UR Love Song | เธอคือเพลงรัก (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

UR Love Song | เธอคือเพลงรัก (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 14 กะทันหัน

"รักที่โดนกีดกัน อย่างไรก็ต้องจำนน จะฝืนสักเท่าไหร่...ก็เป็นไปไม่ได้…"
สิ้นเสียงร้องอันทรงพลังของอดีตนักร้องนำ ทอฝันลุกขึ้นยืนปรบมือด้วยความชื่นชม จนเผยให้เห็นรอยยิ้มของสาวหล่อ จากที่ก่อนหน้าเธออินกับเพลงอกหักจนคนฟังแทบจะน้ำตาไหลพราก
"สุดยอดเลยค่ะพี่แตงโม หนูฟังพี่แตงโมร้องเพลงนี้ทีไร หนูอินไปด้วยตลอดเลย"
"ฮ่า ๆ แสดงว่าพี่ร้องดี จนคนฟังมีอารมณ์ร่วมด้วยเลยใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ ดีมาก ๆ เลยค่ะ"
"อย่ามัวแต่ชื่นชมพี่ เดี๋ยวคีย์มันน้อยใจ ฮ่า ๆ ถึงตาน้องฝันซ้อมแล้วนะ"
"ได้เลยค่ะ"
เมื่อแตงโมยื่นไมค์โครโฟนให้กับเธอ ทอฝันจึงรับมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้กับมือกีตาร์โซโล่ที่เป็นคนรักของเธอเองทว่าเธอก็ต้องหุบยิ้มทันที เมื่อเห็นอีกคนทำหน้าบึ้งตึง ไม่ยอมยิ้มตอบกลับมาแม้แต่น้อย
'ให้ตายสิ ฉันจะง้อพี่คีตายังไงดีเนี่ย ฮือ…'



1 ชั่วโมงก่อนหน้า
"ฮือ...พี่คีตาขา หนูขอโทษ หายงอนหนูเถอะนะคะ" ทอฝันพูดพลางพนมมือไว้ที่หน้าอกขอโทษขอโพยแฟนสาวแบบยกใหญ่ เพราะตั้งแต่ตื่นขึ้นมา คีตาไม่พูดไม่จากับเธอเลยสักคำ แม้แต่ตอนนี้ที่กำลังกินข้าวเที่ยงอยู่ร้านข้าวต้มเลือดหมูเจ้าประจำ เธอก็ยังมีท่าทีนิ่งเฉย จนทอฝันถึงกับคิดหนัก
"พี่คีตา…"
"..."
"คืนนี้หนูจะไม่หลับหนีพี่แล้วค่ะ ยกโทษให้หนูนะคะ หนูจะยอมพี่ทุกอย่างเลย น้า...หายงอนเค้าน้า…"
"ช่างเถอะ รีบกินได้แล้ว จะได้ไปซ้อมต่อ"
"พี่คีตาหายงอนหนูเถอะนะคะ คืนนี้พี่จะจูบหนูกี่ครั้งก็ดะ…" ยังไม่ทันที่ทอฝันจะได้พูดจบ คีตาก็เอื้อมมือมาปิดปากเธอได้ทัน ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ ซึ่งลูกค้านั้นนั่งกันเต็มร้าน หากเธอพูดอะไรแบบนี้ออกไปอาจจะมีปัญหาตามมาก็เป็นได้
"ชู่ว...อย่าเสียงดัง"
"พี่คีตาขา...หายงอนเค้านะ นะคะ"
"ค่ะ ๆ หายแล้ว รีบกิน!"
"ไม่เชื่ออ่า จนกว่าพี่จะยิ้มให้หนูดู"
"พี่จะไม่หายงอนจริง ๆ ด้วย ถ้าหนูไม่ยอมกินข้าว"
"ค่า...กินแล้วค่า…" ทอฝันได้แต่ทำแก้มตุ๊บป่องแล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกินแต่โดยดี เมื่อง้ออีกฝ่ายอย่างไรก็ไม่มีทีท่าว่าจะเผยรอยยิ้มออกมาแม้แต่น้อย


"โอเค เดี๋ยวพักกันก่อนแล้วกันวันนี้ ซ้อมยาวมาเป็นชั่วโมงละ" แตงโมพูดพลางกวักมือเรียกสมาชิกทุกคนให้มาดื่มน้ำที่ตนเตรียมเอาไว้ ทุกคนจึงยืดเส้นยืดสายกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมานั่งพักกัน โดยมีทอฝันนั่งอยู่ที่พื้น และมีคริสนั่งพิงหลังเธอเอาไว้ แต่คีตาก็ยังแสดงท่าทีเมินเฉย ดูท่าแล้วคงจะโกรธเธอไม่น้อยเลย
"ทำไมวันนี้ปวดบ่าแบบนี้นะ"
"ไหวไหมคะพี่คริส ให้หนูนวดให้ไหมคะ"
"สำออย"
"อ้าวคีย์!! มึงหนิ!!"
