และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันต้องตามลายแทงที่พี่กระเต็นวาดแผนที่ร้านของลูกหมูให้กับฉัน สาเหตุที่ไม่พาฉันไปกินก็เพราะขี้เกียจออกจากบ้าน และบ้างานจนอุดอู้แต่ในห้องทำงานของตัวเอง ฉันไปกินก๋วยจั๊บทุกวันเพียงเพราะต้องการเจอลูกหมู แต่ไม่ว่าฉันจะไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยได้เจอหน้าเลย เจอก็เพียงน้องสาวหรือน้องลูกหมีที่มาต้อนรับฉันเท่านั้น และหนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น เพื่อนรักจากออสเตรเลียก็มาเที่ยวที่ประเทศไทย และแน่นอนค่ะ...ฉันพาเพื่อนรักไปเที่ยวที่ร้านก๋วยจั๊บ เพราะมีสิ่งที่ควรค่าแค่การถ่ายรูปกลับไปแปะผนังบ้าน นั่นก็คือลูกหมู ฮุฮุ
"Sarah, what is this? (ซาร่า นี่คืออะไร)" จอร์จเอ่ยถามฉันพลางกับชี้ไปที่เส้นก๋วยจั๊บในถ้วย ฉันจึงสาธยายให้ฟังว่ามันคืออะไร เราสองคนจะเรียกกันว่าจอร์จกับซาร่า และเราซี้กันถึงขั้นสามารถกอดและหอมแก้มกันได้เลย เพราะจอร์จก็เป็นหนึ่งในคนที่หวีดเหล่าผู้ชายกล้ามโต ๆ ผิดจากฉันที่หวีดรอยยิ้มของลูกหมูแค่เพียงคนเดียว
และไม่รู้อะไรดลใจหรือลมอะไรหอบลูกหมูเดินลงมาจากชั้นสองเพื่อมาช่วยงานที่ร้าน ทำให้จอร์จได้เจอลูกหมูตัวเป็น ๆ จากที่ฉันคอยเล่า (ขาย) ให้จอร์จฟังในเฟซบุ๊กอยู่บ่อย ๆ ซึ่งจอร์จก็เอาแต่จ้องหน้าลูกหมูแบบไม่ละสายตาเพราะต้องการล้วงลับให้ถึงแก่นว่าลูกหมูชอบฉันบ้างหรือเปล่า เพราะลูกหมูมักจะชอบชวนฉันไปดูหนังบ่อย ๆ หรือไม่ก็หาเรื่องหนังมาคุยกัน ซึ่งฉันไม่ค่อยดูหนังเลยต้องแกล้งบอกไปว่าฉันดูแต่หนังฝรั่งแล้วก็ชักแม่น้ำทั้งห้า อ้างชื่อหนังที่ไม่มีอยู่จริงมาคุยด้วย และลูกหมูก็เชื่ออย่างนั้นจริง ๆ ซะด้วย กับคนนี้...มีอะไรให้ฉันว้าวได้ตลอดเลย
"How is George? Do you feel that she likes me? (เป็นไงบ้างจอร์จ เธอว่า หล่อนชอบฉันบ้างไหม)"
"She definitely likes you, Sarah. (หล่อนต้องชอบเธอแน่ ๆ ซาร่า).
