เพียงกระซิบ

เพียงกระซิบ
ตอนที่ 14 น่ารำคาญ

บริเวณระเบียงคอนโดมิเนียมที่มีต้นไม้ฟอกอากาศนานาพันธุ์ประดับตกแต่งพร้อมกับมีเบาะนุ่ม ๆ จัดเอาไว้เป็นมุมพักผ่อน กลิ่นอโรมาหอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจากเทียมหอมที่จุดเอาไว้ตามราวระเบียงทำให้บรรยากาศโดยรอบดูอบอุ่นและโรแมนติกราวกับฉากหนึ่งในหนังรัก
คนที่ดูมีความสุขและเพลิดเพลินกับการจุดเทียนหอมคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหญิงสาวเจ้าของห้อง เพราะเธอเอาแต่อมยิ้มพลางกับสูดดมกลิ่นหอมจนไม่สนใจคนรักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนขอร้องให้เจ้าตัวมาอยู่ด้วยแท้ ๆ
หลงนั่งมองเธอพลางกับอมยิ้ม การที่ได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของคนตัวเล็กมันทำให้เธอสุขใจตามไปด้วย อีกทั้งกลิ่นอโรมาที่เธอชื่นชอบ ทำให้ค่ำคืนวันนี้ดูพิเศษและอบอุ่นหัวใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
"พี่จะเอาแต่สนใจเทียนนั่นอย่างเดียวเหรอ ลืมหรือเปล่าว่าหลงก็นั่งอยู่ตรงนี้" หลงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เธอไม่ได้พูดด้วยความน้อยใจแต่อย่างใด แต่เธอตั้งใจจะเอ่ยแซวเท่านั้น
"อ่า...ขอโทษ ก็เราชอบนี่นา" เจ้าตัวหัวมาพลางกับทำหน้ายู่ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงที่เบาะนุ่ม ๆ และเธอก็แน่นิ่งไปจนหลงมองเธอคิ้วขมวด
"พี่ซอลเป็นอะไรหรือเปล่า"
"เฮ้อ...อย่างนี้นี่เอง"
"อะไรคะ?" 
"จำได้ไหมที่เราเคยเล่าให้ฟัง ว่าเราเคยเห็นภาพเราสองคนจูบกัน"
"จำได้ค่ะ ทำไมคะ"
"ภาพที่เราเห็นมันเหมือนกับวันนี้เลย แต่มันผิดไปจากเดิมเพราะหนึ่ง...เราไม่ได้รู้สึกเดจาวู  สอง เราไม่ได้ลืมภาพนั้น และสาม ภาพที่เราเห็น เธอจะต้องเป็นคนตื่นเต้นกับเทียนหอมพวกนี้ ไหงตอนนี้กลายเป็นเราซะงั้น"
"ทำไมเหรอคะ หลงไม่เข้าใจ"
"ก็...มันอาจจะเป็นไปได้ว่า ภาพที่เราเห็นเกี่ยวกับเธอ มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตน่ะสิ อืม...จะพูดยังไงดีให้เธอเข้าใจ" ซอลจับที่ปลายคางของตนพลางกับทำหน้าครุ่นคิด
"อ่า...พี่จะบอกว่า เรื่องระหว่างเราสองคนมันไม่ตรงกับภาพที่พี่เห็นเหรอคะ"
"ใช่"
"อ้าว...แต่เราสองคนก็รักกันนี่"
"ใช่ไง"
"เอ้า!? แล้วยังไง"
"มันหมายความว่า เราไม่อาจรู้เรื่องระหว่างเราสองคนล่วงหน้าได้ แต่ทุกอย่างมันดำเนินไปของมันเองตามที่ชะตากำหนด จะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เราไม่เห็นภาพอนาคตของเราสองคน เหมือนกับที่เธอไม่ได้ยินเสียงของเรานั่นแหละ"
"อืม แปลกแฮะ" หลงทำสีหน้าครุ่นคิดบ้าง
"ใช่ มันแปลกมาก"
"บางครั้งหลงก็รู้สึกอึดอัดที่ไม่ได้ยินเสียงของพี่ เพราะหลงไม่รู้ว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่หลงกลับเชื่อคำพูดพี่ทุกอย่าง ตลกชะมัด แบบนี้คงต้องโดนพี่หลอกสักวันแน่ ๆ" ซอลได้ยินอย่างนั้นจึงอมยิ้มออกมาก่อนจะหันไปมองหลงและเอื้อมมือไปประคองใบหน้าของหลงให้หันมาทางเธอ
"เธอเชื่อใจเราหรือเปล่าล่ะ"
"เชื่อสิคะ"
"มันก็เหมือนกับที่เราเชื่อว่าเราสองคนจะได้รักกัน ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีอะไรดูเป็นไปได้เลย"
"ในเมื่อไม่มีอะไรดูเป็นไปได้แล้วทำไมพี่ถึงเชื่อล่ะ"
