UR Love Song | เธอคือเพลงรัก (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)

UR Love Song | เธอคือเพลงรัก (เร็ว ๆ นี้ที่ readAwrite)
ตอนที่ 6 ฝัน

"กรี๊ด!!!!!"
"โอ๊ย!!! อั่ก!! เดี๋ยวน้องฝัน!!! อ๊าก!!!"
โครม!!!!
เมื่อทอฝันตื่นขึ้นมาเห็นร่างสาวสวยที่สวมเพียงแค่อันเดอร์แวร์ นอนกอดเธอเอาไว้ เท้าน้อย ๆ ของเธอก็ทั้งเตะทั้งถีบไม่ยั้ง ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดที่มียันแบบสุดแรงจนคีตาร่วงตกเตียงทันที
"โอ๊ย.…"
'กรี๊ด!!! พี่คีตาโป๊!!! เฮ้ย!!! ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย!!!'
"พะ...พี่คีตาคะ เจ็บมากไหมคะ!!?"
เมื่อทอฝันเรียกสติกลับมาได้ เธอก็รีบก้าวลงเตียงเพื่อที่จะไปประคองร่างของรุ่นพี่ที่นอนโอดครวญอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อคีตายกมือห้ามเอาไว้
"อย่าเพิ่งมาจับ!! โอ๊ย…"
"พี่คีตา หนูขอโทษ ฮือ ๆ เจ็บมากเลยเหรอคะ"
"เจ็บสิ!!! กะจะเอาคืนพี่ทีเดียวเลยหรือไงเนี่ยฮะ!!?"
"ก็หนูบอกแล้วนี่คะว่าอย่าทำแบบนี้ แล้วพี่แก้ผ้านอนทำไมเล่า!! หนูตกใจหมด!!!"
"ก็นอนกอดกันมันร้อนนี่!! พี่ไม่ถอดหมดก็ให้เกียรติที่สุดแล้วนะ!! ถ้าจะปรับแอร์ลงก็เกรงใจ พี่กลัวหนูจะหนาว เฮ้อ...แสบชะมัด สมแล้วที่เป็นหมากระเป๋าคาบพริกขี้หนู!!"
"ตัวเล็กพริกขี้หนู!!"
"มันก็เหมือนกันนั่นแหละ!!"
"มันจะเหมือนกันได้ยังไงเล่า!!"
"ถ้าพี่เล่นกีตาร์ไม่ได้อีกจะทำไงฮะ!!?"
"เฮือก!! ขะ...ขอโทษค่า!! พี่คีตาลองขยับแขนทั้งสองข้างดูหน่อยค่ะ แขนพี่หักไหม ถ้าพี่เล่นกีตาร์ไม่ได้ หนูต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ ๆ ฮือ ๆ"
"เฮ้อ...แขนพี่ไม่เจ็บหรอก แต่จุกที่โดนถีบท้องน่ะสิ วันนี้พี่ไปซ้อมไม่ไหวแน่ ๆ"
"ฮือ...พี่คีตา...หนูขอโทษ"
"เหอะ! กรรมตามทันไวจริง ๆ"
ช่างเป็นการต้อนรับวันใหม่ที่แสนสดใสเสียจริง ราวกับว่าชีวิตต้องพบเจอกล่องสุ่มความเสี่ยงในทุกเช้า ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง บางที...ฟ้าก็ฟาดเนื้อคู่มาให้แรงเกินไป เพราะทั้งทอฝันและคีตาต่างก็ต้องเจ็บตัวอยู่ตลอดตั้งแต่มาอยู่ร่วมกัน


"กินยาหน่อยนะคะพี่คีตา เดี๋ยวพี่จะระบมเหมือนหนู"
"อ้า…" เมื่อคีตาอ้าปากรอรุ่นน้องป้อนยา ทอฝันถึงกับกลอกตามองบนทันที เพราะตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ เธอเอาแต่นั่งอยู่บนเตียงให้รุ่นน้องคอยป้อนข้าว ป้อนน้ำเพื่อเป็นการไถ่โทษ แต่ถึงกระนั้นทอฝันก็ยอมทำตามแต่โดยดี ไม่แม้จะปริปากบ่น
"มีเรียนกี่โมงคะพี่คีตา"
"วันนี้พี่ไม่มีเรียนค่ะ แล้วหนูล่ะ ทำไมไม่รีบไปเรียนล่ะคะ จะ 9 โมงแล้วนะ"
"เดี๋ยวหนูก็จะออกไปแล้วค่ะ พี่คีตาไหวไหมคะ"
"กินยาแก้ปวดก็คงดีขึ้นมั้งคะ"
"หนูขอโทษนะคะ เดี๋ยวหนูเลิกเรียนแล้วจะมาดูแลใหม่นะคะ"
"ตั้งใจเรียนนะหมากระเป๋า"
ทอฝันมองค้อนรุ่นพี่เล็กน้อยเมื่อถูกเรียกแบบนั้น ก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าผ้าสีดำแล้วเดินออกจากห้องไป


"ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรวะ"
นนนทีเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความสงสัย เพราะเธอเอาแต่นั่งเท้าคางอมยิ้มตั้งแต่เข้าเรียนจนถึงเวลาเลิกเรียนและเพื่อนคนอื่น ๆ ทยอยออกจากห้องเรียนกันหมด เธอก็ยังอยู่ท่าเดิม
"เฮ้อ…หนังผีคือแหล่งกำเนิดความรัก"
"ฮะ!?"