"Why? (ทำไมอะ)"
"When she sees you, she looks so happy. (ตอนที่หล่อนเห็นเธอ หล่อนดูมีความสุขมาก)"
"It's impossible. (เป็นไปไม่ได้น่า)"
"But I think she dislikes me. Oops! Chilli on your lips, I'll take it out. (แต่ฉันคิดว่าหล่อนไม่ชอบฉันนะ อุ๊บส์! พริกติดปากเธอแน่ะ เดี๋ยวฉันเอาออกให้นะ" พูดจบจอร์จก็เอื้อมมือมาเขี่ยเศษพริกป่นที่มุมปากให้กับฉันด้วยนิ้วโป้ง ก่อนจะผลักหัวฉันเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว จอร์จจะเอ็นดูฉันเป็นพิเศษเวลากิน เพราะชอบมีอะไรเลอะปากฉันตลอด
"หวัดดีลูกหมู" ฉันรีบทักทายลูกหมูทันทีที่เธอเดินมาทางนี้ แล้วจอร์จก็ใช้แขนคล้องคอฉันแล้วพูดกับลูกหมูอย่างเป็นมิตรว่า
"Hi, my name is George, I'm friends with Sarah. Nice to meet you. She really likes you. (สวัสดี ฉันชื่อจอร์จ เป็นเพื่อนกับซาร่า ยินดีที่ได้รู้จักนะ นี่...เพื่อนฉันชอบเธอมากเลยล่ะ)" ฉันหันไปฟาดจอร์จเล็กน้อยที่พูดแบบนั้นออกไป แล้วลูกหมูก็ยิ้มตอบกลับมา ก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปเลย ทำเอาฉันและจอร์จต่างหันมามองหน้ากันแบบงง ๆ
"Did I do something wrong? (ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่า)"
"No, She's shocked, you say that. (ไม่หรอก หล่อนคงตกใจน่ะที่เธอพูดแบบนั้น)"
"Sarah, you're so cute. You'll definitely find who adores you. (ซาร่า เธอน่ารักมากนะ ยังไงก็ต้องได้เจอคนที่รักเธออย่างแน่นอน)"
"Thanks. (ขอบคุณนะ)"
ฉันรู้ว่ายังไงฉันก็จะได้เจอคนที่รักฉัน แต่ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อฉันชอบลูกหมู และก็หวังว่าสักวันว่าลูกหมูจะหันมามองฉันบ้าง ฉันยังคงไปกินก๋วยจั๊บที่ร้านลูกหมูทุกวัน แต่ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เจอลูกหมูที่ร้านอีกเลย นอกเสียจากว่าลูกหมูไปทำงานที่บ้านกับพี่ ๆ ถามว่าเสียใจไหมมันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว เพราะเหมือนลูกหมูพยายามหลบหน้าฉัน นิสัยไม่ดีเลยนะคะ...มาทำให้ตกหลุมรักแล้วก็หายไปดื้อ ๆ แบบนี้
หลังจากที่จอร์จกลับจากออสเตรเลียไปได้ 3 เดือน ฉันพยายามบอกตัวเองมาตลอดว่าลูกหมูแค่เป็นคนมีมารยาท และเป็นคนใจดีที่ชอบเลี้ยงหนังฉันอยู่บ่อย ๆ ไหนจะคอยเอาก๋วยจั๊บมาฝากฉันเพราะรู้ว่าฉันชอบกิน เธอใส่ใจฉันทุกอย่าง เอาใจฉันยิ่งกว่าแฟนซะอีก แต่ก็นั่นแหละ เพราะฉันเป็นฝาแฝดของพี่กระแตกับพี่กระเต็นหรือเปล่า ถึงต้องเอาใจฉันขนาดนี้ มาทำดีกับฉันแบบนี้ฉันจะตัดใจยังไงไหวล่ะ...ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ ฉันก็ชอบลูกหมูในที่ของฉันต่อไปแล้วกัน ขอแค่ลูกหมูยังไม่มีใครก็พอ...
