แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

แผนเกมรักไม่รู้ลืม (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 4 หนี

"เธอเป็นคนที่แปลกมากจริง ๆ กุลสินี"
"แปลกยังไงคะ?"
"เธอไม่กลัวฉันแล้วเหรอ?"
"เอ๊ะ!? ใครกลัวคุณ!?"
"อยู่ใกล้ฉันแบบนี้ ไม่กลัวโดนแบบเมื่อตอนเช้าหรือไง" เมื่อกุลสินีได้ยินแบบนั้นเธอถึงกับชะงักแล้วรีบชักมือออก แต่ก็ถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน
"จะทำอะไรคะคุณภิญญา!?"
"ให้รางวัลเด็กดี" 
เมื่อพูดจบเธอดึงข้อมือของกุลสินีเข้ามาแล้วใช้มืออีกข้างประคองท้ายทอยของเลขาสาวลงมาประกบปากทันที ดวงตาทั้งสองของกุลสินีเบิกโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบผละออกอย่างรวดเร็ว แล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เอื้อมมาเช็ดปากของตัวเองทันที
"คุณทำบ้าอะไรคะ!!?"
"ก็บอกว่าให้รางวัลไง"
"ไม่ต้องค่ะ!! ไม่อยากได้!"
"กุลสินี!! ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่กล้าปฏิเสธฉันมาก่อน!! เหอะ!! หน้าตาแบบเธอ ฉันไปหาที่ไหนก็ได้ อย่ามาปากดีไปหน่อยเลย อย่าลืมสิว่าหน้าที่ของเธอคืออะไร!!!" 
ภิญญาลุกขึ้นมานั่งแล้วกำข้อมือข้างหนึ่งของกุลสินีด้วยความโกรธ เลขาสาวได้แต่กัดฟันแน่นด้วยความโกรธเช่นกัน ก่อนจะสะบัดมือออกอย่างไม่ไยดีแล้วลุกออกจากเตียง
"ถ้าหาคนหน้าตาแบบฉันที่ไหนก็ได้ ก็เชิญไปที่ของคุณเถอะค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น!"
"กุลสินี!!" 
จังหวะที่กุลสินีหันหลังกลับเพื่อจะเดินออกจากห้อง ภิญญาก็คว้าหมับที่เอวของเธอจับเหวี่ยงลงมาที่เตียง พร้อมกับกระชากเสื้อทำงานออกอย่างแรงจนกระดุมหลุดเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนที่ยังเหลือบราปกปิดเอาไว้
"อ๊าย!!! หยุดนะคะคุณภิญญา!!"
"ปากดีนักใช่ไหม!!!?"
"หยุดนะคะ! ฮือ ๆ อย่าทำอะไรฉันเลย ฮือ ๆ" 
เมื่อภิญญากดแขนทั้งสองข้างของเลขาสาวลงกับเตียง เธอก้มลงจูบต้นคอระหงอย่างดูดดื่ม แล้วเลื่อนขึ้นมาจูบที่ริมฝีปากบาง ยิ่งกุลสินีพยายามต่อต้านมากเท่าไหร่ เธอยิ่งดูดกลืนริมฝีปากแรงขึ้นเท่านั้น ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของอีกคนดังออกมา
"ฮึก ๆ"
"ร้องไห้ทำไมกุลสินี เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลยนี่"
"ฮึก ๆ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณภิญญา ฮือ ๆ"
"นี่เธอกลัวฉันขนาดนี้เลยเหรอ" 
ภิญญาได้แต่มองอีกคนนอนร้องไห้ใต้ร่างของเธอ พร้อมกับผงกศีรษะอย่างคนหวาดกลัว จนหัวใจของเธออ่อนยวบลงทันที เธอจึงค่อย ๆ คลายข้อมือออกช้า ๆ แล้วลุกออกจากร่างเพื่อให้อีกคนได้ตั้งสติ
"วันนี้ 6 โมง แม่บ้านจะเอาข้าวขึ้นมาให้ที่ห้อง เธอห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เข้าใจไหม!?" 
กุลสินีผงกศีรษะตอบรับอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้มือทั้งสองปิดปากเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นดังออกมาทั้งที่น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด ภิญญายืนมองพลางจัดเสื้อของเธอให้เข้าที่ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตนแล้วเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้กุลสินีนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้น
"บ้าที่สุด…ฮึก ๆ" 
กุลสินีค่อย ๆ ใช้แขนยันร่างตัวเองขึ้นมา ก่อนจะติดกระดุมเสื้อให้เข้าที่ เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูด้านนอกอย่างแรง เธอรีบวิ่งไปหยิบกรอบรูปและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นใส่ในกระเป๋า พร้อมกับกดเบอร์โทรศัพท์อย่างร้อนรน
ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด…
"ทำไมพ่อไม่รับสายนะ!!!"
ตู๊ด…ตู๊ด...ตู๊ด…
"โอ๊ย! แม่ก็อีกคน ไปไหนกันหมดเนี่ย!?"
กุลสินีพยายามโทรหาที่บ้านของเธออย่างร้อนรนแต่กลับไม่มีใครรับโทรศัพท์เลยสักคนเดียว เธอจึงเปิดประตูห้องแล้วมองไปรอบ ๆ เพื่อดูลาดเลาว่าประธานสาวยังอยู่แถวนั้นหรือไม่ เมื่อเห็นว่าทางสะดวกแล้ว เธอจึงรีบวิ่งตรงไปที่ลิฟต์โดยพลัน
"ฉันต้องกลับไปที่หอเดิม ฉันจะไม่มาอยู่ที่นี่เด็ดขาด!!"
ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกกุลสินีกำลังจะรีบวิ่งออกไปแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่เธอต้องการจะหนีกำลังยืนคุยกับพนักงานสาวที่ช่วยเธอขนของเข้ามา เธอจึงรีบวิ่งไปหลบทันที
'บ้าเอ๊ย! เกือบไปแล้ว!' 
เธอชะโงกหน้าดูลาดเลาอยู่นาน จนประธานสาวสวยของเธอขึ้นรถตู้ออกไป กุลสินีกำสายกระเป๋าของเธอแน่น พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากคอนโดมิเนียมอย่างไม่คิดชีวิต เธอรู้ดีว่าการทำแบบนี้เป็นเรื่องที่เสี่ยงนัก แต่หากต้องทนอยู่ที่ห้องเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย มันก็เสี่ยงไม่ต่างกัน ดีไม่ดีอาจจะเสี่ยงมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
"คุณกุลสินีจะไปไหนคะ!!!?"
"บ้าเอ๊ย!! จะวิ่งตามมาทำไมเนี่ย! ไปหอสกุลรัตน์ค่ะ!!
พนักงานสาววิ่งตามเธอทันทีเมื่อเห็นทีท่าว่ากำลังจะหนี แต่โชคดีที่กุลสินีรีบวิ่งขึ้นรถแท็กซี่ไปเสียก่อน เมื่อรถแท็กซี่ขับพ้นจากเขตของคอนโดมิเนียมหรู ทำเอากุลสินีถึงกับถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งใจ


"อะไรนะคะป้า!? ฉันยังไม่ได้แจ้งออกเลยนะคะ จะให้คนอื่นมาอยู่ต่อฉันได้ยังไง แล้วทำไมมีคนย้ายมาต่อเร็วขนาดนี้ล่ะคะ!?"
"อะไรกัน ก็ให้คนมาดำเนินเรื่องให้ แล้วขนของออกไปแล้วนี่ หอพักราคาถูก ๆ แบบนี้ใครเขาก็อยากมาอยู่กันทั้งนั้น เขาเพิ่งเซ็นสัญญาเมื่อกี้นี้เอง"
"แต่สัญญาเช่าของฉันตั้ง 2 ปีนะคะป้า!"
"ก็เธอเป็นคนย้ายออกเองไม่ใช่หรือไง!!?"
