กางเต็นท์เนิน 1408

กางเต็นท์เนิน 1408

สำหรับใครที่ชื่นชอบการผจญภัยด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และกางเต็นท์ท้าลมหนาว นอนนับดาวยามค่ำคืนแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ เนิน 1408 จุดกางเต็นท์สูงสุดในอีสาน ณ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว จ.เลย ค่ะ

หลังจากที่เราได้พาทุกคนไปพิชิต "ภูผาแง่ม เอเวอร์เรสแห่งท่าลี่" ที่เป็นการรับน้องสุดโหด มันส์ และฮาในบทความที่แล้ว ในบทความนี้นิลธาราก็จะไปท่องเที่ยวจังหวัดเลยอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้จะพาไปกางเต็นท์ท้าลมหนาวที่จุดสูงสุดในอีสาน กับ "เนิน 1408" ณ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย นั่นเองค่ะ ครั้งนี้รับประกันความโหด มันส์ ฮา อีกเช่นเคย และเป็นทริปที่ตราตรึงใจเรามาก ๆ อีกทริปหนึ่งเลย บันทึกการเดินทางครั้งนี้จะสนุกขนาดไหน มาเริ่มกันเลยค่ะ (ขอขอบคุณพี่สังข์ ที่อนุญาตให้นำรูปภาพจาก Gotoloei มาลงอีกเช่นเคยนะคะ)

หากพูดถึงการท่องเที่ยวในจังหวัดเลยแล้วนั้น หลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตนี้ดีในชื่อของ "อุทยานแห่งชาติภูกระดึง" สมญานามภูเขารูปหัวใจ ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปพิสูจน์รักแท้กัน แต่รู้หรือไม่ว่า จังหวัดเลยนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต และสำหรับใครที่ชื่นชอบการผจญภัยด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และกางเต็นท์ท้าลมหนาว นอนนับดาวยามค่ำคืนแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ เนิน 1408 จุดกางเต็นท์สูงสุดในอีสาน ณ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว จ.เลย ค่ะ

เส้นทาง ภูสวนทราย
เส้นทาง ภูสวนทราย
อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ตั้งอยู่ที่ ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
การเดินทางไปยังภูสวนทรายนั้น รถยนต์สามารถเข้าถึงได้สะดวกค่ะ เดินทางโดยใช้เส้นทางหมายเลข 21 ผ่านอำเภอภูเรือ และอำเภอด่านซ้ายไป จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2113 ไปจนถึงอำเภอนาแห้ว เข้าสู่ถนนหมายเลข 2168 และจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 1328 ระยะทางรวม ๆ แล้วก็ประมาณ 127 กิโลเมตรค่ะ

การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายนั้น บอกเลยว่าใครที่เมารถต้องพกยาแก้เมารถไปด้วยนะคะ เพราะดูจากเส้นทางใน Google Maps แล้วนั้น โค้งเยอะเหลือเกินนนน แถมทางดูจะโหดใช่ย่อยเลยค่ะ ตัวเราเองก็เป็นคนที่เมารถบ่อย ๆ ด้วย สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือยาแก้เมา เราเลยกินยาตั้งแต่ออกเดินทาง แต่ปรากฎว่า สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะเราไม่ได้เมารถ แต่เราเมายาแทน รู้สึกง่วงซึมตลอดเวลา คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง จนต้องไปนั่งรวบรวมสติอยู่นานเลยค่ะ 5555

ชั่งน้ำหนักและเช่าเต็นท์
ชั่งน้ำหนักและเช่าเต็นท์
เมื่อเดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือติดต่อเจ้าหน้าที่ แล้วนำใบเสร็จไปรับกุญแจที่พักของทางอุทยานค่ะ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ ทีมงานโกทูเลยจะแยกออกเป็นสองทีมด้วยกัน ทีมแรก (รวมเราด้วย) จะไปกางเต็นท์ที่ เนิน 1408 กัน เพื่อเก็บบรรยากาศมารีวิวให้กับทุก ๆ คนได้อ่านกัน ส่วนอีกทีมหนึ่งจะกลับลงมาพักที่อุทยานเพราะมีเด็กไปด้วยค่ะ เมื่อติดต่อเรียบร้อยแล้วก็นำสัมภาระไปชั่งน้ำหนัก เพื่อที่จะจ้างลูกหาบค่ะ (หากใครอยากสะพายเป้ขึ้นไปเองก็ได้เช่นกันค่ะ)