"ไม่รู้สิ หัวใจมันบอกล่ะมั้ง ว่าเธอจะกลายมาเป็นคนที่เรารักทั้งหัวใจ"
"และพี่ก็รักหลงทั้งหัวใจจริง ๆ ใช่ไหม"
"ใช่...รักมากขึ้นทุกวัน"
รอยยิ้มแต้มบนใบหน้าของคนทั้งคู่ทันทีเมื่อซอลพูดจบ แม้ทั้งสองจะไม่สามารถล่วงรู้ความคิดหรือเห็นภาพอนาคตของกันและกันได้ แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น ณ ขณะนี้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หัวใจต่างฝ่ายต่างเรียกร้องกันและกันราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง
หลงจะรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้กับคนตัวเล็กแม้เธอจะเคยรำคาญในตอนแรกพบ แต่ก็เพราะถูกป่วนจนหัวใจว้าวุ่นไปหมด ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตในตอนนี้ราวกับถูกแต่งแต้มด้วยสีสัน จากเดิมเคยมีแต่สีดำ ตอนกลับมีสีชมพูสดใสเข้ามาแทนที่ แม้แต่การตกแต่งภายในของคอนโดมิเนียมแห่งนี้ยังเป็นสีชมพูรับกับสีขาวที่หลงแทบอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้น ๆ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเห็น แต่ในเมื่อเธอตบปากรับคำแล้วว่าคืนนี้จะลองมาทดลองอยู่ด้วยกันดู จึงเป็นเหตุผลที่เธอต้องนอนค้างที่นี่อย่างจำใจ
เพราะบรรยากาศโดยรอบที่ดูโรแมนติก อีกทั้งกลิ่นอโรมาจากเทียนหอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณทำให้หลงโน้มตัวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กอย่างไม่รู้ตัวราวกับตกอยู่ในภวังค์ ทว่าเธอก็ต้องชะงักเมื่อมีมือเล็ก ๆ ดันที่หน้าอกของเธอออก
"หลง เธอจะทำอะไร" ซอลว่าพลางกับออกแรงดันร่างอีกคนให้ถอยห่าง แต่หลงกลับสู้แรงของเธอและพยายามที่จะโน้มตัวเข้ามาใกล้อีกครั้ง
"หลง!! จะทำอะไรเนี่ย"
"จะทำให้ภาพที่พี่เห็นเป็นจริงไง" หลงพยายามต้านแรงของคนตัวเล็กจนใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงแค่คืบเท่านั้น ซอลจึงพยายามเบือนหน้าหลบไปทางอื่น
"จะจูบเราเหรอ"
"ใช่"
"ไม่เอา ถอยออกไปเลยนะ"
"ทำไมล่ะคะ พี่ไม่อยากให้ภาพที่พี่เห็นเป็นจริงเหรอ"
"ก็อยาก..." ซอลตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
"ถ้าอยากก็อย่าดันสิ หลงจะจูบพี่"
"แต่วันนี้เธอจูบเราจนปากบวมหมดแล้วนะ!"
สิ้นเสียงของซอล เธอจึงออกแรงผลักร่างของหลงออก ซึ่งเรี่ยวแรงของเธอนั้นมันช่างน้อยนิดทำให้ตัวของหลงยังค้างอยู่ที่เดิม แต่เพราะริมฝีปากของเธอทั้งแดงและบวมเจ่อ หลงถึงกับหลุดขำพรืด ซอลจึงหันมามองค้อนเธอทันที
"ขำอะไรหลง มีอะไรน่าขำเหรอ"
"ว้า...โดนจูบจนปากบวมเลย แฟนใครน้า..."
"แฟนหมาหลง"
"พี่มีแฟนเป็นหมาเหรอคะ"
"ใช่! หมาบ้า! ทำไมต้องจูบเรารุนแรงขนาดนั้นด้วย!?"
"ช่วยไม่ได้...ใครบอกให้พี่ปิดบังหลงก่อนล่ะ ถูกจูบจนปากบวมมันยังน้อยไปนะคะคุณซอล" หลงพูดพลางกับอมยิ้มเจ้าเล่ห์ ซอลจึงใช้กำปั้นน้อย ๆ ทุบที่หน้าอกของเธอด้วยความมันเขี้ยว
ตุ๊บ!!
"อ๊ะ!!"
"ทีเธอรวมหัวกันกับพี่ฟามาทำให้เราร้องไห้จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับเป็นอาทิตย์ล่ะ!?"
"แต่พี่เป็นคนทำตัวเองนะคะ พี่ไม่ใช้ความจริงใจเข้าหาหลงเองนี่"
"ชิ!!" ซอลทำหน้ามุ่ยก่อนจะนั่งกอดเข่าเอาไว้ ซึ่งมันเป็นการเปิดโอกาสให้อีกคนโผเข้ามาโอบกอดล็อกตัวเธอแน่นจนไม่อาจดิ้นหลุดไปไหนได้
"หลง!! ปล่อยนะ!!"