"ฮ่า ๆ พอ ๆ อย่าทะเลาะกันต่อหน้าน้อง เออนี่น้องฝัน พี่ขอแอดเฟรนด์หน่อยสิ" พู่กันพูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ทุกคนจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมาด้วยเช่นกัน
"จริงด้วย! หนูยังไม่มีเลสบุ๊กส่วนตัวพี่ ๆ เลย"
"ชื่อเลสบุ๊กว่าอะไรคะ เดี๋ยวพวกพี่แอดไป" คริสถาม
"แห้วน้อยกลอยใจ ตื่นได้แล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทัน ค่ะ"
"..." ในขณะที่ทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาเพื่อที่จะพิมพ์ค้นหาชื่อเลสบุ๊กของรุ่นน้อง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ทอฝันพูด ทุกคนถึงกับชะงัก แล้วเงยหน้ามองเธอทีละคน
"อะไรนะน้องฝัน ขออีกที" คริสพูดพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
"แห้วน้อยกลอยใจ ตื่นได้แล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทัน ค่ะ"
"..."
"..."
"..."
"..."
"..."
บรรยากาศในห้องซ้อมดนตรี เคมิวสิค เงียบกริบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่เท่านั้น ทอฝันจึงเหลือบมองรุ่นพี่ของเธอทีละคนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหวอ ก่อนที่ทุกคนจะลั่นเสียงหัวเราะออกมากันอย่างพร้อมเพรียงแม้แต่คีตาเองที่ก่อนหน้านี้เอาแต่หน้าบึ้ง แต่ตอนนี้เธอกลับหัวเราะชอบใจจนทอฝันถึงกับงง
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ก๊าก!!"
"พี่ ๆ หัวเราะอะไรกันคะเนี่ย"
"ฮ่า ๆ น้องฝัน!! ใครพาตั้งแบบนี้เนี่ย!! พี่ว่าแล้ว ทำไมคีย์มันพยายามหาเลสบุ๊กน้องแทบตายมันก็หาไม่เจอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ" แตงโมพูดพลางหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาเล็ด พร้อมกับเอามือกุมท้องเอาไว้ ทอฝันจึงได้แต่ยิ้มอย่างเก้ออาย
"แฮะ ๆ หนูไม่รู้จะตั้งว่าอะไรดีนี่คะ แล้วชื่อนี้นนนี่ชอบเรียกหนู แล้วก็เป็นประโยคที่นนนี่พูดทุกเช้า หนูก็เลยเอามาตั้งค่ะ"
"อย่างหลอน ฮ่า ๆ แถมรูปโปรไฟล์ยังเป็นรูปไอ้คีย์อีก นี่ถ้าพี่เป็นมันนะ พี่คงคิดว่าแฟนคลับโรคจิตแน่ ๆ ฮ่า ๆ ฮึก!" คริสพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาของตน เมื่อทอฝันหันไปมองหน้า เธอจึงเอามือมาปิดปากตัวเองเอาไว้จนใบหน้าของเธอแดงก่ำจากการกลั้นหัวเราะ
"โอ๊ยพี่ ๆ อ่า อย่าล้อหนูสิคะ"
"เอาซะพี่ไม่กล้าแอดเลย ฮ่า ๆ" พู่กันพูดบ้าง
"พวกมึงเลิกล้อแฟนกูได้แล้ว"
"แหม...มึงนี่หัวเราะก่อนเพื่อนเลยนะคีย์ น้องฝัน พี่แอดไปละนะ รับด้วย"
"ค่ะพี่ฝ้าย"
"พี่ก็แอดไปแล้ว" พู่กันและคนอื่น ๆ ต่างหันหน้าจอโทรศัพท์ให้รุ่นน้องของเธอดู ทอฝันจึงรีบกดรับเพื่อนทันทีพร้อมกับอมยิ้มด้วยความดีใจ
'ให้ตายสิ...นี่เราเป็นเพื่อนกับน้องฝันมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย' คีตาคิดในใจพลางก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ขึ้นแสดงว่า เธอกับแฟนสาวนั้น เป็นเพื่อนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่า ไปกดยืนยันเป็นเพื่อนชื่อเลสบุ๊กแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"เออ! เดือนหน้าที่มหา'ลัยเราจัดแข่งกีฬาสานสัมพันธ์ด้วยล่ะ!! จัดแข่งระหว่าง ม.เหนือกับ ม.ใต้ วันนั้นเห็นว่ามีแข่งดนตรีด้วยนะ เราลงประกวดกันเหอะ" คริสพูดเชิญชวนด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น
"พอดีเลย เวทีนี้น้องฝันจะได้ปล่อยของด้วย"
"คะ!? เดี๋ยวนะคะพี่แตงโม ทำไมพี่ไม่แข่งล่ะคะ เดือนหน้าพี่ยังอยู่ไม่ใช่เหรอคะ"
"ไม่จ้ะน้องฝัน พี่จะบินอาทิตย์หน้าแล้ว"
"เฮ้ย!! อะไรนะ!!?" สิ้นคำพูดของสาวหล่อ ทุกคนถึงกับอุทานลั่นด้วยความตกใจ
"พี่โม!! ทำไมไม่บอกพวกเราเลย มันกะทันหันไปไหม"
"มันถึงเวลากูแล้วคีย์ พวกมึงปล่อยกูไปตามทางเถอะ"
"เฮ้ย!! แต่พี่ก็ควรบอกให้เราเตรียมใจเร็วกว่านี้เปล่าวะ!!"
