แก้ปมรักคุณพี่เลี้ยง (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

แก้ปมรักคุณพี่เลี้ยง (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 7 คืนวันโอที

"รับทราบค่ะพี่ชะเอม เดี๋ยวรินจัดการในส่วนของอาร์มเองค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะ ขอให้ท่านหายไว ๆ นะคะ" บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างพี่เลี้ยงสาวกับหัวหน้าสาว ที่แม้จะได้ยินเพียงแค่ทางเดียว แต่เพราะสีหน้าของน้ำรินดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทั้งแก้วตาและกอล์ฟต่างก็ร้อนใจไปตาม ๆ กัน
"มีอะไรหรือเปล่าคะพี่น้ำริน"
"แม่ของอาร์มป่วยหนัก พี่ชะเอมกับอาร์มเลยต้องลาไปต่างจังหวัดด่วน กี่วันก็ไม่รู้ แต่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด"
"แล้วท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"
"ยังไม่รู้เลย กำลังเดินทางน่ะ"
"งี้พี่น้ำรินก็ได้รับผิดชอบงานส่วนของพี่อาร์มด้วยสิครับ" กอล์ฟที่ยืนฟังตั้งแต่ต้นเอ่ยถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
"ก็คงงั้น ส่วนของพี่ชะเอมก็คงต้องรอพี่เขากลับมา"
"โหพี่ หนักหน่อยนะครับ ผมก็อยากช่วยนะ แต่งานผมก็หนักหน่วงเลย"
"ไม่เป็นไร มันเหตุสุดวิสัย กอล์ฟทำหน้าที่ของตัวเองไปนั่นแหละดีแล้ว ส่วนพี่ก็จะทำให้ดีที่สุดเช่นกัน พี่ชะเอมจะได้ไม่ต้องห่วง ไปทำงานของตัวเองได้แล้ว"
"สู้ ๆ นะครับพี่ สู้ ๆ นะแก้วตา" 
แก้วตาฟังน้ำรินพูดด้วยท่าทีที่เป็นกังวล เธอไม่รู้จะให้กำลังใจอีกฝ่ายอย่างไรดี เพราะตอนนี้ก็เท่ากับว่า งานของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ที่ต้องแบ่งกับของน้ำริน รวมถึงโปรเจกต์พิเศษที่แทรกเข้ามาอีก เหลือเวลาทำอีก 6 วัน แต่สิ่งที่ทำไปกลับได้แค่เพียงแผนงานเท่านั้น ทำเอาทั้งสองเครียดไปตาม ๆ กัน
"วันนี้พี่ต้องเคลียร์งานต่อจากของอาร์มให้เสร็จ เพราะกำหนดส่งวันนี้ แก้วตาไหวหรือเปล่า" น้ำรินหันมาถามแก้วตาด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ไหวก็ต้องไหวค่ะ คงต้องช่วยกันเคลียร์งานหลักก่อน วิดีโอค่อยว่ากัน ตาคิดว่ามันต้องทันค่ะ" น้ำรินยิ้มตอบกลับมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนหาเบอร์ใครบางคนแล้วกดโทรออก
"ฮัลโหลอาร์ม ขอเวลาสักครู่ งานที่ทำค้างไว้อยู่ลูกค้าต้องการแบบไหน รินต้องเพิ่มอะไรบ้าง อธิบายคร่าว ๆ หน่อยได้ไหม" น้ำรินคุยโทรศัพท์พลางใช้มือจดแบบลวก ๆ ในกระดาษตามที่ปลายสายพูด
