คุ้มขวัญของหนู

คุ้มขวัญของหนู
#Special อ้อมกอดที่อบอุ่น

แนะนำตัวละคร
อันที่จริง จะบอกว่าไม่แปลกเลย ที่ฉันต้องออกไปไหนมาไหนกับคนที่ไม่รู้จักอยู่บ่อย ๆ เพราะการที่ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมในเครือ "หฤทัยเกียรติสกุล" ที่ตระกูลฉันกับพี่วิชได้ดูแลร่วมกัน กว่า 10 โรงแรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเรียกได้ว่าฉันต้องเป็นเจ้าบ้านที่ต้องพาแขกคนสำคัญระดับวีไอพีไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ อยู่ตลอด
และนี่คือสาเหตุหนึ่ง ที่ฉันต้องปกป้องผู้ชายเฮงซวยแบบนั้นหลายครั้ง เพราะถ้ามีข่าวเกี่ยวกับนายพีระวิชเมื่อไหร่ มันต้องส่งผลต่อชื่อเสียงโรงแรมในเครือฉันแน่ ๆ แต่เขาก็หาได้แคร์อะไร คอยสร้างเรื่องให้ฉันตามแก้ปัญหาอยู่ตลอด แม้แต่เรื่องที่ฉันต้องใช้เงินก้อนใหญ่ปิดข่าวเรื่องที่เขาไปมั่วผู้หญิง เหอะ!! ตลกสิ้นดี
ครอบครัวของเราได้ผูกสัมพันธ์อันดีมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น ถ้าถามว่าฉันรักเขาไหม ตอบได้เลยว่ารักมาก และเป็นคนที่ฉันอยากจะฝากชีวิตด้วยที่สุด เพราะตอนที่คบกันใหม่ ๆ เขาดูเป็นผู้ชายที่แสนดี และอบอุ่นมาก จนฉันคิดว่า ฉันอยากจะสร้างอนาคตไปพร้อม ๆ กับเขา แต่กาลเวลาก็นำพาให้สันดานคนเปิดเผยมากขึ้น
ทุกครั้งที่ฉันจับได้แบบคาหนังคาเขา เขาให้เหตุผลว่า ที่ต้องไปเสพสุขกับผู้หญิงคนอื่น ต้นเหตุมันเป็นเพราะฉัน ที่ไม่ยอมมอบกายให้เขาในเวลาที่เขาต้องการ แต่ฉันว่า ฉันคิดถูกแล้ว ที่ไม่ง่ายให้กับผู้ชายคนนี้ คนไม่รู้จักพอ ไม่คู่ควรกับฉันหรอกนะ!!
และวันนี้ ก็อีกเช่นเคย ที่ฉันต้องพาคนไม่รู้จักไปเที่ยวตามคำขอ แต่ต่างกันตรงที่ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ลูกค้าคนสำคัญของฉัน แต่เธอคือใครมาจากไหนฉันก็ยังไม่รู้
เหตุผลที่ฉันไม่อยากทำความรู้จักกับเธอ ก็เพราะว่า ฉันไม่อยากให้เธอรู้ว่าฉันคือใคร การที่ฉันเดินทางมาคนเดียวแบบนี้ก็เพื่อที่จะพักใจจากเรื่องบ้า ๆ ที่ฉันต้องเจอ ฉันอยากอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักฉัน ฉันอยากเป็นตัวของตัวเอง อยากทำอะไรก็ได้ โดยที่ไม่ต้องวางฟอร์ม นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของโรงแรม 5 ดาว มันเหนื่อยนะที่ต้องอยู่ภายใต้หน้ากาก

"มองอะไรขนาดนั้น จะไปไหม?"