"กูไปแค่เมกาเอง กูไปเรียนต่อนะไม่ได้ไปตาย พวกมึงจะตกใจอะไรกันขนาดนั้นวะ คิดถึงก็ไปเที่ยวหากูดิ"
"พี่แตงโม!! เมกานะไม่ใช่ต่างจังหวัด ที่คิดถึงก็จะไปเที่ยวหากันง่าย ๆ อะ พี่ไม่คิดจะบอกพวกเราหน่อยเหรอ พี่ใจร้ายว่ะ!!" คริสพูดอย่างหัวเสีย ก่อนจะปล่อยโฮแล้วโผเข้าไปกอดแตงโมเอาไว้แน่น พร้อมกับพู่กันและฝ้ายก็ร้องไห้กอดเธอด้วยเช่นกัน เพราะที่ทั้งสองสมหวังได้ก็เพราะแตงโมนั่นเอง
"พี่แตงโมแม่ง! ฮึก ๆ "
"เอาน่าฝ้าย อย่าร้องเลย พวกมึงทุกคนด้วย กูฝากวงด้วยนะ มันหมดหน้าที่กูแล้ว"
"พี่แตงโมคะ ฮึก ๆ…"
"อืม...ว่าไงพู่กัน"
"บินกี่โมงคะ"
"วันอาทิตย์ตอน 3 ทุ่ม"
"เราจัดทริปอำลาสักทริปไหมคะ"
"ก็ดีนะ พวกมึงหาที่มาเลย กูเตรียมทุกอย่างพร้อมละ คงไปกับพวกมึงได้สบาย ๆ"
"กูกลับก่อนนะ หวัดดีพี่" เมื่อแตงโมมองมาทางคีตาที่กำลังยืนอึ้งอยู่ คีตาจึงรีบหลบสายตาแล้วเดินออกจากห้องซ้อมดนตรีไปทันที ทอฝันจึงรีบยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนก่อนจะวิ่งตามคนรักของเธอไป



"พี่คีตาคะ"
"อืม" สีหน้าและแววตาที่ปรากฏบนใบหน้าของคีตาบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอกำลังมีความทุกข์ในใจ ถึงแม้จะไม่มีน้ำตา แต่ทอฝันก็รับรู้ความรู้สึกคนรักของเธอได้ มือน้อย ๆ จึงเอื้อมไปกุมมือของเธอเอาไว้แน่น
"เรา...ไปขับรถเล่นกันไหมคะ"
"อืม...ก็ดีเหมือนกัน"
"เดี๋ยวหนูขับเอง พี่ซ้อนท้ายหนูก็พอ"
"ขับเป็นเหรอ"
"เป็นสิคะ ตัวเล็ก ๆ แบบนี้ก็ขาถึงอยู่นะ คิคิ" รอยยิ้มของคีตาค่อย ๆ เผยออกมาเล็กน้อย ทอฝันจึงฉีกยิ้มกว้างให้ ก่อนจะคว้าหมวกกันน็อกครึ่งใบสีดำขึ้นมาสวม แล้วไปคว้าหมวกกันน็อกสีดำแดงเต็มใบไปสวมให้กับคนรักของเธอ แต่คีตาพยายามยืดตัวขึ้นอีกพร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย ทำให้เท้าทั้งสองข้างของทอฝันเขย่งขึ้นเพื่อที่จะสวมหมวกอย่างทุลักทุเล
"พี่คีตาก้มหัวลงหน่อยสิคะ"
"อยากให้พี่ก้มหัวให้หนูเหรอ พี่ไม่ก้มหัวให้ใครง่าย ๆ หรอกนะ"
"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ!! หนูจะใส่หมวกให้พี่ไง" คีตากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะจับหมวกขึ้นมาสวมด้วยตัวเองแล้วก้าวขาขึ้นรถไปก่อน
"ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ขับเอง"
เมื่อหญิงสาวตัวเล็กก้าวซ้อนท้ายตามขึ้นไป มือน้อย ๆ ก็เอื้อมไปกอดเอวอย่างรู้หน้าที่ คีตาจึงอมยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะขับรถออกไปช้า ๆ เพื่อกินลมชมวิวแบบไม่รีบร้อน