"โอเค...สบายมาก...ขอบคุณนะ...ขับรถดี ๆ" หลังจากที่วางโทรศัพท์ได้น้ำรินก็เปิดไฟล์งานที่อาร์มทำค้างไว้ขึ้นมา เธอนั่งมองเพื่อพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มคลิกเมาส์ ร่าง ลงสี ทำแบบนั้นไปเรื่อย ๆ แม้ไม่ใช่ส่วนที่เธอออกแบบตั้งแต่ต้น แต่เธอก็สามารถดัดแปลง ต่อเติมต่อจากแบบเดิมได้อย่างชำนาญ ทำให้คนที่กำลังมองเธออยู่ยิ้มออกมาด้วยความชื่นชม
'พี่น้ำรินนี่เก่งจัง ฉันเองก็ต้องพยายามในส่วนของฉันเหมือนกัน'


เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน แก้วตาก็ยังคงบริการน้ำรินเช่นเดิมอย่างที่เคยทำ ครั้งนี้เธอใช้บริการเดลิเวอรี่สั่งเค้กร้านมีเรา คาเฟ่มาด้วย ตอนนี้เธอเข้าใจน้ำรินอย่างสุดซึ้งว่าทำงานจนไม่มีเวลากินข้าวมันเป็นอย่างไร เพราะงานที่อยู่ตรงหน้ามันเยอะเสียจนขยับตัวได้ลำบาก 
เธอจัดเค้กใส่จานพร้อมกับถือแก้วกาแฟมาวางไว้ให้น้ำรินก่อนจะนั่งลงทำงานของตัวเองต่อ
"กินสิ ตายังไม่ได้กินข้าวไม่ใช่เหรอ"
"ทำงานจนลืมหิวแล้วค่ะ" แก้วตาตอบแต่ตายังคงจับจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และมือยังคงทำงานต่อ
"อ้าปาก" น้ำรินตักเค้กมาจ่อที่ปากของแก้วตาจนเจ้าตัวถึงกับงง
"อะไรคะพี่น้ำริน"
"เค้กไง อ้าปาก"
"ตากินเองได้ค่ะ พี่ทำงานต่อเถอะ" แก้วตาทำทีไม่สนใจอีกฝ่ายในตอนแรก แต่เพราะน้ำรินก็ยังถือช้อนค้างไว้อย่างนั้นอยู่นาน จนเธอต้องยอมหันไปกินเค้กแต่โดยดี
"กินแล้วค่ะ พอใจหรือยัง"
"ยัง กินอีก" พี่เลี้ยงสาวตักเค้กขึ้นมาป้อนแก้วตาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอก็อ้าปากกินอย่างว่าง่าย
"พี่ไม่กินบ้างเหรอคะ เดี๋ยวตาไปเอาช้อนมาให้ใหม่นะ"
"ไม่ต้อง กินด้วยกันนี่แหละ" เธอว่าพลางกับใช้ช้อนคันเดิมที่เธอตักเค้กป้อนแก้วตาเมื่อสักครู่มาตักเค้กเข้าปากของตัวเองบ้างโดยไม่ได้มีท่าทีรังเกียจ ก่อนที่จะหันมายิ้มให้กับรุ่นน้องสาวอย่างอ่อนโยน แล้วตักเค้กมาป้อนแก้วตาอีกครั้ง
"เค้กอร่อยไหมครับ" เมื่อมีเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้น ทำเอาทั้งน้ำรินและแก้วตาถึงกับรีบผละออกจากกันโดยเร็ว เพราะมัวแต่ผลัดกันกินเค้กโดยแท้ ทำให้ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่ากอล์ฟมายืนมองพวกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
"อืมอร่อย" น้ำรินตอบด้วยท่าทีเรียบนิ่ง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"วันนี้ทำโอทีกันไหมครับ"
"คิดว่าคงทำนะ"
"เยี่ยม แก้วตาล่ะ"
"แน่นอน"
"พี่โต๊ะ พี่ป๋องล่ะครับ"