"ขอบคุณแกมากนะเพื่อนรัก ที่ดูหนังผีเป็นเพื่อนฉันเมื่อวาน เฮ้อ...ฉันมีความสุข...ฉันเบิกบาน...ฉัน...แอ่ก!!!"
เมื่อทอฝันมีท่าทีเคลิบเคลิ้มพร้อมกับยืนชูมือขึ้นสองข้างแล้วหมุนตัวราวกับเต้นบัลเล่ต์ นนนทีจึงม้วนกระดาษฟาดศีรษะเรียกสติเธอทันที
"นนนี่!!! ตีฉันทำไมเนี่ย!!?"
"เป็นอะไรของแกเนี่ย!!?"
"เมื่อคืนนี้ฉันนอนกอดกับพี่คีตาด้วยล่ะ โอ๊ย...ฟินสุด ๆ ไปเลย" ทอฝันทำท่าทางกอดรัดตัวเองด้วยท่าทีที่เขินอาย จนนนนทีถึงกับมองคิ้วขมวด
"หือ!? พี่คีย์ไม่ไล่ตะเพิดแกเหรอวะ!?"
"คือเมื่อคืนฉันกลัวผีมาก แล้วพี่คีตาก็เป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยฉัน พี่เขากอดปลอบฉัน โอ๊ย!! พี่คีตาอ่อนโยนมากนนนี่!! ฉันไม่ไหวแล้ว!! ฉันอยากเป็นเมียพี่เขา!! ฉันตกหลุมรักพี่คีตาจนขาแทบหักแล้ว ฮือ...สายตาที่เขามองมา ทำให้ร่างกายฉันอ่อนระทวย ฉันจะละลายลงไปกองกับพื้น โอ๊ย...มันดีมากเลยนนนี่!!!"
"เฮ้อ...แกนี่มันหนักขึ้นทุกวัน ไปกินข้าวเหอะ หิวแล้วเนี่ย!!"
"ฉันอิ่มอกอิ่มใจแล้วล่ะ"
ทอฝันพูดอย่างเคลิบเคลิ้มพลางเอามือทาบอกเอาไว้ และเดินออกจากห้องไปอย่างล่องลอย นนนทีได้แต่ยืนหน้าเหวอที่เพื่อนรักอาการหนักได้ขนาดนี้


"อ้าว สวัสดีค่ะคุณแม่"
เมื่อทอฝันกลับมาถึงหอพัก เธอจึงยกมือไหว้ผู้เป็นแม่ของรุ่นพี่อย่างนอบน้อม ก่อนหญิงวัยกลางคนจะยกมือรับไหว้ด้วยรอยยิ้ม
"เห็นคีย์ไหมลูก แม่โทรหาก็ไม่รับ จะบ่ายแล้วยังไม่ลงมากินข้าวเลย"
"น่าจะหลับอยู่บนห้องมั้งคะ พอดีเมื่อเช้า...เอ่อ...พี่คีตาไม่สบายน่ะค่ะ หนูเลยให้กินยาแล้วพักผ่อน"
"หือ? ไม่สบายเหรอ เป็นหนักหรือเปล่าลูก"
"มะ...ไม่หนักค่ะ เดี๋ยวก็คงหายค่ะ" 
'ถ้าแม่พี่คีตารู้ว่าฉันเป็นคนถีบลูกสาวเขาตกเตียงเพราะแก้ผ้านอนกอดฉัน จะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย' ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย...
"ถ้างั้นแม่ฝากเอาไข่พะโล้ขึ้นไปให้คีย์หน่อยนะลูก ของโปรดเขาล่ะ"
ผู้เป็นแม่พูดพลางหันไปถือถ้วยไข่พะโล้ยื่นมาให้ทอฝัน เธอจึงเอื้อมมือไปรับพร้อมกับย่อตัวถอนสายบัว จนคนที่เห็นถึงกับยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
"ได้ค่ะคุณแม่ เดี๋ยวหนูดูแลพี่คีตาอย่างดีเลยค่ะ หนูขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ"
"จ้าลูก ฝากด้วยนะ"


ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
"พี่คีตาคะ!!"