รถมอเตอร์ไซค์สีดำแดงมาจอดที่ริมบึงแห่งหนึ่ง ทอฝันนั่งบนเบาะรถมอเตอร์ไซค์พลางมองดูวิวทิวทัศน์รอบ ๆ พร้อมกับเอามือคล้องคอคีตาที่ยืนหันหลังพิงรถอยู่ด้านหน้าเธอ
สายลมที่พัดโชยมาเบา ๆ พัดผมสีดำสลวยพริ้วไหวไปตามแรงลม คีตาจึงเอื้อมมือมากุมมือเล็กที่คล้องคอเธอเอาไว้อยู่ขึ้นมาจูบอย่างแผ่วเบา พลางหลับตาคิดอะไรในใจ
"พี่คีตาดีขึ้นไหมคะ"
"อืม...ดีขึ้นแล้วค่ะ"
"ถ้าพี่รู้สึกแย่ ซบไหล่หนูได้นะคะพี่คีตา หนูจะคอยอยู่เคียงข้างพี่เอง"
มือน้อย ๆ ลูบศีรษะปลอบโยนคนรักของเธออย่างแผ่วเบา คีตาจึงหันมาสวมกอดร่างเล็กเอาไว้แน่น พร้อมกับซบลงที่บ่าเพื่อที่จะพยายามสงบสติอารมณ์ จนเวลาผ่านไปไม่นานนัก คีตาก็สงบลงได้ในที่สุด
"มีอะไรไม่สบายใจระบายกับหนูได้นะคะ"
"อืม...พี่กับคริสเคยเล่นกีตาร์ด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม วันหนึ่ง...พี่แตงโมบังเอิญมาเห็นพวกพี่เล่นกีตาร์เปิดหมวกอยู่ตลาดนัด เลยเป็นตัวตั้งตัวตีว่าจะทำวงด้วยกัน แต่ตอนนั้นพวกพี่เรียน ม.6 อยู่เลย ถ้าจะให้เล่นดนตรีจริงจังก็คงยาก พี่แตงโมเลยบอกว่า จะรอจนกว่าพวกพี่จะเรียนจบ ซึ่งพี่แตงโมก็รอจริง ๆ"
ทอฝันตั้งใจฟังที่คีตาเล่า พลางใช้มือขวาลูบผมสีดำสลวยอย่างแผ่วเบาส่วนมือซ้ายกอดร่างคนที่ยืนซบเธออยู่อย่างนั้นไม่ปล่อย
"แสดงว่าที่พี่คีตากับพี่คริสสอบเข้ามหา'ลัยนี้ก็เพราะพี่แตงโมเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ พี่แตงโมคือคนที่พวกพี่รักและเคารพมาก ๆ เราเลยมาสอบเข้าที่นี้เพื่อที่จะได้ทำตามความฝันของเรา"
"พี่คีตาคะ...หนูเข้าใจนะคะว่าพี่รักพี่แตงโมมาก แต่การที่พี่แตงโมไปเรียนต่อต่างประเทศ มันก็เป็นความฝันของพี่เขานะคะ เราต้องยินดีกับเส้นทางที่พี่แตงโมเลือกนะคะ"
"ความจริง...พี่แตงโมไม่ได้ไปเรียนต่อหรอก มีแค่พี่คนเดียวที่รู้"
"คะ?"
"รู้ไหม ทำไมพี่แตงโมถึงอินกับเพลงฉันเข้าใจดี มากขนาดนั้น"
"อย่าบอกนะคะ...ว่าพี่คีตาแต่งเพลงนี้ให้พี่แตงโม" 
"อืม...พี่แตงโมเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก ๆ ถึงขั้นวางแผนจะอยู่ด้วยกัน แต่ว่า...ครอบครัวของพี่แตงโมกีดกันแล้วบังคับให้เลิกกัน ต่างฝ่ายต่างเสียใจ แต่ต้องจำใจจาก จนพี่แตงโมกลายเป็นคนไม่จริงจังกับใครอีกเลย แล้วที่พี่แตงโมจะไปอยู่อเมริกาก็เพราะว่า พี่เขาสองคนเคยวางแผนว่าจะไปเที่ยวด้วยกันที่นั่น"
"ฮือ...ใจร้ายที่สุดเลย แล้วมันด้วยเหตุผลอะไรคะ ทำไมครอบครัวพี่แตงโมถึงต้องกีดกันด้วย"
"ครอบครัวพี่แตงโมมองว่าแฟนเก่าพี่เขาดูไม่มีอนาคต เพราะพี่เขาชอบดื่ม ชอบเที่ยว แต่ความจริงพี่เขานิสัยดี และขยันมาก ผู้ใหญ่เขามองไม่เห็นส่วนนั้น เฮ้อ…"
"สงสารพี่ ๆ จังเลยนะคะ เฮ้อ..."