"ยอมให้จูบก่อน หลงถึงจะปล่อย"
"ฮือ ๆ พอก่อนนะคะน้องหลง พี่ซอลไม่ไหวแล้วค่ะ ปากชาหมดแล้ว น้องหลงไม่อ่อนโยนกับปากพี่ซอลเลยสักนิด กระซิก ๆ" ซอลแสดงสีหน้าคล้าย ๆ คนกำลังจะร้องไห้ จึงทำให้หลงหัวเราะเธออย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะเอียงศีรษะไปหนุนที่หัวเข่าของเธอพลางกับอมยิ้มหน้าระรื่น ซึ่งหลงดูมีความสุขผิดจากก่อนหน้าที่เอาแต่หน้าบึ้งตึงราวกับเป็นคนละคน
"ยิ้มอะไรคะน้องหลง"
"หลงชอบเวลาพี่แทนตัวเองว่าพี่ซอลมากกว่าแทนตัวว่าเราอีก"
"เดี๋ยวเราจะแทนตัวว่าพี่ซอลกับเธอแล้วกันถ้าเธอชอบ"
"ใช้แค่ตอนอยู่กับหลงสองคนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพนักงานคนอื่น ๆ จะมองพี่ไม่ดี"
"ทำไมถึงคิดว่าจะมองเราไม่ดีล่ะ ก็ในเมื่อเราสองคนเป็นแฟนกัน จะแทนตัวว่ายังไงมันก็ไม่ผิดนะ"
"ก็ใช่ แต่หลงแค่ไม่อยากให้ใครมองพี่ไม่ดีอีกแล้ว"
"อีกแล้ว?" ซอลทวนคำของเธออีกครั้งพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม หลงจึงผงกศีรษะแทนคำตอบ
"จะบอกว่าพี่จิ้งหรีดกับฮัคเคยมองเราไม่ดีหรือด่าเราในใจงั้นสิ"
"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ จริงอยู่ว่าเราคบกันแล้ว แต่สำหรับคนอื่นที่มองมาพี่ก็คือเจ้านาย และหลงคือพนักงาน หลงไม่อยากให้ใครมองว่าพี่กันเองกับลูกน้องเกินไปจนดูไม่น่าเคารพ" 
"เราห้ามความคิดคนไม่ได้หรอกนะหลง เราไม่สนหรอกว่าใครจะคิดยังไง ก็ในเมื่อเธอคือคนรักของเรา เราก็ต้องคอยดูแลและให้เกียรติเธอสิ ไม่ใช่มัวแต่ไปแคร์คำพูดหรือความคิดของคนอื่น เราสองคนก็ไม่มีความสุขกันพอดี"
"หลงไม่ชอบเลยเวลามีคนคิดไม่ดีกับพี่ หลงไม่อยากให้ใครเกลียดพี่"
"เราบอกแล้วไงว่าเราห้ามความคิดใครไม่ได้ เธอเองก็เคยบอกเราไม่ใช่เหรอ ว่าทุกคนต่างก็มีความคิดที่สับสนวุ่นวาย เอาจริง ๆ นะหลง คนที่ด่าเราไม่ได้แปลว่าจะเกลียดเรา และสิ่งที่คิดในใจก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะทำในสิ่งที่คิด แต่เขาแค่บ่นและคิดฟุ้งซ่านกับตัวเอง"
"หลงไม่เข้าใจ"
"หลงปล่อยเราหน่อยสิ เราอยากสัมผัสเธอ"
หลงคลายอ้อมกอดอย่างว่าง่ายก่อนที่ซอลจะเอื้อมมือประคองใบหน้าของคนที่กำลังหนุนหัวเข่าของเธออยู่ ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปลูบผมสีดำขลับช้า ๆ
"เธอจำเหตุวันแรกที่เราเจอกันได้ไหม ลูกค้าที่เธอได้ยินความคิดว่าเขาขโมยหนังสือในร้านน่ะ"
"จำได้ค่ะ ทำไมเหรอคะ" หลงเอ่ยถามด้วยแววตาอันใสซื่อ ซอลจึงอมยิ้มออกมาพลางกับลูบผมของเธอด้วยความเอ็นดู
"ช่วงที่เราหายไปทบทวนตัวเอง เราไล่ดูไฟล์จากกล้องวงจรปิดในร้านจนตาแทบถลนเพื่อที่จะหาดูว่าผู้หญิงคนนั้นขโมยหนังสือในร้านตอนไหน และวันไหนบ้าง แต่เธอรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เคยขโมยหนังสือเลย"
"เพราะเป็นมุมอับของกล้องหรือเปล่าคะ หรือไม่ก็อาจจะเป็นตอนที่พี่กดข้ามเพียงเสี้ยววินาทีก็ได้"