ทอฝันถือถ้วยไข่พะโล้มาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือเคาะประตูเรียกอีกคน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมา และไม่มีใครมาเปิดประตู คาดว่ารุ่นพี่คงกำลังหลับอยู่เป็นแน่ เธอจึงล้วงไปหยิบกุญแจห้องในกระเป๋าผ้าสีดำขึ้นมาไขแล้วค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปช้า ๆ
"อืม...หลับอยู่นี่เอง"
เมื่อเห็นว่าบนเตียงมีร่างของรุ่นพี่นอนหลับตาพริ้มอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปแล้ววางถ้วยไข่พะโล้เอาไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือข้างหัวเตียง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะไปปลุกรุ่นพี่เข้า
'ตอนหลับทำไมน่ารักแบบนี้นะ เฮ้อ...ปากพี่คีตาน่าจุ๊บจริง ๆ แก้มก็น่าหยิก ตัวก็น่ากอด อยากกระโดดคุบแล้วก็ฟัดให้กลิ่นหมดตัวเลย' ทอฝันได้แต่คิดในใจ เพราะขืนทำแบบที่ใจคิดไปล่ะก็ มีหวังโดนไล่ตะเพิดออกจากห้องอย่างไม่ต้องสงสัย เธอเอื้อมมือไปหวังจะสัมผัสใบหน้าสาวสวยแต่เธอก็ต้องชะงัก
"แม่!! แม่อย่าทิ้งคีย์ไป!!! แม่!!!" จู่ ๆ ร่างที่อยู่ในห้วงนิทราก็ร้องออกมา หากพินิจพิเคราะห์ดูแล้ว เธอคงกำลังฝันร้ายถึงขั้นนอนละเมอ และเธอก็สะดุ้งเฮือกขึ้นด้วยลมหายใจหอบแฮ่ก ๆ พร้อมกับดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลง ทอฝันจึงรีบกุมมือเธอเอาไว้
"พี่คีตาคะ! เป็นอะไรคะ"
"นะ...น้องฝัน...พี่ฝันร้าย" คีตาพูดพลางค่อย ๆ ยันร่างตัวเองลุกขึ้นนั่งช้า ๆ ก่อนจะพยายามปรับลมหายใจของตนให้เป็นปกติ แต่สีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีนัก ทอฝันจึงได้แต่มองเธอด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรนะคะพี่คีตา"
"อืม…"
"หิวไหมคะ แม่พี่ฝากพะโล้ขึ้นมาให้"
"แม่...อ๋อ...ขอบคุณนะคะ" คีตาพูดพร้อมกับค่อย ๆ ก้มหน้าลง ท่าทีของเธอดูแปลกไปจนอีกคนอดที่จะสงสัยไม่ได้
'พี่คีตาเป็นอะไรหรือเปล่านะ ทำไมมีท่าทีแปลก ๆ ...เฮ้อ...มีแต่เรื่องที่ฉันอยากรู้เต็มไปหมด แต่ฉันก็ไม่กล้าถามสักอย่าง'
"น้องฝันกินข้าวมาแล้วเหรอ"
"ยังเลยค่ะ"
"หือ!? จะบ่ายแล้วนะ ทำไมไม่กินข้าว แล้วนี่จะไปเรียนทันไหมเนี่ย"
"ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงบ่ายอาจารย์ไปธุระกะทันหันน่ะค่ะ เลยยกคราส"
"อ๋อ...สบายเลยสิ เพิ่งเปิดเทอมก็ว่างแล้ว มากินข้าวด้วยกันสิ"
"งั้นเดี๋ยวหนูขอเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ ได้ใส่แค่ตอนเช้าเอง เอาไว้ใส่ต่อพรุ่งนี้ คิกคิก"
"เน่าจริง ๆ"
"ไม่เน่าสักหน่อย เรียนห้องแอร์ ไม่มีเหงื่อเลยสักหยด"
"จ้า ๆ เอาเถอะ พี่ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ฮ่า ๆ"
ก็ถือเป็นเรื่องที่ทั้งสองเข้ากันดีล่ะนะ...


"หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน…"
เมื่อทอฝันล้างจานเสร็จ เธอเดินเข้ามาในห้องพลางลูบท้องตัวเอง คีตาจึงอมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
"ไหน ๆ ก็ว่างแล้ว นอนดูหนังกันไหม พี่มีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ เอาไว้สำหรับนอนดูหนังในห้องโดยเฉพาะเลยล่ะ"
"หูย! จริงเหรอคะ!? ดูค่ะ ๆ ดูเรื่องอะไรดีคะ"
"น้องฝันอยากดูอะไรก็เปิดเลยค่ะ พี่ดูได้หมด"
"ดูหนังรักได้ไหมคะ"
"ได้สิ พี่ดูได้หมด"
"งั้นเดี๋ยวหนูเลือกเรื่องเอง"
"อืม…"
คีตาอมยิ้ม พลางมองทอฝันที่กำลังเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุคเพื่อหาหนังดู เธอจึงเดินไปค้นหาเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ที่อยู่ลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือมาเพื่อที่จะทำโรงหนังจำลองภายในห้องนอน ก่อนจะเดินไปปิดผ้าม่านสร้างบรรยากาศ แล้วเดินกลับมานั่งบนเตียงดังเดิม


เวลาผ่านไปจนหนังฉายถึงกลางเรื่อง บรรยากาศในห้องมีเพียงแค่แสงจากเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ที่ฉายหนังรักโรแมนติกสะท้อนกับผนังห้องเท่านั้น ก่อนที่หัวใจของทอฝันจะเต้นโครมครามเมื่อรู้สึกว่าอีกคนโน้มตัวซบไหล่ของเธอเอาไว้ จนเธอเริ่มหายใจติดขัด
'ไม่เป็นตัวเองเลย เป็นการดูหนังรักที่อึดอัดมาก แล้วทำไมพี่คีตามานอนซบไหล่ฉันล่ะ หลับหรือเปล่านะ'
"พี่คีตาคะ หลับเหรอ"
"เปล่า"
"ทำไมนอนซบหนูล่ะคะ"
"ชู่ว...ตั้งใจดูหนังสิคะ ไม่ควรคุยกันในโรงหนังนะ"
"ไม่ใช่โรงหนังสักหน่อย เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้"
"ชู่ว…"
ทอฝันได้แต่นั่งเงียบและเม้มปากเอาไว้ เมื่อหนังฉายฉากสำคัญที่พระเอกและนางเอกจูบกันอย่างดูดดื่ม หัวใจเธอก็ยิ่งเต้นรัวและแรงขึ้น
'โอ๊ย...ไม่นะ…หัวใจจะวายอยู่แล้ว ได้ดูหนังรัก กับพี่คีตานี่มันควรจะแฮปปี้สิ แต่ทำไมฉันรู้สึกหวิว ๆ ในท้อง และอึดอัดแบบนี้นะ หายใจก็ไม่ทั่วท้อง'
"น้องฝันคะ…"
"คะ?"
"น้องฝันไม่ได้ชอบผู้หญิงใช่ไหม"
"ทะ...ทำไมถามแบบนั้นคะ"
"น้องฝันรังเกียจพี่หรือเปล่าคะ ที่พี่ชอบผู้หญิง"
"หนูก็บอกไปแล้วไงคะ ถ้าหนูรังเกียจพี่ หนูจะให้พี่นอนเตียงเดียวกับหนูทำไมล่ะคะ แถมตอนนี้พี่ก็นอนซบหนูแบบนี้ ถ้าหนูรังเกียจพี่ หนูคงไม่ยอมให้ทำแบบนี้หรอก"
"แล้วถ้า...พี่เกิดหวั่นไหวกับน้องขึ้นมา...น้องจะทำยังไง"
"หนูไม่ใช่สเปกพี่สักหน่อย ตัวก็เตี้ย นมก็เล็ก แถมยัง…"
ยังไม่ทันที่ทอฝันจะพูดได้จบประโยค คีตาก็โน้มตัวเข้ามาจูบเธอทันที จนเธอถึงกับอึ้ง ดวงตาทั้งสองเบิกโพลงด้วยความตกใจก่อนจะค่อย ๆ หลับเคลิ้มเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มขยับเปิดรับกันช้า ๆ มือเรียวค่อย ๆ เลื่อนมาจับมือเล็กเอาไว้แล้วประสานกันแน่นขึ้นเมื่อริมฝีปากเริ่มเร่งจังหวะตอบรับกันอย่างดูดดื่ม
ทอฝันราวกับตกอยู่ในภวังค์ เธอเคลิบเคลิ้มกับรสจูบของอีกคน จนร่างของเธอถูกดันลงนอนกับเตียงอย่างง่ายดาย ร่างคนตัวสูงโน้มมาคร่อมร่างเอาไว้ มือข้างซ้ายค้ำไปกับที่นอน ส่วนมืออีกข้างประคองใบหน้าสาวสวยตัวเล็กปรับองศาให้รับจูบได้แนบแน่นขึ้น ริมฝีปากก็บดจูบกันอยู่อย่างนั้น ก่อนจะสอดลิ้นตวัดรัดทักทายกันไปมา จนลมหายใจของทั้งสองเริ่มหอบถี่
มือเล็กประคองใบหน้าสาวสวยรุ่นพี่เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างลูบไล้ท้ายทอยก่อนจะขยุ้มเส้นผมแน่นเมื่อริมฝีปากเลื่อนมาที่ต้นคอ
"อา…"
เสียงหวานใสร้องครางออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อริมฝีปากเม้มขบต้นคอพร้อมกับลมหายใจอุ่น ๆ จนขนลุกซู่ เธอแทบจะคุมสติตัวเองเอาไว้ไม่ไหวอยู่แล้ว
"น้องฝันคะ...อยากลองมีอะไรกับผู้หญิงไหม"
เสียงหอบแผ่วร้องถามอย่างโหยหา อีกคนก็ยังคงเคลิบเคลิ้มกับรสจูบที่ต้นคอจนต้องครางตอบรับแทน
"อา…"
"ว่าไงคะ...อยากลองมีอะไรกับผู้หญิงไหม"
"อยากค่ะ…"


"น้องฝัน!!!"