"ไม่ล่ะ ลูกเมียรออยู่บ้าน" โต๊ะตอบกลับมา แต่ป๋องเพียงแค่ยกมือขึ้นแล้วโบกไปมาแสดงท่าทีปฏิเสธเท่านั้น
"งั้นเราสามคนมาปาร์ตี้โอทีกัน ฮ่า ๆ"
"ทำงานจนบ้าไปแล้วหรือไง" น้ำรินบ่นพึมพำเพราะพนักงานหนุ่มรุ่นน้องดูร่าเริงผิดปกติ ส่วนแก้วตามองไปที่จานเค้กก็อมยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้
'เค้กชิ้นแรกที่กินด้วยกันกับพี่น้ำริน'


วันนี้ทั้งวันกอล์ฟเอาแต่เดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะทำงานของตัวเองและโต๊ะทำงานของโปรแกรมเมอร์ น้ำรินเองก็ต้องคอยรับโทรศัพท์จากเชอรีนและนก บางครั้งก็ต้องเดินเข้าและออกห้องเพื่อไปคุยงานด้วยตัวเอง หรือแม้แต่เชอรีนก็เข้ามาดูงานเองด้วย ทุกคนดูวุ่นกันหมดรวมถึงแก้วตาที่เอาแต่ทำงานหลัก จนไม่มีเวลาที่จะทำงานแทรกได้เลย ไม่มีแม้แต่เวลาจะกินข้าว

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งเวลาเลิกงานโต๊ะกับป๋องก็เก็บของกลับบ้านก่อน เหลือเพียงแค่กอล์ฟ น้ำริน และแก้วตาเท่านั้น เมื่อผ่านไป 2 ชั่วโมง จู่ ๆ กอล์ฟก็รีบถือกระเป๋าวิ่งแจ้นออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไร ปล่อยให้สองคนที่นั่งทำงานอยู่ในห้องถึงกับงง
"แก้วตา งานอีกเยอะไหม"
"นิดหน่อยค่ะ พี่น้ำรินล่ะคะ"
"ใกล้เสร็จแล้วล่ะ หิวหรือเปล่า ไปกินอะไรก่อนไหม"
"ยังก่อนค่ะ คิดว่ารีบทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปกินดีกว่า"
"แท่นแท๊น!!" กอล์ฟวิ่งกลับมาที่ห้องพร้อมถือถุงพิซซ่าเข้ามาจนพะรุงพะรังไปหมด
"อ้าวกอล์ฟ ตานึกว่ากลับแล้ว"
"เล่เข้ามาครับ เล่เข้ามา มากินพิซซ่าร้อน ๆ กันดีกว่า ต้องขอยกความดีความชอบให้กับพี่! เชอ! รีน!" กอล์ฟกำกำปั้นมาจ่อไว้ที่ปาก ราวกับตัวเองเป็นพิธีกรรายการที่กำลังแนะนำแขกรับเชิญอย่างอลังการ ก่อนที่ผู้เป็นนายจะเดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้ม
"เป็นไงบ้างทุกคน มาพักกินอะไรก่อนเถอะ"
"ขอบคุณนะคะพี่เชอรีน" แก้วตาตอบ
"ขอกราบขอบพระคุณ คุณพี่เชอรีนเป็นอย่างสูงครั่บ!" กอล์ฟยังไม่วายเลิกเล่นเป็นพิธีกร พร้อมกับทำท่าโค้งคำนับอย่างน่าหมั่นไส้ เชอรีนได้แต่หัวเราะร่าก่อนจะทำท่าถอนสายบัวตอบกลับ
"ฮ่า ๆ พี่เชอรีนก็บ้าจี้เล่นกับน้องมัน"
"พี่รู้สึกสวยขึ้นมาเลยนะเมื่อกี้ ฮ่า ๆ"
"ขออนุญาตพี่กวิน ควงองค์หญิงของผมครั่บ" กอล์ฟทำท่าเหมือนเจ้าชายที่ขอหญิงสาวมาร่วมเต้นรำ
"ให้มันน้อย ๆ หน่อย อยากโดนไล่ออกหรือไงกอล์ฟ" 
"ฮ่า ๆ"