"กรี๊ด!!!!!!" ฉันถึงกับกรี๊ดลั่นบ้านเมื่อรู้ว่าลูกหมูเองก็ชอบฉันเหมือนกัน แถมยังมาชวนฉันไปเที่ยวทะเลแบบสองต่อสองอีกด้วย นี่มันปาฏิหาริย์ หรือพลังแห่งก๋วยจั๊บญวนแผลงฤทธิ์เมื่อกินครบ 365 วันแล้วจะสมหวังกับลูกสาวเจ้าของร้าน แบบนี้ต้องบันทึกลงประวัติศาสตร์โลกแล้วล่ะ และมันเป็นเหตุที่ฉันต้องโกหกอายและพี่ ๆ เป็นครั้งแรกว่าวันหยุดจะอยู่เฝ้าบ้านให้ แล้วให้พี่ ๆ แยกย้ายไปเที่ยวและไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ความจริงแล้วฉันมีแผนหนีเที่ยวกับลูกหมูต่างหาก ดูนิสัยไม่ดีเลยเนอะ แต่ถ้าฉันไม่ไป ฉันก็จะไม่มีโอกาสที่จะได้เที่ยวกับลูกหมูน่ะสิ
และแล้ว...พลังแห่งแฝดก็ดึงดูดเรามาหากัน ไม่คิดว่าเราทั้ง 4 คนจะใจตรงกันขนาดนี้ที่มาเจอกันอยู่ ภูเก็ตบีชบ็อกซ์กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาราวกับเป็นวันมาฆบูชาที่มีพระภิกษุ 1,250 รูปมารวมตัวกันแบบไม่ได้นัดหมาย แต่นี่มันคือ "แฝดมาคะชาบู" ที่แฝดทั้ง 4 มารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายตามที่เปิ้ลได้ตั้งชื่อวันแล้วลูกหมูก็ดูชอบใจซะด้วยกับชื่อนี้ ไม่ได้รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป
จะว่างอนก็ได้ที่ลูกหมูไปปรึกษาเปิ้ลเรื่องที่จะจีบฉัน เอาจริง ๆ แค่เป็นลูกหมูก็จีบฉันติดแล้ว ไม่เห็นต้องไปขอวิธีจีบจากเปิ้ลเลย เพราะคำแนะนำนั้นมันคือการแนะนำให้ลูกหมูปิดเกมกับฉันน่ะสิ แต่โชคดีนะที่ลูกหมูเป็นคนซื่อ ๆ เลยไม่รู้ว่าเปิ้ลหมายความว่ายังไง หรือรู้แต่แกล้งไม่รู้กันนะ...ฉันจะเชื่อใจลูกหมูได้ไหมนะ
"เธอ...คือเค้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมต้องด่าเค้าว่านิสัยไม่ดีอะ" ลูกหมูหันมาถามฉันที่นั่งอยู่บนเตียง หน้าตาของเธอเหมือนเด็กขี้สงสัยกำลังถามแม่ว่าตนทำอะไรผิดไป ไร้เดียงสาอะไรขนาดนี้คะว่าที่แฟนในอนาคตของฉัน
"ลูกหมูคะ เค้าถามจริง ๆ นะ เธอชวนเค้ามาเที่ยวทะเลแบบสองต่อสองเนี่ย เธอหวังอะไรหรือเปล่า"
"หวังสิ"
"หวังอะไรคะ"
"ก็จะขอกระต่ายเป็นแฟนไงคะ"
"เป็นแฟนแล้วยังไงต่อคะ"
"พาไปกินกุ้งไงคะ เพราะเปิ้ลบอกว่าต้องใช้มือกับลิ้นให้เป็นประโยชน์ เดี๋ยวเค้าจะแกะกุ้งให้กินนะ" เฮ้อ...ไม่เข้าใจมันก็ดีอยู่หรอก แต่คนอื่นเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้ว ลูกหมูบ้าที่สุดเลย!! ฮือ...