"แล้วถ้าเราสองคนโดนกีดกันแบบพี่แตงโม หนูจะยอมเลิกกับพี่ไหมคะ"
"ไม่มีทางค่ะ หนูไม่ยอมเลิกแน่ หนูจะพาพี่หนี ไม่มีใครมาขวางความรักของหนูได้หรอก"
"ขอบคุณนะตัวเล็กของพี่"
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่คีตาอย่าโกรธพี่แตงโมเลยนะคะ"
"พี่ไม่โกรธหรอกค่ะ แต่พี่แค่เสียใจ ที่ทุกอย่างมันกะทันหันเกินไป"
"ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกตั้งอาทิตย์นึง ไว้ทริปอำลา เรามาทำเพื่อพี่แตงโมกันนะคะ"
"อืม...น้องฝันคะ"
"คะ"
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...อย่าปล่อยมือกันได้ไหม"
"ค่ะ...หนูจะจับมือพี่เอาไว้ให้แน่นที่สุด หนูจะไม่ปล่อยมือพี่เลย…"
เมื่อคีตาได้ยินเช่นนั้น เธอจึงอมยิ้มออกมา ก่อนจะผละตัวออกจากอ้อมกอดแล้วเอื้อมมือมาประคองใบหน้าทอฝันเอาไว้ ดวงตาทั้งสองจับจ้องประสานกันอยู่ครู่หนึ่ง จนหัวใจของทั้งคู่เริ่มที่จะเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
"พี่รักหนูนะ…"
สิ้นสุดคำพูด คีตาโน้มตัวเข้าไปจูบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน ทอฝันที่นั่งอยู่บนเบาะรถจึงใช้แขนคล้องคอเธอเอาไว้พร้อมกับหลับตาตอบรับจูบอย่างเคลิบเคลิ้ม ท่ามกลางสายลมที่พัดโชยมาแบบเอื่อย ๆ และมีแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าส่องสะท้อนบนผืนน้ำเป็นพยานรัก ความทุกข์ใจที่มีในก่อนหน้ามลายหายไปในชั่วพริบตา เพราะแฟนสาวตัวเล็กโดยแท้



"เฮ้อ...ไม่คิดเลยว่าการซ้อมดนตรีมันจะดูดพลังงานไปเยอะขนาดนี้"
เมื่อกลับมาถึงห้อง ทอฝันกระโดดทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ด้วยสภาพที่อิดโรยจากการซ้อมดนตรีมาตลอดทั้งวัน คีตาจึงอมยิ้มออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปแล้วโน้มตัวลงคร่อมแฟนสาวเอาไว้ จนทอฝันถึงกับหัวใจเต้นแรงเพราะเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว เธอจึงใช้มือดันหน้าอกเจ้าตัวเอาไว้เมื่อเห็นว่าคีตาจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ
"พี่คีตา! จะทำอะไรคะ!?"
"อยากกินเยลลี่"
"หือ? เยลลี่อะไรคะ ทำไมไม่แวะซื้อเข้ามาด้วยล่ะคะ"
"เปล่า...ปากหนูต่างหาก เยลลี่นุ่มนิ่ม"
"จะจูบอีกเหรอคะ!?"
"ไม่ได้เหรอคะ"
"เมื่อกี้ก็จูบจนปากหนูช้ำหมดแล้วมั้ง"
"ก็ตอนกลางวันหนูบอกพี่เองนี่ ว่าจะจูบกี่ครั้งก็ได้ พี่จะจูบ...จนกว่าหนูจะได้เป็นของพี่ทั้งตัวและหัวใจ…พี่จะจูบ...จนหนูหลงพี่จนโงหัวไม่ขึ้น...พี่จะจูบจนหนูกินไม่ได้นอนไม่หลับ…"
"ไอ้พี่คีย์!! ไอ้คนหื่น!! อื๊อ!!!"
เมื่อถูกแฟนสาวตัวเล็กดุเสียงแข็ง คีตาก็จับมือทั้งสองข้างกดลงกับที่นอนแล้วจู่โจมดูดกลืนริมฝีปากอย่างดูดดื่มจนร่างเล็กถึงกับอ่อนระทวยลงทันทีจนไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน
'กรี๊ด!!! พี่คีตาจูบได้กร้าวใจมาก!!! หัวใจฉันจะวายตายอยู่แล้ว!! ฮือ ๆ'
"พี่คีย์!! แฮ่ก ๆ ใจเย็น ๆ ค่ะ หนูหายใจไม่ทัน!!!"
"เมื่อคืนหนูหลับหนีพี่ คืนนี้พี่จะคิดบัญชีคูณสองไปเลย หึหึ"
"ม่าย!! แง!!! อย่ารุนแรงกับหนูเลยนะคะ หนูตัวเล็ก ๆ บอบบาง พี่จะทำหนูได้ลงคอเหรอคะ ฮือ ๆ"
"ไม่ได้จะรุนแรงกับหนูสักหน่อย พี่จะทำให้หนูมีความสุขต่างหาก ไปอาบน้ำให้ตัวหอม ๆ นะ จะอาบน้ำเอง หรือจะให้พี่อาบให้"
"อาบเองค่ะ!!"