ตลอดเวลาช่วงเย็นนั้น ทุกคนได้พูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จากที่เหนื่อยล้ากับการทำงานมาทั้งวัน เหมือนได้รับกำลังใจจนหายเหนื่อย การทำโอทีไม่ได้น่าเบื่อเลยสักนิด แต่กลับมีความสุขเสียด้วยซ้ำ
'ฉันโชคดีจังที่ได้มาทำงานที่นี่…'


"หนักเลยนะวันนี้ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะที่อยู่ช่วยกัน"
"พวกเราต้องขอบคุณพี่เชอรีนมากกว่าค่ะ สำหรับอาหารอร่อย ๆ" แก้วตาพูดพลางยกมือไหว้เพื่อขอบคุณผู้เป็นนาย
"ยินดีจ้า ว่าแต่จะกลับกันเลยไหม นี่ก็จะ 3 ทุ่มแล้วนะ"
"ตายังก่อนค่ะ ขอเคลียร์ของวันนี้ให้เสร็จก่อน"
"รินก็เหมือนกันค่ะ"
"ผมก็ยังครับ ถือซะว่าอยู่ทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้สาว ๆ"
"พี่ว่าแกนั่นแหละที่น่ากลัว"
"โห...พี่น้ำรินอ้า พี่น่าจะภูมิใจนะมีคนหล่อ ๆ แบบผมอยู่เป็นเพื่อน"
"พี่อยู่กับแก้วตาสองคนสบายใจกว่าเยอะ"
"เอ...สองคนสนิทกันแล้วสินะ" ผู้จัดการสาวเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริง
"ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะพี่เชอรีน ทำไมเหรอคะ"
"เปล่าจ้ะ ดีแล้ว ๆ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ"
"สวัสดีค่ะพี่เชอรีน ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสามไหว้บอกลาเชอรีนและกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำงานของตัวเองกันต่อ


"อา...เสร็จสักที" แก้วตาชูสองมือขึ้นด้วยความดีใจพร้อมกับบิดขี้เกียจ
"อะไรอ้า ของกอล์ฟยังไม่เสร็จเลย อยู่เป็นเพื่อนก่อนนะ จะรีบทำให้เสร็จพรุ่งนี้งานจะได้เบาลง"
"ไม่เป็นไร ตายังไม่รีบกลับ พี่น้ำรินใกล้เสร็จหรือยังคะ"
"เหลือแค่ส่งเมลน่ะ"
"เดี๋ยวก่อน รอผมด้วย"
"รีบทำไปเถอะน่า แก้วตา ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อยสิ"
"ได้ค่ะ" เมื่อได้ยินคำตอบ น้ำรินจึงเดินนำออกไป โดยมีแก้วตาเดินตามออกไปด้วยแบบติด ๆ เพราะไฟทั้งหมดถูกปิดเอาไว้หมดแล้ว เหลือแค่เพียงแสงไฟจากห้องทำงานของทีมออกแบบเท่านั้น ซึ่งห้องน้ำต้องเดินยาวไปจนสุดโถงทางเดินที่มืดสนิท ทำให้แก้วตาเอื้อมมือไปจับที่ชายเสื้อของน้ำรินเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว
"กลัวเหรอ" น้ำรินหยุดเดินแล้วหันมาถามแก้วตาที่ยืนจับชายเสื้อของเธออยู่
"นิดหน่อยค่ะ ไม่เคยอยู่ที่บริษัทจนมืดขนาดนี้มาก่อน" 
เมื่อได้ยินอย่างนั้นน้ำรินจึงยื่นมือมาจับมือของแก้วตาเอาไว้ แล้วจูงมือเธอเดินต่ออย่างช้า ๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ โชยมาจากหญิงสาวที่เดินนำหน้าช่วยคลายความกลัวได้เป็นอย่างดี ทว่า...
