเผย"
"ไม่จำเป็นหรอก อยากทำอะไรก็ทำไป ไม่มีใครเขาสนใจหรอกว่าลูกสาวบ้านนี้ทำตัวนอกคอกขนาดไหน!!"
"แค่ซอลชอบผู้หญิงเนี่ยนะ!!?" ซอลถึงกับเหลืออดและตวาดกลับด้วยท่าทีขึงขังไม่ต่างกัน
ดูเหมือนว่าการเจรจาในวันนี้จะทำให้สถานการณ์มันแย่ลงกว่าเดิมเสียอีก ซอลกำมือแน่นและมองหน้าพ่อกับแม่ของเธอสลับไปมา สายตาของคนเป็นแม่ดูเป็นห่วงเธอแต่กลับไม่สามารถพูดอะไรได้ ซึ่งซอลก็เข้าใจแต่ใช่ว่าเธอจะยอมจำนนเพียงเท่านี้
"ซอลจะมาบอกพ่อกับแม่ว่าซอลมีแฟนแล้ว และแฟนซอลเป็นเด็กนิสัยดีมากค่ะ"
"ไม่จำเป็นต้องบอก พ่อไม่อยากรู้"
"แต่พ่อต้องรู้ค่ะ ซอลอยากให้พ่อรับรู้ในความสัมพันธ์ของเรา ซอลกับแฟนอยู่ด้วยกัน และเขาคอยดูแลซอลทุกอย่าง เขา...."
"ไม่ต้องพูด!!! พ่อไม่อยากฟัง!!" ซอลยังพูดไม่จบเสียด้วยซ้ำแต่กลับถูกคนเป็นพ่อตวาดกลับมา เธอจึงได้แต่กำมือแน่นและสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง
"เขาเป็นคนที่ทำให้ซอลอยากจริงจังกับความรักมากกว่าใครที่ผ่านมา"
"พ่อบอกว่าไม่อยากฟังไง!!!"
"คุณ!!! ฟังลูกพูด!!!" เมื่อคนเป็นแม่ขึ้นเสียงทำให้เขาชะงักเล็กน้อย ซอลจึงกลืนน้ำลายดังอึก ก่อนจะเงยหน้าสบตากับคนเป็นพ่อด้วยแววตาอันมุ่งมั่น
"ต่อให้วันนี้พ่อกับแม่จะไม่ยอมรับเขา ซอลก็จะยังรักและคบกับเขา ไม่ใช่เพราะซอลเป็นเด็กดื้อ แต่เพราะตอนนี้ซอลโตแล้ว ซอลโตพอที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตด้วยตัวเองแล้ว ซอลรู้ค่ะว่าพ่อกับแม่หวังดีอยากให้ซอลมีชีวิตที่ดี แต่ที่ผ่านมาซอลได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ ซึ่งนั่นก็คือการเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่ แต่คนที่จะอยู่กับซอลไปตลอดชีวิต คนที่จะอยู่เคียงข้างซอลไปจนวันสุดท้ายของชีวิต ซอลขอเป็นคนเลือกเองนะคะ และซอลเลือกแล้วค่ะ ว่าเป็นเขา..."
"ลูกคิดว่าความรักฉาบฉวยแบบลูกจะอยู่ไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างนั้นเหรอ"
"เรื่องนั้นซอลไม่รู้หรอกค่ะ อนาคตเราอาจจะเลิกกันก็ได้ แต่ซอลก็พร้อมที่จะเผชิญเรื่องทุกอย่างกับเขา ซอลพร้อมที่จะเรียนรูอะไรต่าง ๆ กับเขา แล้วอีกอย่าง...ซอลเห็นเขามาทั้งชีวิต ซอลไม่อยากให้เขาเป็นเพียงภาพอันเลือนลางอีกแล้ว เพราะเขาคือความจริงที่ซอลจะไม่มีวันปล่อยเขาหลุดมือไปแน่"
"หึ...อย่ามั่นใจขนาดนั้น สักวันลูกก็จะซมซานกลับมาเหมือนตอนที่ลูกเอาแต่นอนร้องไห้ เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเป็นอาทิตย์นั่นแหละ พ่อรู้ว่ามันคือคนที่ทำให้ลูกเป็นแบบนั้น"
"เขาไม่มีวันทำร้ายซอลหรอกค่ะพ่อ และซอลก็จะไม่มีวันทำร้ายเขา"
"พ่อจะรอดู..."