"พี่ให้เวลา 20 นาที ถ้าหนูยังอาบไม่เสร็จ พี่จะพังประตูเข้าไปปล้ำหนูในห้องน้ำ"
"ไอ้พี่คีย์!! ไอ้คนหื่น!!"
"เริ่มจับเวลา!!"
"อ๊าย!!!"
เมื่อคีตาปลดปล่อยข้อมือเล็กทั้งสองข้างให้เป็นอิสระ ทอฝันก็กระโดดพรวดแล้ววิ่งแจ้นเข้าไปในห้องน้ำทันทีโดยไม่คว้าแม้แต่ผ้าเช็ดตัวเข้าไปด้วย คีตาจึงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวของเธอแล้วเดินไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี



แก๊ก!!
"ว๊าย!!!"
เมื่อทอฝันเปิดกลอนห้องน้ำแล้วค่อย ๆ แง้มประตูออกทีละนิด คีตาก็ดันประตูเข้าไปคว้าข้อมือเธอแล้วลากออกมาทันที ก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมเรือนร่างขาวเนียนราวกับตุ๊กตาเอาไว้ จากนั้นเธอก็โน้มลงมาหอมศีรษะแฟนสาวฟอดใหญ่
"อา...หัวหอมจัง ใช้อะไรสระผมเนี่ย"
"ใช้แฟนสระผมให้ค่ะ"
"ฮ่า ๆ ตอบน่ารักแบบนี้...ปะ!! เริ่มกันเลย!"
"เริ่มอะไรคะ!?"
"หนูอยากเป็นเมียพี่คีตาไม่ใช่เหรอคะ พี่พร้อมแล้ว"
เมื่อพูดจบ คีตาก็ช้อนร่างเล็กขึ้นแล้วพาไปที่เตียงทันที เธอค่อย ๆ วางร่างแฟนสาวลงอย่างทะนุถนอม ก่อนจะจับมือเล็กทั้งสองกดลงกับที่นอนพร้อมกับแทรกนิ้วเรียวจับประสานกันเอาไว้แน่น
ทั้งเนื้อทั้งตัวของทั้งสองมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้เท่านั้น ทอฝันที่มีท่าทีเขินอายจนทำตัวแทบไม่ถูกได้แต่เบือนหน้าหลบสายตาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้แต่ใบหูก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ทำเอาคนที่จ้องมองอมยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ที่แกล้งแฟนสาวจนไม่กล้าสู้หน้าเธอได้
"คืนนี้พี่ไม่ปิดไฟแล้วนะ พี่อยากเห็นหนูมีความสุขแบบชัด ๆ"
"พี่คีย์...คนบ้า..."
"อยากเป็นเมียพี่ใช่ไหมคนดี พี่จะสนองให้นะคะ" พูดจบ คีตาก้มลงจู่โจมรีมฝีปากอิ่มจนทอฝันถึงกับหลับตาปี๋ ปากกระจับอมชมพูบดจูบอย่างโหยหา ร่างกายที่ร้อนผ่าวจนอยากที่จะปลดปล่อยอารมณ์ที่คุกรุ่นให้ประทุออกมา
ลมหายใจหอบถี่ที่รดใบหน้าของทอฝัน ลากยาวเปลี่ยนเป้าหมายมาถึงต้นคอระหงจนขนทั่วทั้งตัวลุกซู่ราวกับนัดกันเอาไว้ จากนั้นลิ้นอุ่นก็ตวัดเลียช้า ๆ ลากมาถึงใบหูแดง ๆ จนได้ยินเสียงครางหวานใสเล็ดลอดออกมาเบา ๆ
"อ๊ะ...อือ…"
"พี่รักหนูนะ"
"หนูก็รักพี่ค่ะ…"
"อยากเป็นของพี่ไหมคะ"
"ค่ะ...หนูอยากเป็นของพี่คีตา…"
ทอฝันตอบรับอย่างเคลิบเคลิ้มราวกับถูกสะกด รอยยิ้มมุมปากจึงเผยออกมาด้วยความพึงพอใจก่อนจะลุกขึ้นแล้วคว้าท้ายทอยดึงร่างเล็กให้มานั่งคร่อมตักของเธอเอาไว้ จากนั้นมือเรียวก็ดึงผ้าเช็ดตัวที่ห่อหุ้มร่างทั้งสองออกแล้วก้มลงครอบครองยอดปทุมถันสีอ่อนอย่างแรง จนร่างเล็กถึงกับกระตุก
"ซี๊ด! อ๊า...พี่คีตา อ่อนโยนกับหนูหน่อยสิคะ อา..."