"หลงฟังนะ มันก็มีแหละคนที่ทำทุกอย่างตามที่ใจคิด แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำอย่างนั้นได้ บางคนก็มีการยับยั้งชั่งใจ บางคนก็เตือนสติตัวเองได้ก่อนที่จะทำอะไรผิดพลาด ผู้หญิงคนนั้นก็อาจจะเป็นอย่างหลังก็ได้ ตอนที่เธอสัมผัสตัวเขา มันอาจจะเป็นช่วงที่สมองคิดฟุ้งซ่านเพราะอยากได้หนังสือเล่มนั้นจนคิดไปต่าง ๆ นานาว่าจะขโมยหนังสือหรือเคยขโมยหนังสือมาก่อนแล้ว ซึ่งความจริงเขาอาจจะไม่เคยขโมยหนังสือเลยก็ได้" หลงนั่งเงียบเพื่อที่จะฟังคนตัวเล็กพูดด้วยความตั้งใจโดยไม่แม้แต่จะพูดขัด
"ยกตัวอย่างอีกเรื่อง สมมติว่าเธอได้ยินเสียงความคิดของเรา และตอนนั้นเรากำลังงอนเธออยู่ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง แล้วบังเอิญว่าเธอมาสัมผัสตัวเราตอนที่เรากำลังคิดว่าเราเกลียดเธอแบบพอดิบพอดี ซึ่งตอนนั้นมันอาจจะเป็นความคิดที่เรากำลังฟุ้งซ่าน หรือคิดเพราะงอนอยู่ นั่นไม่ได้หมายความว่าเราเกลียดเธอจริง ๆ นะหลง เธอเข้าใจสิ่งที่เราจะบอกไหม"
"คือ...พี่จะบอกว่าทุกสิ่งที่คิดล้วนไม่จริงเหรอ"
"เปล่า เราแค่จะบอกว่า ความคิดที่เธอได้ยินมันเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น เธอต้องดูด้วยว่าตอนนั้นคนคนนั้นกำลังใช้ความคิดด้วยอารมณ์แบบไหน โกรธจนอยากประชดประชัน หรือเสียใจจนอยากตัดพ้อ และก็ต้องดูที่การกระทำควบคู่ไปด้วย เราจะตัดสินอะไรแบบผิวเผินไม่ได้นะ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาศึกษา เธอดูอย่างเราสิ เพราะเราไม่เคยแสดงท่าทีไม่ดีกับเธอเลย แต่เราเข้าหาเธอแบบเป็นมิตร เธอเลยเชื่อใจเราไง เพราะงั้นนะหลง...เราอยากให้เธอลองเปิดใจศึกษาคนอื่น ๆ นอกจากเราดู ชีวิตของเธอจะได้สดใสขึ้นเพราะมีเพื่อนที่รักและเป็นห่วงอยู่รอบ ๆ ตัวเธอเลย"
"จะมีใครรักหลงนอกจากพี่ คนที่หน้าไม่เป็นมิตรแบบหลงมีใครอยากเป็นเพื่อนด้วยเหรอ"
"มีสิ"
"ใคร"
"ที่แน่ ๆ น่ะ พี่จิ้งหรีดกับฮัครักและเป็นห่วงเธอมากเลยนะ แต่ทุกคนไม่รู้ว่าจะเข้าหาเธอยังไง" 
หลงผละศีรษะออกจากหัวเข่าคนตัวเล็ก ก่อนจะมานั่งกอดเข่าตัวเองแทน สีหน้าและแววตาของเธอดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ซอลจึงเอื้อมมือลูบศีรษะเธออีกครั้ง
"เป็นอะไรคะ"
"การที่หลงได้ยินความคิดที่สวนทางกับคำพูดมันทำให้หลงใช้ชีวิตลำบากมากเลยนะพี่ซอล จะให้หลงเปิดใจและเชื่อว่าทุกคนเป็นมิตร หลงทำไม่ได้หรอก"
"ก็ไม่ต้องฝืนตัวเองขนาดนั้นหรอก แค่ลองค่อย ๆ เรียนรู้คนอื่นดู และหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวโดยตรงอย่างที่เคยทำก็พอ" หลงนั่งเงียบ ไม่ตอบอะไร นอกจากจ้องมองเปลวเทียนที่พลิ้วไปตามแรงลม
"เธอรู้ไหมว่าทั้งพี่จิ้งหรีดและฮัคน่ะเป็นห่วงเธอสุด ๆ ถึงขั้นกล้าด่าเราเลยนะ เพราะพวกเขากลัวเราทำให้เธอเสียใจ"
"เหรอคะ" หลงหันมามองหน้าเธอด้วยแววตาอันใสซื่อ ซอลอมยิ้มพลางกับลูบศีรษะเธออยู่อย่างนั้น
"เราอยากให้เธอลองเปิดใจรับเพื่อนใหม่เข้ามาในชีวิตดูนะ"
"แค่มีพี่ก็วุ่นวายพอแล้ว"
"ฮ่า ๆ เผื่อในวันที่ไม่มีเราไงหลง เธอจะได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวบนโลกใบนี้"
"ทำไมพี่พูดแบบนั้น พี่จะไปไหน"