น้ำรินไม่ได้พาแก้วตาไปที่ห้องน้ำอย่างที่เธอพูดเอาไว้ แต่เธอจูงมือรุ่นน้องเดินเข้าไปที่ห้องชงกาแฟ พร้อมกับปิดประตูเอาไว้ เธอจูงมืออีกคนเดินเข้าไปในความมืด โดยอาศัยแสงไฟสลัวจากห้องทำงานข้าง ๆ ทะลุผ่านประตูกระจก ที่มีสติ๊กเกอร์ติดกระจกติดไว้ตรงกลางเหลือพื้นที่ว่างไว้แค่ส่วนบนและส่วนล่างของประตูกระจกเท่านั้น
"พี่น้ำรินพาเข้ามาที่ห้องชงกาแฟทำไมคะ" น้ำรินไม่ตอบอะไร แต่เธอก้าวเข้ามาใกล้แก้วตาเรื่อย ๆ หญิงสาวตัวเล็กได้แต่ก้าวถอยออกไปเพื่อที่จะหนี แต่ก็ยังถูกอีกฝ่ายก้าวตามมา จนในที่สุดแผ่นหลังของเธอก็ชนกับผนังห้อง
"พี่น้ำริน...พี่จะทำอะไรคะ"
"เหนื่อยจัง ขอกำลังใจหน่อยได้ไหม"
"อะไรกันคะ สู้ ๆ นะคะ" แก้วตารีบตอบรับทันที เพราะรู้สึกว่าเริ่มหวั่น ๆ ว่าคนตรงหน้าจะทำอะไรต่อ
"ไม่ใช่"
"ล...แล้วต้องทำยังไงคะ" แก้วตาถามเสียงสั่น และหลบสายตาไปทางอื่น เพราะตอนนี้หัวใจเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว
"จูบได้หรือเปล่า" น้ำรินไม่ว่าเปล่า สิ้นคำถาม เธอก็โน้มตัวเข้าหารุ่นน้อง ยิ่งระยะห่างของทั้งสองลดลงเท่าไหร่ แก้วตายิ่งรู้สึกว่าหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงขึ้นเท่านั้น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำอะไรแบบนี้ ซ้ำยังอยู่ในบริษัทอีกด้วย แก้วตาจำต้องผลักร่างพี่เลี้ยงสาวออก แต่กลับไม่เป็นผล
"ไม่ได้ค่ะ กอล์ฟยังอยู่นะคะพี่น้ำริน เดี๋ยวก็มาเห็นหรอก"
"ไม่เป็นไร กอล์ฟทำงานอยู่" ทันทีที่พูดจบ น้ำรินใช้มือข้างขวาจับที่ปลายคางของแก้วตา พร้อมกับเชยคางเธอขึ้นมา แล้วบรรจงจูบลงที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้มืออีกข้างโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ ส่วนแก้วตานั้นถึงกับหลับตาปี๋ มือทั้งสองข้างของแก้วตาค่อย ๆ กำเสื้อบริเวณเอวของน้ำรินเอาไว้แน่น ริมฝีปากที่ประกบกันอยู่นั้น ช่างอุ่น นุ่ม ละมุน และกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มันทำให้ทั้งสองต่างก็เคลิบเคลิ้มกับรสจูบนี้จนไม่อยากจะผละออก แม้น้ำรินเพียงแค่ประกบปากลงไปเท่านั้น แต่หัวใจของทั้งคู่เต้นแรงจนแทบจะทะลักออกมา ลมหายใจอุ่น ๆ ของน้ำริน มันทำให้แก้วตาเหมือนโดนมนต์สะกดจนเธอลืมหายใจไปชั่วขณะ