ทันทีที่หยกหันมามองฉัน ฉันก็ไม่ได้อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะ ว่าเธอตะลึงที่เห็นฉัน แต่การที่จู่ ๆ หยก ก็ลุกขึ้นพรวดแล้วมองฉันจนอ้าปากค้างขนาดนั้น แถมโทรศัพท์กับเสื้อโค้ทที่เธอถืออยู่ในมือก็หล่นตามแรงโน้มถ่วงของโลกอีกด้วย มันก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วล่ะ น่าขำชะมัด
"ปะ...ไปสิคะ"
หยกรีบก้มลงเก็บของแบบไม่รีรอ และตอบแบบตะกุกตะกัก นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชายนะ ฉันคงคิดว่าเธอหลงเสน่ห์ฉันเข้าให้แล้วล่ะ
"นี่เสื้อ หยกเอามาเผื่อ"
"อืม...ขอบคุณ"
ฉันยิ้มและเอื้อมมือไปรับเสื้อโค้ทที่หยกยื่นมาให้ ทำให้เห็นว่าหยกนั้นหน้าขึ้นสีเป็นสีแดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี่ แถมยังรีบเบือนหน้าหนีอีก เป็นอะไรของเธอนะ ฉันไม่เคยเจอปฏิกิริยาแบบนี้ของผู้หญิงหรอกนะ เพราะส่วนใหญ่แขกวีไอพีที่ฉันต้องดูแล มีแต่ผู้ชาย หรือผู้หญิงที่มากันเป็นครอบครัว
"สรุปจะพาไปไหน?"
"เถอะน่า อย่าถามบ่อยสิ"
"แล้วถ้าเธอพาฉันไปขายจะทำยังไง"
"โธ่ นี่คุณคิดบ้าอะไรเนี่ย ใครจะ...ฮัดชิ้ว!!"
ยังไม่ทันที่เราจะได้ก้าวไปไหนเลย หยกก็จามแล้ว แสดงว่าที่หน้าแดงเป็นลูกเชอร์รี่แบบนั้น เพราะเป็นหวัดหรือเปล่านะ ก็เมื่อวานเล่นสละเสื้อโค้ทให้ฉันใส่ เพราะเธอทำน้ำมูกเลอะเสื้อของฉัน อันที่จริงก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่คนทำคงรู้สึกผิดล่ะมั้ง แล้วไหนจะคุยเป็นเพื่อนฉันจนถึงเช้า คนที่รู้สึกผิดควรจะเป็นฉันมากกว่า
"ฮะ...ฮะ...ฮัดชิ้ว!!!"
จามบ่อยไปแล้ว…
"เป็นหวัดหรือเปล่าเนี่ย"
"ซิก!! น่าจะ…"
เธอสูดน้ำมูกไปแล้ว แต่ก็ยังเอาแขนเสื้อมาเช็ดน้ำมูกไปอีกรอบ เฮ้อ...ให้ตายสิ นี่เธอเป็นอะไรกับน้ำมูกมากไหมเนี่ย ทำตัวอย่างกับเด็ก เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด ฉันเลยรีบควานหากระดาษทิชชู่ในกระเป๋าแล้วยื่นให้กับหยก
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วนี่ไหวไหมเนี่ย จะพาฉันเที่ยวทั้งที ถ้าจะเป็นแบบนี้ฉันไม่ไปนะยะ!!"
"ฮัดชิ้ว!!!"
"โอ๊ย!! กลับบ้านไป! ค่อยไปวันหลังก็ได้"
"ที่บ้านไม่มีใครอยู่อะ"
"แล้ว?"
"ขออยู่กับคุณก่อนได้ไหม"
"ไม่ย่ะ!! เรื่องอะไร"
"ฮัดชิ้ว!!"