"เฮือก!!!!"
เมื่อถูกเขย่าร่างทอฝันสะดุ้งโหยงตื่นจากห้วงความฝันทันที
'โอ๊ย!! ฉันฝันถึงพี่คีตาแบบนี้อีกแล้ว อยากจะบ้าตาย คนอะไรมีอิทธิพลแม้กระทั่งในฝัน!!!'
"ฝันลามกถึงพี่อีกแล้วใช่ไหม"
"อีกแล้ว!? หมายความว่าไงคะ ทำไมถามแบบนี้ล่ะคะ!?"
"ก็นอนละเมอแปลก ๆ ถึงพี่ทุกวัน วันนี้ก็คงฝันลามกอีกแน่ ๆ ละเมอ อยากค่ะ ๆ เนี่ย"
'บ้าเอ๊ย!!! อับอายที่สุด!!! แล้วทำไมฉันเป็นคนที่หลับง่ายแบบนี้เนี่ย!! ฉันหลับไปตั้งแต่ตอนไหนนะ ฮือ ๆ'
"บ้าเหรอคะพี่คีตา!! หนูจะไปฝันถึงพี่ได้ยังไง หนูไม่ได้ชอบพี่สักหน่อย"
"ย้ำจังเลยน้า...คำก็ไม่ได้ชอบ สองคำก็ไม่ได้ชอบ"
เมื่อพูดจบคีตาก็กอดอกนั่งพิงหัวเตียงจดจ่อกับหนังต่อทันที
'ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่คีตา หนูชอบพี่มาก!! ไม่สิ...ตอนนี้จะเรียกว่ารักเลยก็ได้ แต่หนูกลัวว่าพี่จะไม่อยู่กับหนูไง ฮือ ๆ'
"หนูหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะพี่คีตา"
"หนังฉายไปสิบนาทีเองมั้ง จนตอนนี้พี่ดูเรื่องที่สองแล้ว"
"ฮะ!? ดูเรื่องใหม่แล้วเหรอคะ!? โอ๊ย...ดูหนังอยู่ห้องทีไรหนูหลับกลางคันตลอดเลย"
"แล้วตอนดูกับเพื่อนหลับแบบนี้เหรอ"
"ไม่ค่ะ เพราะไม่ได้สร้างบรรยากาศจนมืดขนาดนี้ แต่ถ้าปิดผ้าม่านหนูก็หลับ"
"อืม…"
'ทำไมพี่คีตาตอบรับสั้น ๆ เองอะ เสียงเหมือนไม่พอใจเลยแฮะ คงไม่หรอกมั้ง…'
ทอฝันหันไปมองหน้าสาวสวยรุ่นพี่ที่ดูหนังอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจะหันกลับมาตั้งใจดูหนังบ้าง จนหนังฉายถึงฉากสำคัญที่พระเอกกับนางเอกจูบกันอย่างดูดดื่มราวกับภาพในฝันฉายซ้ำอีกครั้ง ทำเอาหัวใจของทอฝันเริ่มเต้นแรงขึ้น ไม่ใช่เพราะมีอารมณ์ร่วมกับการดูหนัง แต่เพราะภาพในความฝันทำให้เธอคุมสติตัวเองได้ลำบากนัก
"น้องฝันคะ…"
"อยากค่ะ!!"
เมื่อจู่ ๆ รุ่นพี่ของเธอหันมาเรียกด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับในฝัน ทอฝันก็ตอบรับทันทีราวกับถูกสะกด
"หือ!? อยากอะไรคะ ยังไม่ได้ถามเลยนะ"
"เฮ้ย!! ปะ...เปล่าค่ะ!! หนูอินกับหนังค่ะ"
"อ๋อ...อืม...คือ...น้องฝันไม่ได้ชอบผู้หญิงใช่ไหม"
"ทะ...ทำไมถามแบบนั้นคะ!?"
"พี่แค่อยากมั่นใจน่ะ ว่าน้องฝันไม่ได้ชอบผู้หญิงจริง ๆ"
"พี่จะถามหนูกี่ครั้ง หนูก็ยืนยันคำตอบเดิมค่ะ ว่าหนูไม่ได้ชอบผู้หญิง"
"อ่า...อืม..โอเค เข้าใจแล้ว"
"ทำไมเหรอคะ"
"เปล่าหรอก...แล้วเอ่อ…ถ้าพี่จะขอร้องให้น้องฝันไปเป็นนักร้องวงเรดเปเปอร์ จะได้ไหมคะ"
'ใช้คำว่าขอร้องเลยเหรอ...ทำไมกันนะ'
"ก็อย่างที่พี่เคยบอก พี่แตงโมชอบเสียงหนูมาก เลยให้พี่มาขอร้องอีกแรงน่ะ อยากให้ไปสานต่อ ช่วยลองไปพิจารณาดูอีกทีได้ไหมคะ" เมื่อคีตาไขข้อสงสัย ความรู้สึกผิดหวังเริ่มครอบงำจิตใจของทอฝันทันที
'เฮ้อ...ฉันไม่ควรหวังที่จะให้พี่คีตาหันมาสนใจฉัน ฉันไม่ตรงสเปกพี่เขาเลยสักอย่าง มันก็ไม่แปลกหรอกนะที่คนที่ขอร้องไม่ใช่พี่คีตาน่ะ…'
"ไว้หนูจะลองคิดดูนะคะ"
"จริงนะ!?"