"แบบนี้ก็เท่ากับว่าฉันผิดสัญญาสิคะ เงินมัดจำฉันก็ไม่ได้คืน แถมได้เสียค่าปรับอีก ฉันจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายเนี่ย"
"ฉันจัดการให้หมดแล้วล่ะ" เมื่อกุลสินีได้ยินเสียงผู้หญิงดูดุดันดังตามมาจากข้างหลัง เธอถึงกับสะดุ้งพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว ๆ ด้วยความหวาดกลัว เพราะเธอรู้ดีว่าเสียงนั่น คือเสียงของประธานสาวนั่นเอง
"กุลสินี ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าออกไปไหน" ภิญญาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความโกรธ จนกุลสินีไม่กล้าที่จะโต้ตอบอะไร ประธานสาวคว้าข้อมือของเธอได้ก็ลากออกจากหอพักแล้วไปขึ้นรถตู้ที่กำลังจอดรออยู่ทันที
"คิดจะหนีหรือไง!!!?"
"ปะ...เปล่านะคะ ฉันแค่…"
"แค่อะไร!!!? วันนี้ฉันอุตส่าห์จะปล่อยเธอไป แต่เธอกลับแกว่งเท้าหาเสี้ยนเองนะกุลสินี!!" ภิญญาตะหวาดเสียงดังลั่นรถพร้อมกับกำข้อมือเลขาสาวเอาไว้แน่น ตอนนี้กุลสินีได้แต่นั่งก้มหน้าหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา เพราะเธอรู้ว่า ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหนก็ถูกตามพบได้อย่างแน่นอน
'ฉันจะทำยังไงดี...ฉันจะทำยังไงดี…'


"กลับขึ้นไปบนห้องซะ!! แล้วอย่าคิดที่จะหนีอีก วันนี้ฉันไม่มีเวลามาเฝ้าหมาที่คิดจะหนีเจ้าของหรอกนะ" 
เมื่อรถตู้สีขาวมาจอดที่หน้าคอนโดมิเนียม ประธานสาวไล่อีกคนลงราวกับเธอไม่มีหัวจิตหัวใจอย่างไรอย่างนั้น จนกุลสินีกัดฟันแน่นด้วยความโกรธปนเจ็บปวดที่ถูกคำพูดที่ทิ่มแทงจากประธานสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ฝากด้วยนะคะคุณกานต์ดา อย่าให้ผู้หญิงคนนี้ออกจากคอนโดเด็ดขาด"
"รับทราบค่ะคุณภิญญา ฉันจะให้ รปภ. เฝ้าหน้าห้องตลอดเวลาเลยค่ะ หนีไม่ได้แน่นอนค่ะ"
"นี่มันอะไรกันคะ!!? ฉันไม่ใช่นักโทษนะ!!"
"อย่าลืมสิกุลสินี ว่าหน้าที่ของเธอคืออะไร อย่าคิดที่จะหนี ไม่งั้นที่บ้านเธอเดือดร้อนแน่!!" เมื่อได้ยินคำขู่ที่ลามไปถึงครอบครัว กุลสินีถึงกับกลืนน้ำลายดังอึกพร้อมกับกำมือแน่น เธอได้แต่ยืนมองดูรถตู้สีขาวขับออกไปจนลับตาด้วยความโกรธ
"กลับขึ้นห้องเถอะนะคะคุณกุลสินี"
"ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ มันไม่ใช่ที่ของฉัน!"
"แต่คุณท่านกำชับมาว่าคุณต้องอยู่ที่นี่และห้ามออกไปไหนค่ะ"
"คุณท่านที่ว่านี่ใคร!!? เขามีสิทธิ์ขนาดนั้นเลยหรือไง!?"
"คุณท่านที่ว่า คือคุณพ่อของคุณภิญญาค่ะ ท่านเป็นเจ้าของที่นี่ การที่คุณดื้อแล้วคิดจะหนีแบบนี้ มันจะทำให้ทุกคนเดือดร้อนนะคะ"
"แล้วฉันล่ะ!!? ตอนนี้ฉันสิที่เดือดร้อน!!"