เฮ้อ...จะว่ากลัวก็กลัว จะว่าสงสารก็สงสาร สาเหตุที่หยกต้องเป็นแบบนี้มันก็เพราะฉัน ทำยังไงดีล่ะเนี่ย ถ้าจะพาขึ้นไปบนห้องแล้วเธอไปขโมยของฉันจะทำยังไง แต่ดูจากสีหน้าและท่าทางแล้วก็น่าจะป่วยจริง
ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าผากของหยกเบา ๆ เพื่อจะวัดอุณหภูมิ แต่ดูแววตาของเธอที่มองฉันสิ อย่างกับลูกแมวน้ำอ้อนขอปลาจากเจ้าของ มันทำให้คิดถึงหลานรักของฉันเลย ขี้อ้อนเหมือนกันไม่มีผิด
"ตัวอุ่น ๆ นะ"
หน้าผากของหยกอุ่นกว่าของฉันมาก จากการที่ฉันลองจับเทียบกันดู ฉันจึงเดินไปที่เคาท์เตอร์เพราะคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ายังมีห้องว่างไหม <ภาษาอังกฤษ>"
"ขออภัยด้วยครับคุณผู้หญิง ตอนนี้ห้องพักของเราเต็มแล้วครับ <ภาษาอังกฤษ>"
"ขอบคุณค่ะ <ภาษาอังกฤษ>"
เอาแล้วสิ...ตั้งแต่มาที่นี่เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นเยอะเลย เมื่อวานห้องพักยังว่างตั้งหลายห้อง แต่วันนี้ดันเต็ม ถ้าจะพาขึ้นห้อง...ฉันไว้ใจเธอได้ไหมนะ
"หยกว่า หยกรีบกลับดีกว่า"
"ไหนบอกว่าไม่มีใครอยู่บ้านไง"
"ก็ไม่มี แต่ไม่อยากรบกวนคุณ"
"แหม...มาเร่งฉันออกจากห้องเนี่ย ไม่เรียกว่ารบกวนหรือไง"
พอโดนดุเข้า ก็หงอยเป็นหมาเลย ฉันทนเห็นอะไรแบบนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ ฉันยืนกอดอกมองหยกที่เอาแต่จามแล้วสูดน้ำมูกอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเดินนำหน้าหยกไปที่ลิฟต์
"ตามมา!"


"นอนพักอยู่นี่ก่อนแล้วกัน ดีขึ้นแล้วค่อยกลับ"
ฉันพูดพลางกับถอดเสื้อโค้ทที่หยกเตรียมมาเผื่อวางเอาไว้ที่โซฟาภายในห้อง หยกยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมามองฉันตาละห้อย
"หยกไม่อยากรบกวนคุณจริง ๆ นะ"
"เธอรบกวนฉันตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันแล้ว"
"ขอโทษค่ะ"
"ฉันเองก็มีส่วนผิด ขอโทษนะ"
"เรื่องอะไรคะ"
"ที่ทำให้เธอป่วย ไปนอนเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ แต่ห้ามขโมยของฉันเด็ดขาด!! ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่"
ฉันพูดเสียงดังฟังชัดเพื่อยื่นคำขาด ปากเก่งไปงั้น แต่ความจริงฉันก็แอบกลัวเธออยู่เหมือนกัน หยกไม่พูดอะไร แต่ใช้มือคลำ ๆ ที่ขากางเกง แล้วเธอก็ล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา เธอคงไม่คิดว่าจะจ่ายเงินค่าห้องให้ฉันหรอกนะ
แต่ฉันคิดผิด หยกหยิบบัตรประจำตัวประชาชนยื่นมาให้ฉัน ฉันจึงรับมาแบบงง ๆ ก่อนที่จะก้มลงอ่านข้อมูลในบัตร "หยกมณี โจเซฟ" ฉันอ่านแค่ชื่อของเธอเท่านั้นแล้วเงยหน้ามองหยกอีกครั้ง
"เอามาให้ฉันทำไม"
"ให้คุณเก็บไว้ จนกว่าหยกจะกลับ"
"เพื่อ?"