"ค่ะ"
"..."
"..."
เมื่อสิ้นสุดบทสนทนา ความเงียบก็เข้ามาแทนที่จนทั้งสองเริ่มที่จะรู้สึกอึดอัด ต่างฝ่ายต่างอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังคงอ้ำอึ้งและข่มใจตัวเองเอาไว้ หัวใจที่เต้นตึกตักเหมือนเรียกร้องกันและกัน แต่ก็ไม่กล้าพอ ก่อนที่ทั้งสองจะกลั้นใจแล้วเปล่งเสียงเรียกออกมา
"น้องฝันคะ/พี่คีตาคะ" เสียงร้องเรียกดังขึ้นพร้อมกัน จนทั้งสองหันมามองหน้ากันอย่างอัตโนมัติ
"พี่พูดก่อนเลย/น้องพูดก่อน" อีกครั้งที่เสียงของทั้งคู่ดังประสานกัน ทอฝันจึงเบือนหน้าหนีหลบสายตาทันทีพร้อมกับเอื้อมมือมาจับปลายผมของตนม้วนไปมา ส่วนคีตาเองก็เบือนหน้าหนีพร้อมกับกำกางเกงเอาไว้แน่น
"เอ่อ...พี่คีตาพูดก่อนเลยค่ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พูดก่อนเลย"
"หนูให้เกียรติพี่พูดก่อนค่ะ"
"อะ...อืม...น้องฝันเคยหวั่นไหวกับผู้หญิงด้วยกันบ้างไหม"
"ไม่ค่ะ"
'โอ๊ย...ฉันไม่อยากโกหกพี่เขาเลย เฮ้อ…'
"งั้นเหรอ...แล้วถ้า...พี่เกิดหวั่นไหวขึ้นมา น้องฝันจะทำยังไง"
'เฮ้ย!! เหมือนในฝันเลย!! หรือว่าพี่คีตาจะจูบฉันนะ!!?'
"จะให้หนูทำยังไงได้ล่ะคะ พี่หวั่นไหวกับหนูเหรอคะ คิกคิก"
"บอกแล้วไง พี่ไม่นิยมหมากระเป๋า"
เมื่อทอฝันได้ยินแบบนั้น เธอถึงกับหน้างอ แล้วกอดอกหายใจฟึดฟัดทันที 
"ชิ!! ไม่คุยด้วยแล้ว!! คนหยาบคาย!!"
"ฮ่า ๆ ๆ"
"หัวเราะอะไรคะ เงียบเลยนะ หนูจะดูหนัง เฮ้อ! เสียอารมณ์หมดเลย"
"เสียอารมณ์อะไรคะ อยากให้พี่หวั่นไหวกับหนูเหรอ หนูแอบชอบพี่ใช่ม้า..."
"..."
"อ๊ะ ไม่ตอบ แสดงว่าชอบมากใช่ไหมหมากระเป๋า" 
"...."
"ซูเปอร์หมากระเป๋า น้องหมาน้อย"
"..."
"หมา...กระ...เป๋า"
คีตายังคงเรียกกวนประสาทรุ่นน้องไม่เลิก จนทอฝันถึงกับลมออกหู แต่เธอก็ทำเป็นหูทวนลมและพยายามดูหนังอย่างใจจดใจจ่อต่อไป
"หมากระเป๋า!! ไม่คุยกับพี่จริง ๆ เหรอ"
"ไอ้พี่คีย์!! หุบปาก!!"
"มีวิธีที่ทำให้พี่หุบปากจนหนังจบด้วยนะ รู้ไหมทำยังไง"
"ทำยังไงคะ รีบบอกมาเลย!!"
เมื่อทอฝันหันไปถามรุ่นพี่ด้วยความโมโห คีตาจึงโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ แล้วพูดอย่างแผ่วเบา
"เอาปากหวาน ๆ ของหนู มาปิดปากพี่ไว้ไงคะ"
เมื่อคีตาพูดจบ เธออมยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัยเพราะเห็นรุ่นน้องช็อกจนหน้าเหวอ ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกราวกับจงใจที่จะแกล้ง แต่ทอฝันก็ยังหัวใจเต้นโครมคราม เพราะทั้งสองอยู่ใกล้กันเพียงแค่คืบเท่านั้น จะไม่ให้หวั่นไหวก็คงไม่ได้
'กรี๊ด!!! พี่คีตาจะจูบฉัน!!!'