"เปล่าค่ะ เราแค่เปรียบให้ฟังน่ะ ช่วงที่เราหายไปทบทวนตัวเอง เราขับรถมาแอบดูเธอทุกวัน เราเห็นเธอนั่งร้องไห้คนเดียวบ่อย ๆ มันทำให้เราเจ็บปวดมาก ถ้าสมมติว่าเราไปทำธุระที่ต่างจังหวัดกับครอบครัวหลายวัน เธอจะอยู่ยังไง เธออาจจะเหงามากแน่ ๆ แต่ถ้าเธอมีเพื่อนที่สามารถพูดคุยหรือระบายความทุกข์ในใจได้ เธอจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว"
"ไม่ต้องห่วงหรอก หลงอยู่คนเดียวจนชินแล้ว"
"แต่เราก็อยากให้ทุกคนได้เห็นความน่ารักของเธอนะ"
สิ้นคำพูดของซอล รอยยิ้มเล็ก ๆ จึงแต้มบนใบหน้าของคนหน้าดุ ก่อนจะจับมือเล็กที่กำลังลูบศีรษะเธอมาวางแนบแก้มของตน และจูบลงที่กลางฝ่ามือทำให้ซอลยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
"จูบพี่ไม่ได้ งั้นจูบมือแทนแล้วกัน"
"ทำไมถึงอยากจูบขนาดนั้น ทีตอนแรกเอาแต่รำคาญและไล่เราตลอด"
"ก็พี่น่ารำคาญจริง ๆ นี่"
"รำคาญแล้วจะมาขอคบกับเราทำไม รำคาญแล้วจะอยากจูบเราทำไมล่ะเด็กปากแข็ง"
"พี่เป็นคนน่ารำคาญที่น่ารัก"
"ตลกละ! ไม่เห็นจะน่าภูมิใจเลย"
"ฮ่า ๆ พี่ชอบสร้างความรำคาญในใจหลง ทำให้หลงที่กำลังสร้างกำแพงอยู่แล้วพังทลายกำแพงของตัวเองมาด่าพี่ไง"
"โอ้โห...คำพูดคำจา ยิ่งพูดยิ่งเจ็บจี๊ด เราไม่อยากเป็นตัวน่ารำคาญสำหรับเธอ"
"แล้วพี่อยากเป็นอะไรสำหรับหลงล่ะ"
"นางฟ้า"
"ฝันไปเหอะ" ซอลมองค้อนกลับมา ทำเอาหลงถึงกับหลุดขำพรืด
"เข้าไปนอนกันเถอะ  ดึกมากแล้ว"
เมื่อซอลเอื้อมมือจะคว้าแก้วเทียนหอม หลงจึงจับที่ข้อมือของเธอเอาไว้ และจังหวะที่ซอลหันไปทางเธอเป็นจังหวะเดียวกับที่หลงโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากเข้าด้วยกัน ทำเอาซอลถึงกับดวงตาเบิกโพลง
รสจูบของหลงในครั้งนี้ช่างอ่อนโยนดุจดั่งต้องการทะนุถนอมริมฝีปากของเธออย่างไรอย่างนั้น ต่างฝ่ายต่างหลับตาพริ้มรับสัมผัสของกันและกันท่ามกลางแสงเทียนและกลิ่นหอมรัญจวนชวนลุ่มหลง ทั้งสองเอียงศีรษะปรับองศาให้ริมฝีปากประกบกันแนบแน่นขึ้น แต่เมื่อซอลแทรกลิ้นเข้าไปทักทายในโพลงปากหลงจึงรีบผละออกแล้วใช้มือปิดปากตัวเองเอาไว้
"ท...ทำไม ม...ไม่ชอบเหรอ" ซอลถามแบบตะกุกตะกักด้วยความตกใจ
"ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่..." หลงทิ้งคำเอาไว้ พลางกับเสมองไปทางอื่น ซอลจึงเอียงศีรษะมองเธอด้วยสีหน้าฉงน
"แต่อะไรคะ"
"เวลาพี่สอดลิ้นเข้ามา...มันทำให้ เอ่อ..."
"อะไร อ้ำอึ้งแบบนี้เราจะรู้เหรอ"
"มันแบบ...หวิว ๆ ตรงท้องน้อย และวูบวาบเหมือนจะเป็นลม" ซอลถึงกับหลุดขำพรืดในความไร้เดียงสาของคนหน้าดุ เธอราวกับเด็กน้อยทั้ง ๆ ที่เคยผ่านค่ำคืนแห่งความสุขด้วยกันมาแล้วแท้ ๆ
"มีอารมณ์ว่างั้น?" 
"เหรอ มันแปลว่าหลงมีอารมณ์เหรอ"
"อืม เธออยากทำแบบคืนนั้นหรือเปล่าล่ะ"
"ก็...ได้หรือเปล่าล่ะ" หลงใช้คำถามแทนการตอบ ซอลจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
"ทำตามที่ใจเธอเรียกร้องเลยหลง"
"หลงทำได้จริง ๆ เหรอ"
"ได้สิ ก็เป็นแฟนกันแล้วนี่"
"หลงทำตรงนี้ได้ใช่ไหม"
"ไม่ได้!!!!"
"ไหนบอกว่าทำได้ไง"
"เราหมายถึงทำในห้อง!! ไอ้หมาหลง!!!"