ภายในร้านขายหนังสือที่มีลูกค้าผลัดกันเข้าออกแบบประปราย ทุก ๆ วันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป หากจะเปลี่ยนก็เพียงแค่ลูกค้า แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก แต่วันนี้หลงกลับรู้สึกว่ามันเป็นวันที่ทำให้เธอกดดันและประหม่าที่สุดในชีวิต เพราะตอนนี้มีลูกค้าชวนเธอเล่นหมากรุกที่เธอไม่ได้เล่นมานานหลายปีแล้ว
ถึงแม้คำพูดของเขาคล้ายกับเชิญชวนเพื่อความสนุกแต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เขาดูเอาจริงเอาจังและต้องการเอาชนะเธอเสียให้ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นรองกับการเล่นหมากรุกแต่ใช่ว่าหลงจะยอมแพ้เสียทีเดียว
หลงใช้ความคิดวิเคราะห์อยู่เงียบ ๆ พลางกับกวาดสายตาไปที่ตารางหมากรุก โดยปกติแล้วเธอมักจะเล่นอยู่คนเดียวสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยเหตุเพราะเธอไม่มีเพื่อน และเธอก็ไม่อยากได้ยินเสียงความคิดของใครอีกด้วย แต่วันนี้มันกลับต่างไป เพราะเธอได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นตึกตักด้วยความประหม่า
ใจเย็น ๆ นะหลง...ค่อย ๆ คิด... หลงตือนสติตัวเองในใจ
"คิดนานจังนะครับ"
"ขอโทษนะคะ หลงไม่ได้เล่นหมากรุกนานมากแล้วค่ะ"
"เคยแข่งหรือเปล่า หรือว่าเล่นเอาสนุก"
"ไม่ใช่ทั้งสองค่ะ" เขาเงยหน้ามองเธออย่างแปลกใจ
"หมายความว่ายังไง"
"ปกติจะเล่นคนเดียวเวลาที่อยากหลบหนีจากความวุ่นวายน่ะค่ะ การเอาชนะตัวเองให้ได้เป็นอะไรที่ยากมากค่ะ เพราะเราต่างก็รู้ความคิดของตัวเองเลยดักทางตัวเองได้ตลอด"
"แล้วผลเป็นยังไง"
"ไม่เคยชนะตัวเองได้เลยค่ะ" เขายิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะก้มมองยังกระดานหมากรุก หลงจึงหยิบหมากเดินเกมต่อ
"ทำไมถึงเดินตัวนั้นล่ะ" หลงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเอาแต่ก้มมองกระดานอยู่เงียบ ๆ และเมื่อเขาเดินหมาก เธอจึงผ่อนลมหายใจออกมาและเอนพิงพนักเก้าอี้
"รุกฆาต" เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
"หลงเอาชนะคุณไม่ได้เลย"
"อยากลองแก้มือไหม"
"ขอลองอีกครั้งได้ไหมคะ" เขายิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะใช้แขนเท้าลงบนโต๊ะ
"ต่อให้จะลองอีกกี่ครั้งคุณก็เอาชนะผมไม่ได้หรอก" หลงนิ่งเงียบและกัดฟันเอาไว้แน่น ก่อนที่เขาจะพูดต่อจนทำให้หลงต้องเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจ
"แต่ชีวิตของผมเพิ่งเคยเจอผู้เล่นที่ดักทางผมได้ทุกครั้ง และยอมที่จะเดินหมากให้ผมชนะ คุณทำแบบนั้นเพื่ออะไร"
"คะ? คุณรู้เหรอคะ" เขายิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
"เอ่อ...คือ..."
"เพราะผมอยากเอาชนะคุณเกินไปงั้นเหรอ คุณถึงยอมแพ้ง่าย ๆ"
"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ หลงแค่รู้สึกว่าอยากเล่นเอาสนุก"
"แต่เมื่อกี้คุณดูเครียดมากนะครับ คงไม่ได้เล่นเอาสนุกแน่ ๆ ผมรู้"
"แล้วทำไมคุณถึงเล่นจริงจังขนาดนั้นล่ะคะ"
"ผมแค่อยากทดสอบคุณนิดหน่อย"
"ทดสอบ?" หลงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
"ว่าคุณมีไหวพริบพอหรือเปล่า"
"เอ่อ...หลงไม่เข้าใจค่ะ" หลงตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก เขาจึงหัวเราะในลำคอเบา ๆ 
"สนใจจะไปทำงานกับผมไหมครับ"
"เอ่อคือว่า..."
"ผมไม่ใช่นักต้มตุ๋นหรอกครับ ไม่ต้องกลัว ผมเป็นนักวิจัยน่ะ ผมอยากได้คนที่วิเคราะห์เก่ง ๆ และมีไหวพริบแบบคุณไปทำงานด้วย"
"เกรงว่าจะไม่ได้ค่ะ"
"เพราะ?"
"เพราะคุณซอลให้โอกาสหลงเข้ามาทำงานที่นี่ หลงก็อยากช่วยงานคุณซอลที่นี่ค่ะ"
"ทำงานร้านหนังสือมันไม่มีความก้าวหน้าหรอกนะครับ เป็นแค่พนักงานที่ทำงานแบบวนลูปเดิม ๆ น่ะ จะเอาอะไรมาพัฒนา หวังแค่จะเอาเงินเดือนเพิ่มขึ้นจากงานที่ไม่มีความพิเศษอะไรนี่เหรอ" 
"..." หลงนั่งเงียบ
"ไปทำงานกับผม คุณมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่านะครับ เงินเดือนก็เยอะกว่าด้วย"
"หลงสบายใจที่จะอยู่ที่นี่ค่ะ"
"อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธเลยค่ะ กลับไปคิดดูก่อนก็ได้" สาวสวยที่นั่งดูอยู่ข้าง ๆ พูดด้วยรอยยิ้ม 
"ขออนุญาตถามได้ไหมคะ ที่คุณมาที่นี่ ความจริงแล้วไม่ได้มาหาคุณซอล แต่ต้องการมาหาหลงใช่ไหมคะ"
"ฮ่า ๆ" เขาหัวเราะออกมา ทำเอาหลงถึงกับคิ้วขมวด
"..."
"ผมตั้งใจมาหาซอลนั่นแหละ แต่บังเอิญว่าเจอคุณซะก่อน ก็เลยถือโอกาสมาทดสอบคุณ"
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคุณซอลเหรอคะ" 
"..." เขายิ้ม ก่อนจะเอนพิงพนักเก้าอี้และนั่งขาไขว่ห้าง ท่าทีของเขาดูมีเลศนัยจนหัวใจของหลงเริ่มเต้นระรัว
"ผมเป็นพี่ชายของซอลครับ ชื่อมี..."