ตึ่ง ตึง ตึ๊ง! ~
เมื่อจู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของทอฝันดังขัดจังหวะ ทั้งสองถึงกับสะดุ้งโหยงรีบผละออกจากกันคนละทาง ทอฝันจึงรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์และวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็วราวกับติดจรวด
"นนนี่!!! โทรมาทำไมตอนนี้วะ!!!?"
"ทำไม!? แล้วนี่ไม่เปิดอ่านในเลสบุ๊คหรือไง!!?"
"อ่านอะไรอะ"
"รุ่นพี่สาขานัดตอน 5 โมงเย็นที่ห้องสมุดคณะ"
"เฮ้ย!! นี่มัน 4 โมง 40 แล้วนี่!! นัดไปทำไมอะ"
"ฉันจะไปรู้เหรอ!! แล้วทำอะไรอยู่เนี่ย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ!!"
"โอ๊ยขอโทษ ฉันดูหนังกับพี่คีตาอยู่อะ ถ้างั้นไว้เจอกันในมอนะ"
"เค ๆ ใส่ชุดนักศึกษานะ"
เมื่อคุยโทรศัพท์กับเพื่อนรักเสร็จ ทอฝันรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับเปิดไฟ ก่อนจะวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างร้อนรน จนคีตาถึงกับงง
"จะไปไหนคะ"
"รุ่นพี่สาขานัดพบค่ะ!!"
สิ้นสุดเสียงพูด ทอฝันถอดเสื้อคอกลมของตนออกทันทีอย่างคนลืมตัว ตามด้วยกางเกงขาสั้น จนทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเพียงแค่บราและแพนตี้ตัวเก่ง ทำให้มองเห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน ร่างเล็กที่ขาวเนียนน่าสัมผัสราวกับตุ๊กตา อกเป็นอก สะโพกเป็นสะโพก เอวคอดเล็ก คีตาที่มองมาถึงกับตะลึงจนตาค้าง
'เชี่ย...น้องฝันซ่อนรูปเหรอวะ…'
"น้องฝัน!"
"คะ!!?"
"ให้พี่ไปส่งไหม พี่มีมอไซต์"
"พี่คีตาไหวเหรอคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ดีขึ้นแล้ว"
"ถ้างั้นช่วยไปส่งหนูทีนะคะ พี่คีตาเห็นแว่นหนูไหมคะ!!?"
"ใส่อยู่นั่นไง!!"
"โอ๊ยจริงด้วย!! ไปค่ะ!! เดี๋ยวหนูไปไม่ทัน!!"
เมื่อสวมเข็มขัดได้ทอฝันก็รีบวิ่งมาคว้ามือของรุ่นพี่แล้ววิ่งออกไปจากห้องทันที โดยที่หนังรักก็ยังคงดำเนินเรื่องต่อ
'มือน้องฝันนุ่มชะมัด…'
เสียงคิดในใจพร้อมกับหัวใจที่เต้นโครมคราม ดวงตาทั้งสองก็จับจ้องร่างเล็กที่จับมือเธอวิ่งอยู่ ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวคงทำไปเพราะความลืมตัว แต่เธอก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร และยินดีที่จะถูกจูงมือวิ่งไปทั้งอย่างนั้น


"แฮ่ก ๆ ถึงแล้วค่ะพี่คีตา!!!"
"อืม รู้แล้ว แฮ่ก ๆ"
"ไม่เข้าไปข้างในเหรอคะ!?"
"รุ่นพี่นัดใคร?"
"นัดหนู!"
"แล้ว...จูงมือพี่วิ่งมาทำไมคะ?"
เมื่อได้ยินคำถามจากรุ่นพี่ ทอฝันรวบรวมสติตัวเองอยู่สักพักจนสมองประมวลเหตุการณ์ปัจจุบันได้ว่าเธอจูงมือรุ่นพี่วิ่งมาจนถึงตึกคณะ เธอก็ต้องหน้าเหวอ
"แว๊ก!!! หนูลืมตัว!! แง!! พี่คีตาหนูขอโทษ รองเท้าพี่ก็ไม่ได้ใส่"
"เพิ่งรู้เหรอ?"
"หนูขอโทษจริง ๆ นะคะ!!"
"แล้วรองเท้าที่หนูใส่อยู่น่ะ ก็รองเท้าพี่!!"
"แว๊ก!!! ถึงว่า!! ทำไมวิ่งไม่ถนัดเลย แฮะ ๆ" 
เมื่อก้มดูเท้าตัวเองเห็นเป็นรองเท้าแตะคู่ใหญ่ ทอฝันได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้รุ่นพี่ที่ยืนกอดอกมองเธอแบบคิ้วขมวด
"ถีบพี่ตกเตียงไม่พอ ยังพาพี่วิ่งออกมาทั้งอย่างนี้อีก ให้ตายสิ!!"