แสงสลัวจากสายไฟระย้าที่นำมาประดับตกแต่งรอบเตียงนอนส่องสะท้อนร่างคนทั้งสองที่เป็นเงาตกกระทบไปยังผนังห้องสีชมพูอ่อน กลิ่นอโรมาที่ว่าหอมมันยังไม่เท่ากลิ่นกายหอมอ่อน ๆ จากหญิงสาวตัวเล็กแม้แต่น้อย มันช่างดึงดูดและน่าลุ่มหลงราวกับฟีโรโมนที่หากได้ดอมดมแล้วยากที่จะถอนตัวได้
ชุดนอนสีชมพูถูกมือเรียวปลดกระดุมออกทีละเม็ดอย่างเชื่องช้าตามจังหวะการจูบที่อ่อนโยนเพราะกลัวว่าหากรุนแรงเกินไปจะทำให้ริมฝีปากของคนตัวเล็กบวมเจ่อมากกว่าเดิม เธอจึงต้องทะลุถนอมให้มากที่สุด ก่อนลมหายใจอุ่นและริมฝีปากของหลงจะจูบไล่ไปตามต้นคอระหงเพื่อดอมดมกลิ่นกายที่หอมรัญจวนใจก่อนเธอจะใช้ริมฝีปากเม้มขบที่ต้นคอเบา ๆ จนเจ้าของร่างถึงกับสะดุ้ง
"อ๊ะ...หลง...รุนแรงกับเราอีกแล้วนะ"
"หลงไม่อยากทำให้พี่เจ็บ แต่หลงห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย หลงอยากจูบพี่ แต่ปากพี่บวมหมดแล้ว"
"บนร่างกายของเราเธอจูบได้หมดเลย"
"พี่ชอบให้หลงจูบตรงไหนมากที่สุด"
"เราเคยบอกเธอไปแล้ว" หลงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบของเธอ ซอลจึงอมยิ้มและไม่บอกอะไรเพิ่มเติม
"พี่บอกหลงเมื่อไหร่"
"เธอสัมผัสเราตรงไหนแล้วมันทำให้เราส่งเสียงได้ ก็แปลว่าเราชอบให้เธอจูบตรงนั้นนั่นแหละ"
หลงกระตุกยิ้มมุมบางเมื่อถึงบางอ้อ ก่อนจะดึงกางเกงชุดนอนของคนตัวเล็กลงพรวดเดียวจนเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งโหยง
"ด...เดี๋ยว!!! เธอจะทำอะไร!?"
"จูบตรงนั้นของพี่ไง"
"จะบ้าเหรอ!? เธอต้องเล้าโลมเราก่อนสิ"
"หลงต้องทำยังไง"
"เฮ้อ...ทำไมเธอถึงได้ไร้เดียงสาแบบนี้นะหลง นอนลง เดี๋ยวเราจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง"
"ม...มันจะดีเหรอ"
"นอนลง" เมื่อซอลย้ำอีกครั้ง หลงจึงโน้มตัวลงอย่างว่าง่าย
ซอลนั่งมองคนใต้ร่างที่แม้จะมองผ่านแสงสลัวจากสายไฟระย้าก็ยังดูออกว่าเจ้าตัวนอนตัวเกร็งจนแข็งทื่อราวกับก้อนหิน อาจจะเพราะเป็นครั้งแรกก็เป็นได้ถึงทำให้เธอมีปฏิกิริยาแบบนี้ ซอลจึงเริ่มจากการถอดเสื้อของตนออกก่อนจนทั้งเนื้อทั้งตัวไร้ซึ่งอาภรณ์ แต่เมื่อเธอสอดมือเข้าไปที่ใต้เสื้อคอกลมตัวโคร่งสีดำ หลงก็สะดุ้งโหยงขึ้น ทำเอาซอลถึงกับชะงัก
"กลัวเหรอ"
"พี่...มันแบบ...หัวใจเต้นแรงมาก มันรู้สึกหวิว ๆ เหมือนจะเป็นลม"
"ไม่เป็นลมหรอก ใจเย็น ๆ นะ เราจะเริ่มเล้าโลมเธอก่อนแล้วกัน"
พูดจบซอลจึงลุกขึ้นมาคร่อมร่างของหลงเอาไว้ ก่อนจะก้มลงซุกไซร้ที่ต้นคอ สองมือของหลงจึงควานหาที่ยึดเกาะและขยุ้มผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ซอลรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของชีพจรที่ต้นคอสั่นระรัวมากกว่าปกติ หลงคงจะตื่นเต้นเป็นแน่ ซอลจึงโน้มตัวมาจูบที่ริมฝีปากของเธอเพื่อละลายความตื่นเต้นให้หายไป อย่างน้อยการจูบก็ทำให้เจ้าตัวเคลิบเคลิ้มได้
ทว่า...เมื่อซอลสอดลิ้นเข้าไปสำรวจในโพลงปากพร้อมกับสอดมือเข้าไปสัมผัสเรือนร่างที่ใต้เสื้อตัวโคร่ง หลงกลับดีดตัวขึ้นก่อนสองมือจะกระทุ้งเข้าที่ใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างจังจนเจ้าตัวถึงกลับหงายหลัง
พลั่ก!!
"โอ๊ย!!!! กรี๊ด!!"
โครม!!!!
"พี่ซอล!!!"