"อยากให้คุณไว้ใจหยก หยกไม่ใช่คนไม่ดี"
"เอ่อ…"
"นะคะ"
"โอเค ๆ นอนได้แล้ว ถอดเสื้อโค้ท วางไว้ตรงนี้แหละ"
"ขอบคุณนะคะ"
หยกยิ้มให้ฉันด้วยความดีใจ พร้อมกับถอดเสื้อโค้ทวางไว้ที่โซฟาข้าง ๆ ฉัน ก่อนจะค่อย ๆ คลานขึ้นไปบนเตียง แล้วหยิบหมอนมากอด ยิ่งดูยิ่งเหมือนหลานสาวฉันเข้าไปทุกทีนะเธอเนี่ย
ฉันก้าวเข้าไปหาหยกแล้วเอื้อมมือสัมผัสที่หน้าผากเธออีกครั้ง เหมือนตัวจะเริ่มร้อนขึ้น ยาก็ไม่ได้เตรียมมาด้วย เรื่องซื้อยาที่นี่เหรอ อย่าฝันเลย เพราะไม่ใช่ที่ประเทศไทยที่จะซื้อยากับเภสัชได้ง่าย ๆ
ฉันจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ไปชุบน้ำ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำซับที่ใบหน้าของหยกเบา ๆ
เสียงอู้อี้ดังจากลำคอของหยกดูเหมือนจะหนาว เพราะเธอนอนขดอย่างกับกุ้ง ฉันจึงดึงผ้าห่มมาห่มให้ความอบอุ่นกับเธอ หยกลืมตามองฉัน สายตาของเธอดูเว้าวอนแปลก ๆ เหมือนเธออยากจะพูดอะไร แต่ก็อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดออกมาสักที
"อะไร"
"ขอจับมือได้ไหม"
"จับทำไมยะ!?"
"นะ…"
เฮ้อ...ราวกับดูแลลูกก็ไม่ปาน ทั้งสายตา ทั้งน้ำเสียง ออดอ้อนฉันเหลือเกิน พอป่วยก็เป็นแบบนี้ทุกคนสินะ แต่ฉันก็มีส่วนผิดที่ทำให้หยกเป็นแบบนี้ ฉันจึงนั่งลงบนเตียงแล้วสอดขาเข้าไปใต้ผ้าห่ม พร้อมกับยื่นมืออกมา หยกเองก็เอื้อมมือมาจับมือของฉันเอาไว้ เธอประสานนิ้วแทรกตามร่องนิ้วของฉันพอดีเป๊ะ แถมยังแน่นจนฉันรู้สึกเกร็งที่มีคนไม่รู้จักมานอนจับมือฉันแบบนี้
หยกเริ่มเขยิบตัวมาใกล้มากขึ้น แล้วเอาหน้ามาซุกที่ขาของฉัน แล้วหลังจากนั้นไม่นาน หยกก็ยกศีรษะมาหนุนขาฉันเฉยเลย มันจะมากเกินไปแล้วนะ แต่ฉันดันยอมให้ทำ ให้ตายสิ!!
"ทำอะไรของเธอเนี่ย!?"