"คุณกุลสินีคะ ได้โปรดเชื่อฉัน...คุณอยู่ที่นี่แล้วคุณจะปลอดภัยค่ะ"
"ไม่มีทาง!!! แค่ต้องมาอยู่ห้องยัยผู้หญิงบ้านั่นฉันก็รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว!!"
"ขอความกรุณาอย่าเรียกคุณภิญญาแบบนั้นนะคะ ช่วยให้เกียรติด้วยค่ะ"
"ทำไม!? เขาเหยียดหยามความรู้สึกฉันมากแค่ไหนคุณรู้ไหม ทำไมฉันต้องให้เกียรติคนแบบนั้นด้วย"
"สักวันคุณจะเข้าใจค่ะคุณกุลสินี แต่ตอนนี้กลับขึ้นไปบนห้องก่อนเถอะค่ะ"
"ไม่!!! ฉันจะไม่กลับไปบนห้องนั้นเด็ดขาด"
"ฉันจะไม่พูดอีกเป็นครั้งที่ 3 นะคะ รปภ.!"
"หยุดนะ!!! จะทำอะไรฉัน!!?" 
สิ้นสุดคำพูดของพนักงานสาว รปภ. สองคนก็เข้ามาคว้าแขนทั้งสองข้างของกุลสินีทันที แล้วพาร่างของเธอเดินเข้าไปในคอนโดมิเนียม โดยที่สาวสวยตัวเล็กอย่างกุลสินีไม่อาจต้านแรงได้แม้แต่น้อย
"ปล่อยนะ!!!"
"ถ้าคุณยอมขึ้นมาตั้งแต่แรก ฉันจะไม่ทำแบบนี้กับคุณเลยค่ะ คุณกุลสินี"
"โอ๊ย!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!! ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!! ช่วยด้วย!!! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!!!"
"เสียงดังไปก็ไม่มีใครมาช่วยคุณหรอกค่ะ ที่นี่เก็บเสียงอย่างดี และคนที่พักที่นี่ส่วนใหญ่แล้วเป็นลูกน้องระดับสูงที่คุณท่านและคุณภิญญาไว้ใจที่สุด ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของคอนโด ก็เท่ากับว่าถูกจับตามองทุกฝีก้าวเลยล่ะค่ะ อยู่เงียบ ๆ ในห้องจะดีกว่านะคะ ถ้าคุณไม่อยากถูกคุณภิญญาใช้มาตราการขั้นเด็ดขาดกับคุณ"
"ว่าไงนะ!! ฉันไม่ใช่นักโทษนะ!! จับฉันมาขังที่นี่ไม่ได้!!!"
"เชื่อฉันเถอะค่ะ คุณอยู่ที่นี่ คุณปลอดภัยแน่นอน"
"ไม่นะ!!! ไม่จริง!! ปล่อยฉันนะ!!"
"อย่าคิดหนีอีกนะคะ ฉันจะให้ รปภ. มาเฝ้าหน้าห้องคุณตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าหิวหรือต้องการอะไร โทรแจ้งได้เลยค่ะ เบอร์มีติดไว้ในห้องแล้ว อีกสักพักแม่บ้านจะนำอาหารเย็นมาเสิร์ฟให้กับคุณ ฉันขอตัวนะคะ"
"ไม่นะคะ ฮือ ๆ คุณกานต์ดาช่วยฉันด้วย อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ!"
ปัง!!!
เสียงปิดประตูดังอย่างไร้ซึ่งความปราณี ร่างของกุลสินีจึงค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้นพร้อมกับร้องไห้โฮอย่างหนัก ตลอดชีวิตของเธอไม่เคยพบเจอเรื่องที่เลวร้ายแบบนี้มาก่อน เธอทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ ถึงได้มาเผชิญกับเรื่องราวแบบนี้ กุลสินีกำมือแน่นด้วยความเจ็บปวด เพราะคนเป็นพ่อโดยแท้ที่ติดการพนันถึงขั้นต้องขายลูกตัวเอง หนำซ้ำยังต้องมาอยู่กับคนเลว ๆ อย่างภิญญาอีก 
โหดร้าย...โหดร้ายที่สุด!!