"ไอ้หมาหลง!!! เธอต่อยหน้าเราทำไม!!!? ฮือ ๆ"
"แง...พี่ซอล!! หลงไม่ได้ต่อย หลงขอโทษ"
หลงรีบตะเกียกตะกายคว้าผ้าห่มเพื่อจะเข้าไปโอบอุ้มคนตัวเล็กที่หงายหลังตกเตียงด้วยความตกใจจนลนลาน ทำให้ปลายเท้าของเธอสะดุดผ้าห่มและกลิ้งตกเตียงไปตาม ๆ กัน
"ว๊าก!!!"
โครม!!!!
บทสรุปของการทดลองอยู่ร่วมกันในคืนแรกกับค่ำคืนสุดแสนโรแมนติก คือ...
พัง!!!


วันรุ่งขึ้น
"พี่ซอล...เมื่อคืนน้องหลงขอโทษ น้องหลงไม่ได้ต่อยพี่ซอลจริง ๆ นะคะ" หลงว่าพลางกับเอาคางเกยบ่าและโอบกอดคนตัวเล็กจากข้างหลัง เพราะเจ้าตัวไม่ยอมคุยกับเธอเลยตั้งแต่เมื่อคืน ซ้ำยังได้แยกไปนอนที่โซฟาเพียงคนเดียวอีกด้วย
"พี่ซอล น้องหลงไม่ได้ตั้งใจ ยังเจ็บอยู่ไหม ขอดูหน้าหน่อยค่ะ"
"แถ่นแถ๊น!!!!" 
ซอลพลิกตัวกลับมาพร้อมกับเสื้อสเวตเตอร์สีชมพูสดใส ซึ่งลายเสื้อนั้นมีตัวอักษรภาษาอังกฤษปักเรียงกันสามตัวว่า 'SOL' ทำเอาหลงถึงกับตัวตาเบิกโพลง
"อ...อะไรเนี่ย สีเสื้ออัปมงคลมาก"
"หยายคาย!!!! เรานอนปักให้เธอทั้งคืนเลยนะ!!"
"หา!!!?"
"วันนี้เธอต้องใส่เสื้อตัวนี้ไปทำงาน"
"พี่จะบ้าเหรอ!!?"
"ไม่รู้แหละ เมื่อคืนเธอต่อยเราจนตกเตียง วันนี้เธอต้องง้อเราด้วยการใส่เสื้อที่เป็นชื่อเราไปทำงาน โฮะ ๆ"
"พี่...หลงว่าสีชมพูมันคือสีกาลกิณีของเรานะ"
"หยุดจาบจ้วงสีชมพูของเรา!!!" ซอลว่าพลางกับใช้กำปั้นทุบลงที่หน้าอกของหลงไม่ยั้ง
"โอ๊ย!! โอ๊ย!! อ๊าก!! พอแล้ว หลงเจ็บ โอ๊ย!!"
"หยุดยัง!!!? วันนี้เธอจาบจ้วงสีชมพูของเราหลายรอบแล้วนะ อยากตายไหมไอ้หมาหลง!!?"
"ย...หยุดแล้วค่ะ หลงขอโทษค่ะที่พูดไม่ดีต่อสีชมพูที่พี่ซอลโปรดปราน"
"ไถ่โทษด้วยการใส่เสื้อตัวนี้ไปทำงานหนึ่งอาทิตย์!!!"
"อะไรนะ!!!?"
"ไม่ต้องห่วงว่าจะมีกลิ่นเหงื่อ หรือกลัวเปื้อน เพราะเรามีห้าตัว แถ่นแถ๊น!!!!"
เมื่อซอลกระพือเสื้อสเวตเตอร์สีชมพูดังพรึบ ๆ หลงถึงกับอ้าปากเหวอ อยากจะวิ่งหนีไปเสียตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด หรือไม่ก็กระโจนออกนอกหน้าต่างและชักใยอย่างสไปเดอร์แมนหนีไปให้สุดขอบฟ้า เพราะหลงน่ะเกลียดสีชมพูเข้าไส้ 
จะว่าดีใจที่ได้เห็นคนรักใส่สีชมพูแล้วอารมณ์ดีมันก็ใช่ แต่หากมันจะมาประทับลงบนร่างกายของเธอนี่สิ แค่เสื้อสีชมพูก็ถือเป็นหายนะแล้ว นี่ยังปักตัวอักษรเป็นชื่อเจ้าตัวอีก...โลกแตกเลยสิ!!
"เอ้า!! ยืนเฉยอยู่ทำไมล่ะคะน้องหลง มาเอาเสื้อพี่ซอลไปใส่ซะดี ๆ"
"พี่ซอล...ขอร้องล่ะ พี่ก็เห็นว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตั้งแต่มาอยู่ห้องที่เต็มไปด้วยสีชมพู มันมีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเราทั้งนั้น ไม่เหมือนอยู่ห้องสีดำของหลงเลยสักนิด ตอนนั้นเรามีความสุขมากเลยนะ"
"นี่เธอจะโทษสีชมพูของเราเหรอ"
"ไม่ใช่อย่างนั้น"
"ถ้าไม่ใช่ก็ใส่ซะ เราจะได้รีบไปทำงานกัน"
"พี่ซอล ไม่เอา!"
"เอ๊ะ!!!"