"แม่…"
นอนเพ้อซะงั้น...นี่เห็นฉันเป็นแม่หรือไง สัญชาตญาณความเป็นอาที่มีหลานสาวน่ารัก ๆ ของฉันก็ดันตอบสนองด้วยการเอื้อมมือไปลูบศีรษะหยกเบา ๆ บ้าจริง...ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย แต่ยิ่งลูบ หยกยิ่งจับมือฉันแน่นขึ้น แถมยังดึงแขนฉันไปกอดด้วย เฮ้อ...น่าเอ็นดูเหมือนกันนะเนี่ย
"เห็นเธอนอนสบายแบบนี้ ฉันก็ง่วงด้วยสิ…"
ง่วง...ไม่ไหวแล้ว หวังว่าเธอจะไม่ขโมยของฉันนะ…


อืด อืด อืด~
เสียงโทรศัพท์ที่สั่นครืดอยู่ข้างหัวเตียงทำเอาฉันสะดุ้งเฮือกจากห้วงนิทรา ข้อความจากเพื่อนรักที่ส่งมารัว ๆ ช่วยปลุกฉันให้ตื่นขึ้นในทันที
ฉันหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้เลย รู้แต่ว่า มีเด็กที่ไหนไม่รู้นอนกอดฉันกลมเชียว หยกนอนกอดฉันจากทางด้านหลัง จากที่เธอนอนหนุนขาฉัน แต่ไหงตอนนี้ฉันดันมานอนหนุนแขนหยกได้ บ้าไปแล้ว อย่างกับในละคร ที่ตื่นขึ้นมาอยู่กับตัวร้ายที่ถูกปล้ำในคืนที่ผ่านมา นี่ฉันคิดอะไรของฉันเนี่ย…
"ฟี้...ฟี้...ฟี้…"
เสียงหายใจของหยกที่ดังอยู่ใกล้ ๆ หูฉัน บ่งบอกได้เลยว่า ตัวร้ายยังคงหลับปุ๋ย เหมือนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านอนกอดฉันอยู่ แต่อ้อมกอดของหยกมันอุ่นจนฉันไม่อยากลุกเลย มันอุ่นจนฉันอยากให้เธอกอดเอาไว้ไม่ปล่อย



"คุณ ตื่นได้แล้ว…"
"อืม…"
เสียงงัวเงียของคุณขวัญออกมาจากลำคอเบา ๆ เธอนอนกอดฉันอย่างกับกอดหมอนข้าง กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ จากน้ำหอมราคาแพง มันช่างหอมละมุน จนฉันอยากแปลงร่างเป็นผึ้งตัวน้อยที่ดอมดมเกสรดอกไม้เลยล่ะ
ไออุ่นจากร่างที่นอนกอดฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจจริง ๆ แม้ว่าฉันจะไม่รู้จักเธอก็ตาม ฉันจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของคุณขวัญเบา ๆ ก็เริ่มมีเสียงงัวเงียดังออกมาอีกครั้ง พร้อมกับที่คุณขวัญเริ่มมุดซอกคอของฉันและกอดฉันแน่นขึ้น
"หายใจไม่ออกแล้วนะ"
"เฮ้ย!!! อ๊าย!!!"
"โอ๊ย!!!"
นี่มันนรกชัด ๆ ตัวเองนอนกอดเค้าเองแท้ ๆ แต่ตื่นมาก็ถีบฉันเข้าเต็มแรงเลย ให้ตายสิ!!
"คุณถีบหยกทำไมเนี่ย!!"
"แล้วเธอทำอะไรฉัน!!?"
"คุณนั่นแหละนอนกอดหยก แถมยังมุดซอกคอหยกอีก ขนลุกหมดแล้วเนี่ยเห็นไหม"
ฉันพูดพร้อมกับดึงแขนเสื้อขึ้นเพื่อที่จะให้ดูเป็นหลักฐาน แต่อยู่ดี ๆ คุณขวัญก็ทำตาโตแล้วถีบฉันอีกครั้ง นี่มันนรกของฉันชัด ๆ
"โอ๊ย ๆ เดี๋ยว!! หยุดถีบเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
"ฮึย!!!"
"อะไรเล่า!!"
"ไม่มีอะไร"
"ไม่มีอะไรได้ไง นี่ถีบ 3 ครั้งเลยนะ"
"ก็มันตกใจนี่!"
"ตัวเองมากอดเค้าแท้ ๆ"
"เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ!!"