"ถ้าอยากชวนเค้าไปกินกุ้ง เธอไม่ต้องพาเค้ามาไกลถึงภูเก็ตก็ได้ไหมคะลูกหมู"
"ก็บรรยากาศมันดีนี่นา เค้าอยากขอเธอเป็นแฟนที่นี่ เค้าอยากให้เธอมีความสุขที่สุดที่ได้คบกับเค้า"
"แค่มันเป็นลูกหมู เค้าก็มีความสุขแล้วค่ะ เพราะเค้ารอลูกหมูมานานเป็นปี วันนี้เหมือนกับฝันเลยค่ะ"
"เค้าก็เหมือนกัน เค้าไม่คิดเลยว่ามันจะมีวันนี้ แต่อุตส่าห์จะมาเที่ยวกันแค่สองคนอ่าเนอะ ดันมารวมตัวกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาซะได้ อัศจรรย์ใจจริง ๆ"
"ฮ่า ๆ ทำยังไงได้ล่ะคะ ในเมื่อมากันครบแก๊งพร้อมหน้าพร้อมตากันขนาดนี้ เราก็ไปเล่นน้ำทะเลกับคนอื่น ๆ กันเถอะ"
"ขอเค้าอยู่กับกระต่ายก่อนได้ไหม" พูดจบลูกหมูจึงเดินมาทิ้งตัวลงบนเตียง ก่อนจะเอาหัวมาหนุนที่ตักของฉัน ฉันจึงลูบหัวเธอช้า ๆ พลางกับอมยิ้ม
"เค้าชอบปากเธอมากเลย มันน่าจุ๊บมาก ๆ"
"เธอเคยคิดว่าจะจุ๊บเค้าจริง ๆ อย่างที่พูดไหมคะ"
"เคยนะ แต่แบบ...ใครจะกล้าอะ มันต้องเป็นแฟนกันก่อนถูกไหม แต่ว่านะ กระเต็นกับพี่เวนิสก็เคยจูบกันมาแล้ว ถึงจะเป็นบทก็เถอะ แต่มันทำให้เค้าอินมากเลยนะ เค้าคิดถึงปากเธอตลอดเลย"
"นี่แอบคิดอกุศลกับเค้าตลอดเลยเหรอคะลูกหมู"
"ใช่"
"เอ่อ..."
"เค้าอยากจุ๊บปากเธอ...ได้ไหม หรือต้องคบกันก่อน หรือเค้าต้องไปแปรงฟันก่อนไหม"
"บ้า!! ลูกหมู ใครเขาขอกันคะ"
"อ้าว...งั้นก็หมายความว่าเค้าจะจุ๊บเธอตอนไหนก็ได้แบบไม่ต้องขอใช่ไหม" เฮ้อ...ลูกหมูคะ...คือแบบ เธอโตมายังไงกัน
"ไปเดินเล่นกันไหม"
"ไม่ให้เค้าจุ๊บก่อนเหรอ"
"โอ๊ยลูกหมู!! คือจะจุ๊บให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย"
"ใช่"
"พาไปเดินเล่นก่อนค่ะ แล้วก็ขอคบแบบจริงจังนะคะ เค้าถึงจะให้จุ๊บ"
"ว้าว...ปะ งั้นไปตอนนี้เลย" พูดจบลูกหมูก็รีบจูงมือฉันออกจากห้องทันที ดูไม่กระตือรือร้นเล๊ย...ไม่รู้ว่าอยากคบกับฉันหรืออยากจุ๊บฉันกันแน่ แต่ก็นะ...จะแบบไหนฉันก็ดีใจทั้งนั้น
ฉันและลูกหมูจูงมือกันวิ่งหนีกลุ่มคนที่วุ่นวายอยู่บริเวณโถงของโรงแรม (กลุ่มคนพวกนั้นก็คือเหล่าพี่ ๆ และเพื่อน ๆ ฉันนั่นแหละ) เราจูงมือกันเดินสำรวจรอบ ๆ ที่พักเพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ทำให้น้ำขึ้นมาเกือบจะถึงโรงแรมเลย เราจึงเดินได้แค่บริเวณที่ทางโรงแรมจัดเอาไว้ให้เท่านั้น แต่แสงไฟยามค่ำคืน กลิ่นทะเล และสายลมที่พัดมานั้น มาทำให้ค่ำคืนนี้ดูพิเศษกว่าคืนไหน ๆ เพราะที่นี่ตอนนี้ ฉันอยู่กับคนพิเศษ คนที่ฉันแอบรักมาตลอด 1 ปี เพียงเพราะรอยยิ้มของเธอในวันนั้น
"ที่นี่ตอนกลางคืนอากาศดีเนอะ" ลูกหมูพูดพลางกับมองไปที่ผืนน้ำที่ถอดยาวออกไปแบบสุดสายตา และแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ถ้าลูกหมูขอคบกับฉันที่นี่ก็คงจะโรแมนติกน่าดู