น้ำรินถอนริมฝีปากออกมา แล้วจ้องมองแก้วตาผ่านแสงไฟที่ส่องเข้ามาเพียงน้อยนิด หญิงสาวตัวเล็กหายใจเฮือก หลังจากที่ลืมหายใจไปเมื่อสักครู่
"ขออีกได้ไหม" น้ำรินพูดอย่างแผ่วเบา
"พอแล้วค่ะ เดี๋ยวกอล์ฟมาเห็น" แก้วตาตอบเสียงสั่นปนหอบ
"นี่คือกำลังใจที่พี่ให้ตา แล้วเราไม่คิดจะให้กำลังใจพี่หน่อยเหรอ"
"ไม่เอา...ถ้าพี่ยังทำแบบนี้ตาโกรธจริง ๆ ด้วย" แก้วตาดุน้ำรินเบา ๆ ทำให้น้ำรินรีบผละออกในทันที
"โกรธเหรอ"
"เปล่าค่ะ แต่เราไม่ควรทำแบบนี้ในที่ทำงาน พี่ก็รู้เหตุผลดีไม่ใช่เหรอคะ"
"งั้นกลับไปทำที่บ้านได้ใช่ไหม"
"พี่น้ำริน!" แก้วตาดุน้ำรินพร้อมกับฟาดไปที่แขนเบา ๆ แต่น้ำรินกลับหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอกำลังชอบใจ
"ไปกันเถอะ เดี๋ยวกอล์ฟสงสัย" 
แม้จะอยากอยู่ร่วมกันอีกหน่อย อยากขยายเวลาที่ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันมห้นานกว่านี้ แต่ทั้งสองจำต้องเดินกลับไปที่ห้องแต่โดยดี ซึ่งเมื่อเธอทั้งสองกลัลบมาถึงห้องทำงาน มีสายตาของกอล์ฟที่กำลังมองสำรวจอย่างไม่ละสายตา
"เห...ไปทำไรกันน่ะ ทำไมกลับมาแล้วหน้าแดง" กอล์ฟพูดพลางชี้นิ้วสลับไปมาที่แก้วตาและน้ำริน
"สายเสื้อในหลุด เลยให้แก้วตาใส่ให้ จบนะ" คำตอบของน้ำรินที่พูดออกไปไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย กลับทำให้แก้วตาหน้าแดงหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก
"เอ่อ...งานเสร็จหรือยังกอล์ฟ" แก้วตารีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะถูกเค้นมากกว่านี้
"อืม เสร็จพอดีเลย เรากลับกันเถอะ ยิ่งดึกบรรยากาศยิ่งขนลุก บรื้อ!"
"อย่าพูดงั้นสิ ตากลัวนะ" ยังไม่ทันที่แก้วตาจะได้พูดจบประโยค กอล์ฟก็รีบวิ่งออกไปทันที
"เฮ้ย ไอ้กอล์ฟ!!!" ด้วยความตกใจแก้วตาถึงกับตะโกนด่าไล่หลังแบบทันควันและรีบคว้าหมับที่แขนของพี่เลี้ยงสาวอย่างอัตโนมัติ ทำเอาน้ำรินถึงกับขำพรืด
"คิก ๆ เก็บของกันเถอะ พี่อยู่ด้วย ไม่ต้องกลัวหรอก"
"พี่นั่นแหละที่น่ากลัว ไม่ต้องมาหัวเราะตาเลยนะ" แก้วตาทำหน้ามุ่ย
"จ๊ะเอ๋!!!"