"ก็คุณนอนกอดหยก หยกก็เลยกอดคุณบ้างไง เจ๊ากัน"
"ไม่ใช่ย่ะ!! รอบแรกที่ฉันตื่นมา เธอกอดฉันจากข้างหลังแน่นเชียวล่ะ"
"ตอนนั้นหยกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ"
"ก็!! ก็…"
ท่าทีเลิ่กลั่กแบบนี้ อยากเข้าข้างตัวเองชะมัด ว่าคุณขวัญอยากให้เรานอนกอดจนไม่อยากปลุก เฮ้อ...ฉันหลงเสน่ห์คุณขวัญเข้าให้แล้วสิ ตั้งแต่ตอนอยู่ล็อบบี้โรงแรมแล้วนะ เมื่อคืนฉันเอาแต่ร้องไห้ แถมยังเป็นเวลากลางคืน เลยไม่ทันได้สังเกตผู้หญิงที่มาปลอบฉันได้ดีเท่าไหร่
แต่ทันทีที่ฉันเห็นคุณขวัญวันนี้ เธอสวยมากจริง ๆ มากจนฉันใจเต้นแรง มากจนของที่ถืออยู่ในมือหล่นพรวด น่าอายชะมัด หวังว่าเธอจะไม่รู้นะ
"แล้วนี่ดีขึ้นยัง"
ดูเหมือนคุณขวัญจะเปลี่ยนเรื่อง เธอถามพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะที่หน้าผากฉัน ทำเอาฉันใจเต้นแรงเลยสิ ทำไมรู้สึกดีแบบนี้นะ แถมยังอบอุ่น ความรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่เลย คุณอายุเท่าไหร่กันนะ
"ดีขึ้นแล้วค่ะ"
"ปวดหัวไหม"
"ไม่ค่ะ"
"อืม...ได้นอนพักก็คงดีขึ้นล่ะมั้ง"
"คงงั้นมั้งคะ"
"ทำไมวันนี้พูดเพราะจังล่ะ"
"ไม่ดีเหรอ"
"ก็ดี จะกลับเลยไหม"
"ตื่นแล้วก็ไล่เลยนะ"
"เปล่าซะหน่อย แต่เพื่อนฉันส่งข้อความมารัว ๆ เลย ต้องเป็นห่วงฉันมากแล้วแน่ ๆ ถ้ารู้ว่าเธอมานอนที่ห้องฉัน คงด่าฉันตายเลย"
"ก็อย่าบอกสิ"
วืด วือ วืด ~
ยังไม่ทันที่เราจะคุยกันจบ เสียงวิดีโอคอลจากโทรศัพท์คุณขวัญก็ดังขึ้น เธอมีท่าทีตกใจแบบเห็นได้ชัด พร้อมกับรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ ก่อนจะหันมาทำตาแข็งใส่ฉัน
"ห้ามพูด ห้ามส่งเสียงเด็ดขาด เข้าใจไหม!!?"
ฉันก็พอจะเข้าใจ ว่านี่มันต่างแดน แถมเรายังไม่รู้จักกันมากพอด้วย ถ้าจะมีใครเป็นห่วงหรือไม่ไว้ใจที่ฉันมานอนอยู่ในห้องของคุณขวัญแบบนี้ ก็คงไม่แปลก ฉันจึงพยักหน้าแทนคำตอบ และได้แต่นั่งเงียบ
"ว่าไงออม"
"ยัยขวัญ!! ฉันเป็นห่วงแทบแย่ แกหายไปไหนอีกแล้วเนี่ย!!?"
"ฉันหลับน่ะ ขอโทษที"
"ทั้งวันเนี่ยนะ ให้ตายสิ!!"
"เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับน่ะ วันนี้เลยเพลีย ๆ ก็นอนยาวเลย"
"เดี๋ยวนะ! นอนยาว แล้วทำไมแต่งหน้าสวยขนาดนั้น"
"ก็...ตอนแรกฉันว่าจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกไง แต่คิดไปคิดมา กินที่โรงแรมดีกว่า แล้วก็ขึ้นมานอนต่อ"
"แน่ใจนะ"
"แน่สิ แกนี่เป็นห่วงอย่างกับแม่เลยนะยะ"
"ก็ฉันไม่ได้อยู่ด้วยนี่!!"