"กระต่ายคะ"
"คะลูกหมู"
"เราสองคนก็แอบชอบกันมานานแล้วเนอะ"
"ค่ะ"
"วันนี้...เราได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่"
"ค่ะ"
"เอ่อ...เค้าขอโทษนะ คือเค้าก็พูดไม่เก่งน่ะ แล้วแบบ...มันเขินอะ เธอจับดูหัวใจของเค้าสิ" พูดจบลูกหมูก็จับมือฉันไปวางที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ ฉันรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนตามจังหวะการเต้นของหัวใจที่มันสั่นระรัวราวกับจะทะลุออกมาเอาให้ได้ ซึ่งใจฉันเองก็ไม่ต่างกัน
"หัวใจเค้าเต้นแรงมากเลยใช่ไหม"
"ค่ะ เค้าก็เหมือนกัน"
"เรา...เป็นแฟนกันไหม เค้าสัญญาว่าจะเป็นแฟนที่ดีของเธอ"
"แค่เป็นลูกหมูอย่างที่เคยเป็นมันก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีสักครั้งเลยที่ลูกหมูทำให้เค้าเสียใจ เค้าดีใจมากเลยนะคะที่ได้เจอลูกหมู"
"เค้าก็เหมือนกัน คบกันนะคะ"
"ค่ะ" ทันทีที่ฉันตอบตกลง เราต่างก็ตัวบิดเป็นเกลียวด้วยความเขินอาย ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวไปหมด หากเป็นเวลากลางวัน เธอคงได้เห็นใบหน้าของฉันขึ้นสีเป็นสีแดงแน่ ๆ
"เอ่อ...เราเป็นแฟนกันแล้วเนอะ แล้ว...เค้าจุ๊บเธอได้หรือยังคะ"
"อย่าถามสิคะลูกหมู มันเขินนะ คือถ้าเธออยากจุ๊บก็จุ๊บเลยไม่ต..." ฉันยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ ลูกหมูก็โน้มตัวลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากของฉัน เราทั้งสองต่างหลับตาพริ้มรับสัมผัสนุ่ม ๆ จากริมฝีปากที่กำลังประกบเข้าด้วยกัน หัวใจของฉันแทบทะลุออกจากอกเอาให้ได้ มันเต้นแรงราวกับแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น ลูกหมูค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกช้า ๆ และมันเป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันมองขึ้นไปบนชั้นสองของโรงแรมทำให้เห็นเหล่าเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ต่างถือกล้องและโทรศัพท์หันมาทางเราสองคน รู้ได้ทันทีว่ากำลังถ่ายรูปและถ่ายวิดีโออยู่แน่ ๆ และเสียงโหร้องแซวก็ดังขึ้นพร้อมกับที่ต่างคนต่างปรบมือดีใจกันยกใหญ่ราวกับลูกหมูขอฉันแต่งงาน
"ฮิ้ว!!!! น้องกูสละโสดแล้วโว้ย!!!" พี่กระติก...นิสัย...
"กรี๊ด!! อิลูกอู๊ดจู๊ดมู๊ดเบบี๋ทำสำเร็จแล้วโว้ย!!!" เปิ้ล...เรารู้นะว่าเธอคิดอะไร
"ลูกหมู!! อุ้มกระต่ายเข้าห้องเลย!!!" อาย!!! นี่เราเป็นเพื่อนกันนะ!!!
โอ๊ย...อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ลูกหมูเองก็หน้าแดงเป็นลูกเชอร์รี่แต่กลับดูชอบใจที่ถูกแซวซะงั้น ฮือ...บ้าที่สุดเลย ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย แงงงงงง