จากการดูดเม้มยอดอกแปรเปลี่ยนเป็นลิ้นอุ่นที่โลมเลียช้า ๆ สลับกับดูดกระตุ้นอารมณ์เบา ๆ จนอีกคนแอ่นหน้าอกอย่างอัตโนมัติ มือเล็กทั้งสองก็กอดรัดศีรษะคนที่เล่นงานหน้าอกของเธอเอาไว้พร้อมกับลูบไล้ไปทั่วจนผมยุ่งเหยิง
เมื่อเห็นทีท่าว่าแฟนสาวตัวเล็กเคลิบเคลิ้มแบบได้ที มือเรียวทั้งสองข้างจึงลูบหน้าขาขาวเนียนช้า ๆ ก่อนจะสัมผัสความสาวที่มีน้ำหวานออกมามากพอที่จะเริ่มกิจกรรมรักได้ เธอจึงใช้นิ้วกลางลูบไล้แหวกกลีบดอกไม้อย่างแผ่วเบาจนร่างเล็กถึงกับสั่นระริก
"อ๊ะ! ซี๊ด...อืม…"
เพราะลิ้นอุ่นที่ยังคงตวัดเลียยอดปทุมถันปลุกเร้าอารมณ์อยู่อย่างนั้น บวกกับนิ้วเรียวที่ยังลูบไล้หยอกเย้าขึ้นลงราวกับจงใจกลั่นแกล้ง มือเล็กก็ยิ่งขยุ้มผมแน่นขึ้น ก่อนจะออกแรงดึงให้ใบหน้าแหงนขึ้น และเธอเป็นฝ่ายที่ดึงคีตาเข้าไปจูบบ้างเพราะเธอจวนจะอดรนทนไม่ไหวอยู่แล้ว
"พะ...พี่คีตา…"
เพราะไม่อาจต้านทานความเสียวซ่านจากการถูกหยอกเย้าอารมณ์ได้ จึงปลดปล่อยเสียงครางกระเส่าออกมาในที่สุด ซึ่งเสียงหวานของเธอนั้น ทวีความต้องการของคีตาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ จนเธอเองถึงกับหายใจติดขัด หากไม่เริ่มบทเพลงรักในตอนนี้ล่ะก็ อกเธอต้องระเบิดเป็นแน่
"น้องฝันคะ พี่ขอทำนะคะ แฮ่ก ๆ"
"ค่ะ...หนูพร้อมแล้ว..."
ร่างเล็กที่เปลือยเปล่าถูกประคองให้นอนลงบนที่นอนช้า ๆ พร้อมกับสัมผัสแปลกใหม่บริเวณความสาวที่มีนิ้วเรียวสอดใส่ควานหาน้ำหวานภายในช้า ๆ ทั้งใบหน้าและร่างกายที่ร้อนผ่าวบิดไปมาด้วยความเสียวซ่านจนสั่งการให้มือเล็กจิกผ้าปูที่นอนสีขาวจนยับยู่ยี่
ความรู้สึกดีเกินคำบรรยาย มีเสียงครางกระเส่าพูดแทนความรู้สึกทั้งหมดแล้ว ร่างสูงที่คร่อมร่างเล็กเอาไว้ก็ยิ่งได้ใจ เพิ่มนิ้วเรียวเข้าไปควานหาน้ำหวานเพิ่มอีก จนได้ยินเสียงกรีดร้องผ่านลำคอสลับควบคู่กับเสียงคราง เธอควบคุมจังหวะรักได้ดีจนใบหน้าแฟนสาวสะบัดซ้ายทีขวาที พร้อมกับร่างที่แอ่นเกร็งจนแทบจะจมลงที่นอนอยู่แล้ว
"อือ...อื๊อ...อ๊า...อ๊า…"
"เซ็กซี่จังเลย"
"อื๊อ!! พี่คีตา หนูเสียว...ฮือ ๆ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!!!"
ยิ่งเห็นร่างเล็กดิ้นไปมาราวกับถูกทรมาน อีกคนก็ยิ่งพอใจ ข้อมือที่ทำหน้าที่ช้าบ้าง เร็วบ้าง สร้างความสุขได้ดีจนสะโพกโยกสวนนิ้วเรียว พร้อมกับเสียงครางและเสียงหอบดังลั่นแบบไม่เกรงกลัวว่าใครจะได้ยิน
"อื๊อ!! พี่คีย์!!!"
"ว่าไงคะ"
"อื๊อ...อ๊า...อ๊ะ!!"
"เรียกพี่ทำไมคะคนดี"
"มะ...ไม่ไหวแล้วค่ะ! อ๊า!!!"
เมื่อร่างเล็กกระตุกเกร็งจากการปลดปล่อยอารมณ์ให้สุขสม ขาทั้งสองข้างก็ถูกจับแยกออกจากกัน ก่อนร่างอีกคนจะแทรกตัวเข้ามาบดเบียดความสาวเข้าด้วยกัน แล้วโยกสะโพกทันทีจนเสียงครางดังออกมาอีกครั้ง
กึก! กึก! กึก!
เอี๊ยด! เอี๊ยด!
"อ๊ะ อ๊ะ อื๊อ!! /อ๊า...อืม..."