ทันทีที่คนตัวเล็กทำหน้าดุ หลงจึงรีบถอดเสื้อสีกรมท่าโยนออกไปโดยพลัน ก่อนจะคว้าเสื้อสีชมพูสดใสเข้ามาสวมพร้อมกับชูสองนิ้วและแสยะยิ้มน่ากลัวราวกับถูกผีเข้าสิง
"น้องหลงใส่แล้วค่ะ"
"ดีมากค่ะ อย่าให้รู้นะว่าแอบถอดตอนเราไม่อยู่ ไม่งั้นเราจะให้ใส่ทั้งเดือนแน่"
"โอ้โห...นี่มันเป็นการทรมานหัวใจหลงชัด ๆ"
"ก็ใครบอกให้ต่อยเราล่ะ!!?"
"หลงไม่ได้ต่อยจริง ๆ นะคะ หลงแค่ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูกอะ"
"ไม่รู้แหละ ถือว่ากำลังง้อเราอยู่แล้วกัน"
"แล้วถ้ามีคนถามจะให้หลงตอบว่าไงอะ"
"ก็บอกว่าใส่เสื้อแฟนสิ"
"พี่...หลงจริงจัง"
"เราก็จริงจัง เหมือนติดป้ายแสดงความเป็นเจ้าของเลยเนอะ ว่าเธอเป็นของเรา คิกคิก" หลงได้แต่ทำหน้ามุ่ยคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ แต่หากมันเป็นการง้อก็คงต้องทำแบบจำใจ ก่อนคนตัวเล็กจะเขย่งเท้ามากระซิบที่ข้างหูว่า...
"ถ้าทำตัวน่ารักจะซื้อให้ใส่อีก"
"ฝันไปเหอะ!!!!"

ใครล่ะจะไปคาดคิด ว่าการเติบโตมากับสีดำทั้งชีวิต จู่ ๆ ก็มีสีชมพูมาประทับบนร่าง หากใครเดินผ่านไปผ่านมาหลงจะรีบหันหลังโดยพลัน เพราะเธอไม่ชินกับการสวมเสื้อสีชมพูเอาเสียเลย 
"หลง เดี๋ยวเอาหนังสือพวกนี้ไปจัดบนชั้นเหมือนเดิมหน่อยนะ ลูกค้าไม่เอาแล้ว"
"ค่ะ" 
หลงพูดพลางกับเดินถอยหลังมาหาผู้จัดการสาว ก่อนจะควานหากองหนังสือที่ลูกค้ายกเลิกการซื้อเมื่อสักครู่และเดินจากไปอย่างรวดเร็วจนจิ้งหรีดถึงกับคิ้วขมวด
"มีวันไหนไหมเนี่ยที่หลงมันจะทำตัวปกติ ตั้งแต่รู้จักกับคุณซอลดูเหมือนแปลกขึ้นทุกวัน"
ผู้จัดการสาวบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางกับตั้งข้อสังเกตพฤติกรรมของหลงที่ผิดไปจากเดิม เพราะหลงเอาแต่เดินถอยหลัง และหันหลังคุยกับเธอตลอดทั้งวัน ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้คุณซอลเข้าร้านเสียด้วยมันทำให้เธอแปลกใจเข้าไปใหญ่


อืด อืด อืด ~
เมื่อโทรศัพท์มือถือสั่นครืดอยู่บนโต๊ะทำงาน ซอลจึงเอื้อมมือไปกดรับทันทีโดยไม่ให้ปลายสายรอนาน
"ฮัลโหลพี่ฟา"
"ว่ายังไงจ๊ะน้องสาว พาเด็กเข้าห้องคืนแรก ราบรื่นดีไหม"
"ราบรื่นอะไรล่ะคะ พังพินาศเลยแหละ"
"อ้าว ทำไมว่างั้นล่ะ"
"จะบอกยังไงดี" ซอลว่าพลางกับเท้าคางด้วยความหนักใจ เพราะไม่รู้จะสื่อสารอย่างไรให้ปลายสายเข้าใจ
"ทำไม เกิดอะไรขึ้น หลงไม่โอเคเหรอเรื่องที่ซอลปิดบัง"
"เปล่าค่ะ เรื่องนั้นหลงโอเค"
"แล้วมันทำไม ที่ว่าพังพินาศคืออะไร"
"คือ...ตอนนี้พี่ฟาอยู่กับพี่พายไหม ซอลต้องการคำปรึกษา"
"อยู่ด้วยกันนี่แหละ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมดูน่าเป็นห่วง"
"คือ..."
"คืออะไร!?"
"ตอนพี่ฟากับพี่พาย...เอ่อ...มีอะไรกัน...เคยมีใครทำพฤติกรรมแปลก ๆ ไหม"
"อะไร!? หลงมีพฤติกรรมแปลก ๆ เหรอ"
"ก็ไม่ถึงกับแปลกหรอกค่ะ แต่แค่...หลงตื่นเต้นเกินเหตุจนต่อยซอลตกเตียงน่ะ"
"อะไรนะ!!!!?"
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“น้องหลงลู๊กกก 555555 #saveคุณซอล นะคะ”