"แง...หนูขอโทษ ให้อภัยข้าน้อยด้วยนะคะ ข้าน้อยผิดไปแล้ว"
ทอฝันยกมือไหว้ขอโทษขอโพยแบบยกใหญ่ คีตาจึงอมยิ้มออกมาพร้อมส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะรุ่นน้องอย่างแผ่วเบา
"เข้าไปได้แล้ว เผื่อรุ่นพี่แจ้งอะไรเดี๋ยวไปฟังไม่ทันนะ ไว้พี่จะนั่งรอหน้าตึกแล้วกัน เดี๋ยวกลับพร้อมกัน โอเคไหม"
"ฮือ...เดี๋ยวหนูยืมรองเท้าเข้าไปก่อนนะคะ ไว้หนูจะรีบเอามาคืนนะคะ"
"ค่ะ รีบเข้าไปเถอะ"
คีตาถึงกับหัวเราะและส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดูรุ่นน้องอีกครั้งที่สวมรองเท้าคู่ใหญ่กว่าเท้าจนต้องได้วิ่งด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ เข้าไปในตึกคณะราวกับเด็ก ๆ
"หมากระเป๋าเอ๊ย…"
"คริส...คิก!!!"
"อ๊าก!!!!"
ในขณะที่คีตายืนกอดอกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่หน้าตึกคณะมนุษยศาสตร์ฯ คริสที่เดินมาเห็นก็กระโดดถีบเข้ากลางลำจนคีตาถึงกับหน้าทิ่ม
"ไหนบอกว่าตกเตียงไปซ้อมไม่ได้ แล้วมายืนอ่อยสาวมนุษย์เนี่ยนะ!!!?"
"โอ๊ย!!! มึงก็ถีบกูมาได้!! กูปวดตัวอยู่นะ!!"
"แล้วทำไมมึงมาในมอสภาพนี้วะ รองเท้าก็ไม่ใส่" หนึ่งในกลุ่มสาวสวยเอ่ยถามด้วยใบหน้าฉงนพร้อมกับสะพายกระเป๋าเบสข้างหนึ่ง และสะพายกระเป๋ากีตาร์ของคริสอีกข้าง
"น้องฝันจูงมือกูวิ่งมาน่ะสิ ส่วนรองเท้ากูน้องฝันใส่อยู่อะ"
"หือ…?? ยังไงคะเพื่อน!! เหลามา!! จูงมือมาหมายความว่าไง แล้วทำไมมาด้วยกันได้" คริสถามพลางเท้าเอวด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ก็ที่บอกว่ามีรูมเมท ก็น้องฝันเนี่ยแหละ"
"โอ!! เอ็ม!! จี!!" สามสาวคริส พู่กัน และฝ้าย ต่างอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวด้วยความตกใจ
"คุณคีย์คะ!! ที่ไม่ไปนอนกับคริสน่ะ...เพราะได้เมียใหม่แล้วใช่ไหมคะ กระซิก ๆ"
"อิคริส!! เดี๋ยวกูเตะก้านคอมึงนะ!!"
"มึงคิดว่ามึงทำกูเป็นคนเดียวหรือไง!? มา!!"
"โอ๊ยพวกมึงเลิกเถียงกันสักที ไม่อายเด็กกันหรือไง!" พู่กันร้องห้ามอย่างหัวเสีย
"เอ่อ...กูขอโทษนะที่ยกเลิกซ้อม ตอนเช้ากูรู้สึกว่าลุกไม่ไหวจริง ๆ อะ"
"ช่างเถอะ วันนี้พี่แตงโมก็ไม่อยู่ ถึงไปซ้อมก็ไม่ครบองค์อยู่ดี" คริสตอบ
"แล้วชวนน้องฝันมาเป็นนักร้องสำเร็จไหมคีย์" พู่กันเอ่ยถาม
"น้องบอกว่าขอคิดดูอีกทีน่ะ ตื๊อบ่อย ๆ เดี๋ยวก็คงยอมเองนั่นแหละ"
"ถ้าไม่ยอมก็ตีหัวแล้วลากไปห้องซ้อมเลยเชื่อกู"
"คริสมึงนี่น้า!! แล้วพวกมึงจะไปไหนกันเนี่ย"
"ไปดูน้องอะ วันนี้สาขากูมีคัดตัวนักดนตรี"
"หาวงดนตรีน้องใหม่ของสาขาน่ะนะ"
"อืม...ไปละ ไว้เจอกัน ส่วนเรื่องน้องฝันไว้ไปเหลาต่อนะเพื่อน"
คริสพูดจบก็สะบัดหน้าเดินออกไปทันทีพร้อมกับสองสาวคู่รักที่เดินจับมือกันตามไปด้วย คีตาได้แต่ปัดเสื้อของตนที่มีรอยเท้าของเพื่อนรักเพื่อนแค้นประทับไว้กลางหลัง พลางคิดอะไรในใจ
'เฮ้อ...ให้ตายสิ พวกนี้ต้องตามแซวจนความแตกแน่ ๆ'
ม้า
ไรท์แวะมาคุย~`

“อะไรคะ ๆ ความลับอะไรคะพี่คีย์ คิคิ”