เสียงเตียงนอนที่ดังกระทบกับผนังห้องนอนและเสียงผสานระหว่างเตียงไม้ที่เสียดสีจากแรงสั่นไหวของจังหวะรักจนดังเอี๊ยดอ๊าด ควบคู่เสียงครางกระเส่าของทั้งสองร่างที่ไม่ยอมให้หยุดพัก สะโพกก็โยกเบียดเสียดช้า ๆ แล้วเริ่มเร่งจังหวะจัดเต็มปิดท้ายจนร่างกระตุกเกร็งในที่สุด
"แฮ่ก ๆ"
"พี่รักหนูนะ"
"แฮ่ก ๆ"
ไม่มีเสียงบอกรักตอบกลับมา แต่มีเพียงเสียงหอบแฮ่กจากร่างเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นคีตาก็มีความสุขมากเสียจนต้องก้มลงจูบที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบาราวกับต้องการทะนุถนอมคนรักเอาไว้ ทว่า...คีตาก็ต้องชะงักเมื่อจู่ ๆ ร่างของทอฝันเริ่มสั่นเทา พร้อมกับเสียงสะอื้น หัวใจของเธอที่สุขล้นเมื่อสักครู่ถึงกับหล่นฮวบราวกับตกเหวลึก
"นะ...น้องฝัน! หนูเป็นอะไรคะ เจ็บเหรอ พี่ทำรุนแรงไปเหรอคะ"
ร่างเล็กส่ายศีรษะช้า ๆ พร้อมกับมือที่ปิดปากเอาไว้ คีตาจึงรีบนอนกอดร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ทันที ก่อนจะประคองร่างคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด มือก็ลูบผมปลอบโยนอยู่อย่างนั้นด้วยความร้อนใจ
"พี่ขอโทษ หนูเจ็บเหรอคะ"
"เปล่าค่ะ ฮึก ๆ"
"แล้วหนูเป็นอะไรคะ บอกพี่ได้ไหม"
"หนูดีใจที่หนูได้เป็นของพี่ ฮึก ๆ"
"โธ่...คนดี...พี่ตกใจหมด นึกว่าเป็นอะไร"
"พี่คีตาคะ พี่อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกได้ไหมคะ"
"น้องฝันคะ พี่มีแฟนแล้วนะ จะให้พี่ไปทำแบบนี้กับใครล่ะคะ พี่รักหนูมากแค่ไหนหนูก็รู้"
"หนูไม่รู้ หนูรู้แค่ว่าหนูรักพี่คีตามาก หนูกลัวว่าพี่คีตาจะแค่สนองให้เหมือนที่ผ่านมาที่พี่เคยทำกับคนอื่น"
เมื่อคีตาได้ยินเช่นนั้น เธอจึงลุกขึ้นมาคร่อมร่างเล็กเอาไว้อีกครั้ง ก่อนจะก้มลงจูบอย่างแผ่วเบาแล้วเอื้อมมือสัมผัสแก้มเนียนเอาไว้
"หนูมองตาพี่ แล้วฟังให้ชัด ๆ พี่รักหนูมาก รักมากที่สุดจนพี่รักใครไม่ได้อีกเลย พี่รอหนูมาเป็นปี พี่ไม่ได้ไปมีอะไรกับใครเลยตั้งแต่เจอหนู พี่ไม่ได้ทำกับหนูแบบที่ทำกับคนที่เคยผ่านมา เพราะเรื่องระหว่างเรา มันเกิดจากความรักนะคะ"
"จริงเหรอคะ"
"จริงสิคะ เชื่อใจพี่นะ"
"หนูเป็นของพี่แล้วนะพี่คีตา พี่อย่ากลับไปทำแบบนั้นอีกนะคะ"
"อืม...ไม่มีวันนั้นแน่นอน พี่สัญญา พี่มีแค่หนู ทำแบบนี้แค่กับหนูคนเดียวเท่านั้น"
"หนูรักพี่คีตานะคะ"
"พี่ก็รักหนูนะ หมากระเป๋าของพี่ ต่ออีกรอบไหม เดี๋ยวพี่จะพิสูจน์ให้ดูอีกครั้ง ว่าพี่รักหนูมากแค่ไหน"
"เชื่อแล้วค่ะ นอนกันเถอะ หนูเหนื่อยแล้ว"
"แต่พี่ยังไม่เหนื่อย" พูดจบ คีตาก็ก้มลงจูบอย่างดูดดื่มทันที ถึงแม้ว่าทอฝันจะปฏิเสธ แต่ร่างกายของเธอก็เรียกร้องจึงตอบรับจูบอย่างดูดดื่มเช่นกัน ก่อนจะเริ่มจังหวะรัก จนเสียงเพลงรักเริ่มบรรเลงเป็นจังหวะอีกครั้ง
กึก! กึก! กึก!
เอี๊ยด! เอี๊ยด!
"อ๊า...อ๊า/อืม…"
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“สมใจพวกเธอแล้วใช่มั้ย 55555”