"เออน่า...ฉันดูแลตัวเองได้ ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ"
"รู้แล้วน่า คราวหน้าก็บอกฉันหน่อยว่าจะนอน แกหายไปนานแบบนี้ฉันก็ใจไม่ดีน่ะสิ"
"ขอโทษ...อย่างอนฉันเลยนะ"
"ก็ไม่ได้งอนหรอก แต่เป็นห่วง แกไม่เป็นอะไรฉันก็สบายใจ"
"อืม...ไม่เป็นไรเลย สบายใจได้"
"โอเค ๆ งั้นฉันไปนอนก่อนนะ ไว้คุยกัน"
"โอเคจ้า ฝันดีนะออม"
"ฝันดีจ้า"
ติ๊ด!!
ฉันได้แต่นั่งกะพริบตาปริบ ๆ มองคุณขวัญวิดีโอคอลกับเพื่อนของเธอ ดู ๆ แล้ว ฉันเหมือนชู้เลย ที่สามีของเธอโทรมาตอนที่อยู่กับฉันพอดี คิดแล้วก็ขำ
"คิก!"
เสียงหัวเราะของฉันหลุดออกมา ทำเอาคุณขวัญหันมามองฉันตาขวางเลยทันที
"หัวเราะอะไรยะ!!?"
"ก็ขำอะ"
"ขำอะไรมิทราบ"
"เหมือนเราเป็นชู้กันเลย แล้วสามีคุณวิดีโอคอลมาพอดี"
"ฮ่า ๆ นั่นสิ แถมยังนอนกอดกันอีก ให้ตายสิ ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย"
ฉันไม่ถูกคุณขวัญดุเฉยเลย แถมยังขำกับสิ่งที่ฉันพูดอีก น่ารักชะมัด เธอนั่งพิมพ์อะไรก็ไม่รู้ในโทรศัพท์พร้อมกับอมยิ้ม ก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์ให้ฉันดู
"พยากรณ์อากาศบอกว่าพรุ่งนี้อากาศจะอุ่นขึ้นนะ เราไปเที่ยวกันพรุ่งนี้ดีไหม"
"คุณอยากไปเที่ยวไหนหรอ"
"พ่อเธอเป็นคนที่นี่ใช่ไหม แล้วเธอรู้จักที่นี่ดีหรือเปล่า"
"อันที่จริงแด๊ดก็พาเที่ยวบ่อย ๆ ก็พอจะรู้จักสถานที่สวย ๆ เยอะอยู่เหมือนกัน ทำไมเหรอ"
"พาฉันเที่ยวหน่อยได้ไหม ฉันอยากไปที่สงบ ๆ"
"อ่า...ถ้างั้น เรายังไม่ไปซื้อของฝากก็ได้ เพราะที่นั่นคนเป็นแสน ไม่สงบหรอก"
"อืม ยังไงก็ได้ งั้นตกลงตามนี้ พรุ่งนี้เธอมาเป็นไกด์ให้ฉัน โอเค๊?"
"โอเคก็ได้"
"อย่ามีก็ได้สิ ฉันไม่ได้บังคับเธอนะ"
"ก็เหมือนบังคับอะ"
"ไม่รู้แหละ ในเมื่อวันนี้เธอยังจะบังคับฉันไปเป็นเพื่อนเธอ พรุ่งนี้ฉันก็จะบังคับเธอไปเป็นไกด์ให้ฉัน"
"ได้ทีเอาใหญ่"
"ทำไมยะ? จะไปไม่ไป ถ้าไม่ไปฉันไปเองก็ได้"
"ไป ๆ ให้เล่นตัวหน่อยไม่ได้รึไง"
"ไม่ย่ะ!! ฮ่า ๆ"
ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก ถึงจะจัดผมอย่างดีแล้วก็เถอะ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงคุญขวัญตอนผมฟู ๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาทำหน้าตกใจแล้วก็ถีบฉันยกใหญ่ เหมือนฉากในละครที่พระเอกกับนางเอกตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองเมามากจนพลาดมีอะไรกันในคืนที่ผ่านมาเลย ฮ่า ๆ

#Special อ้อมกอดที่อบอุ่น
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“อุ๊ย ๆ อะไรกันคะเนี่ยยย นอนกอดกันแล้วนะล่าสุดดด อิอิ”