"กรี๊ด!!!" ระหว่างที่ทั้งสองอยู่ในความเงียบ กอล์ฟก็พุ่งเข้ามาด้วยเสียงที่ดังลั่น จนทำให้แก้วตาตกใจแผดเสียงออกมา พร้อมกับกระโดดกอดน้ำรินแน่น
"อยากตายหรือไง!" น้ำรินจ้องมองกอล์ฟด้วยสายตาอาฆาต พร้อมกับเอามือลูบศีรษะปลอบขวัญแก้วตาที่ยังคงหลับตาปี๋ และกอดเธออยู่
"ฮ่า ๆ ก็อยากให้สนิทกันเร็ว ๆ ถือว่าสำเร็จตามแผน วันนี้นอนหลับฝันดีละ" กอล์ฟเดินควงกุญแจรถออกไปสบายใจเฉิบ มืออีกข้างถือโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดไฟฉายส่องทาง ทั้งสามเดินออกมาจนถึงหน้าประตูบริษัท แล้วก็ล็อกประตูทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่น้ำรินเป็นคนอาสาที่จะไปส่งรุ่นน้องสาวอย่างเช่นทุกครั้ง
"เหนื่อยไหมแก้วตา"
"นิดหน่อยค่ะ แต่ก็สนุกดีนะคะ เสียดายก็แต่ว่าวันนี้ก็ไม่ได้ทำวิดีโอเลย เหลือเวลาแค่ 6 วันเอง"
"อีกตั้ง 6 วัน ทันน่าเชื่อพี่"
"ขอบคุณนะคะ แล้วพี่น้ำรินเหนื่อยหรือเปล่าคะ"
"ไม่หรอก"
"ปากแข็ง เหนื่อยแหละตารู้"
"ว่าพี่ปากแข็งอีกแล้วนะ ลองดูอีกไหม"
"ไม่ค่ะ! ตั้งใจขับรถไปเลย พี่อะขี้แกล้ง" น้ำรินได้แต่หัวเราะร่า ที่อีกคนทำหน้ามุ่ยราวกับเด็ก ๆ เวลาผ่านไปไม่นานนักก็ถึงที่หมาย
"เดี๋ยวพรุ่งนี้มารับนะ"
"ที่จริงตานั่งแท็กซี่ไปก็ได้นะคะพี่น้ำริน"
"ก็พี่บอกว่าจะมารับ ก็ต้องรอพี่มารับนะคะ" น้ำรินหันมาลูบผมแก้วตาอย่างเอ็นดู
"ก็ได้ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ" ระหว่างที่แก้วตากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยเธอก็นิ่งคิดอะไรสักครู่หนึ่ง
"พี่น้ำรินคะ"
"ว่าไง" แก้วตาค่อย ๆ ชู 2 นิ้วขึ้นมาแล้วหันไปมองน้ำรินที่กำลังแสดงสีหน้าฉงนอยู่ พร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย
"จะบอกพี่ว่าสู้ ๆ เหรอ"
"ไม่ใช่ค่ะ" เธอตอบแล้วนำสองนิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง ก่อนที่จะยื่นไปแตะที่แก้มของพี่เลี้ยงสาวด้วยรอยยิ้ม
"กำลังใจจากตา...ให้พี่นะคะ" เมื่อพูดจบแก้วตาก็รีบลงรถทันที ส่วนน้ำรินยกมือขึ้นมาลูบที่แก้มเบา ๆ แล้วยิ้มจนแก้มปริ
'อยากได้มากกว่านี้จังเลยน้า' น้ำรินคิดในใจก่อนที่จะขับรถออกไปด้วยใบหนาที่แต้มไปด้วยรอยยิ้ม
'นี่สินะ ที่เขาเรียกว่า...ความรัก'


หลังจากที่แก้วตาอาบน้ำสระผมเสร็จ ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้น เธอจึงเดินไปหยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุคเพื่อที่จะทำงานต่อสักหน่อย พลางคิดถึงกำลังใจที่ได้จากพี่เลี้ยงสาว ก่อนที่จะอมยิ้มอย่างมีความสุข
"ออกแบบส่วนรายชื่อทีมงานไว้ดีกว่า อย่างน้อยได้เริ่มสักนิดก็ยังดี" เธอหยิบแผ่นพับที่มีรายชื่อพนักงานที่รับผิดชอบงานในหน้าที่ต่าง ๆ ขึ้นมา แล้วก็เริ่มพิมพ์โดยการพิมพ์ชื่อไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงชื่อของใครบางคน มันทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
"นางสาวน้ำริน กอบกูล" เพียงแค่เห็นชื่อ ก็มีกำลังใจที่จะทำงานขึ้นมาทันที...
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน ตอนนี้ก็ได้เผยชื่อ นามสกุลของตัวเอกของเราแล้ว มันจะเป็นคีย์เวิร์ดที่จะนำไปสู่ปมต่าง ๆ หรือไม่ มาติดตามกันต่อนะคะ ^^”