อัตราค่าบริการ (เมื่อปี 60)
ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 600 บาท/คืน (ไป-กลับ 500 บาท)
ค่าลูกหาบ 30 บาท/กิโลกรัม
เต็นท์ 150 บาท/หลัง (หากนำมาเองเสียค่ากางเต็นท์ 30 บาท/คน)
ถุงนอน 40 บาท/ถุง
ผ้าห่ม 20 บาท/ผืน
บ้านพัก 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1,200 บาท

อัตราค่าบริการปัจจุบัน ที่แตกต่างจากเดิม (ปี 65)
เต็นท์ 225 บาท/หลัง พักได้ 3 คน
ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท แผ่นรองนอน 20 บาท (ชุดละ 60 บาท)

เหนื่อยตั้งแต่ขึ้นบันได 5555
เหนื่อยตั้งแต่ขึ้นบันได 5555

เมื่อพร้อมแล้วก็ลุยโลดดดด! ขาขึ้นเราจะใช้เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า ทีมงานโกทูเลย เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเนิน 1408 ค่ะ แถมก่อนหน้านี้ไม่กี่วันก็มีปริมาณฝนอยู่ที่ 30 - 40% อาจจะพบทาก และทางที่ค่อนข้างรก ในเมื่อผ่านป่ารกร้างที่ภูผาแง่มมาแล้ว ที่นี่เหรอ อย่าได้กลัวค่ะ!

เจ้าหน้าที่อธิบายเส้นทาง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
เจ้าหน้าที่อธิบายเส้นทาง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาแล้วก็จะพบกับป้ายแผนที่ เจ้าหน้าที่ก็จะมาแนะนำเส้นทางว่าจะต้องเดินไปทางไหน ระยะทางเท่าไหร่ แล้วจะได้พบอะไรระหว่างทาง แถมยังบอกอีกว่า ที่แรกที่เราจะไปคือเนินวัดใจที่โหดสุด ๆ ทั้งสูงและชันมากยาว 1 กิโลเมตรเลย หลังจากนั้นจะได้เดินเลียบสันเขายาวไปจนถึงจุดกางเต็นท์อีก 4 กิโลเมตร โดยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง "เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ" พอได้ยินแบบนั้นแล้วโอ้โห... มันฮึด มันมีไฟมากค่ะ มากันขนาดนี้แล้ว จะเปลี่ยนใจได้อย่างไรกัน!! 

หากเธอเหนื่อยนัก หยุดพักเสียก่อน
หากเธอเหนื่อยนัก หยุดพักเสียก่อน
ฉันมาทำอะไรที่นี่... สภาพหลังจากฟิตจัด ก็คืออย่างที่เห็นค่ะ เนินแรกตัดกำลังมาก เพราะมันสูงและชันจนแทบจะกลิ้งตกเขา 5555 เราเดินไปพักไป พักแบบทุก ๆ 10 นาที เหนื่อยเหมือนจะตาย เหนื่อยจนก้าวขาไม่ออก จะยืนพักเฉย ๆ ก็ไม่ได้นะคะ ต้องเกาะต้นไม้ไว้ เพราะมันชันจริง ๆ เสื้อกันหนาวที่ใส่มาอยากจะโยนทิ้งบัดเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ได้ข้าวเหนียวหมูแดดเดียวของเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตล่ะก็ คงไม่มีนิลธารากลับมาเขียนรีวิวนี้ให้ทุกคนอ่านแน่ ๆ ค่ะ 55555 (อย่าหาฟิตกับเขากับภู)

รวมพล คนลุยภู
รวมพล คนลุยภู
หลังจากที่เดินไปบ่นไปอย่างสมบุกสมบัน ในที่สุดก็ถึงจุดหมายแรก นั่นก็คือ! "สามแยกเก้าเลี้ยว" ค่าาาา เราผ่านเนินวัดใจสุดโหดกับระยะทาง 1 กิโลเมตรมาแล้ว แม้จะฟังดูเหมือนไม่ไกล แต่ทำไมรู้สึกว่ามันยาวนานราวกับ 10 กิโลเมตร แต่อย่างน้อยหลังจากนี้ก็จะได้เดินที่ราบเลียบสันเขาแล้ว รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็ดีกว่าขึ้นเนินล่ะนะ แต่หารู้ไม่...

ฝ่าดงรกร้างเพื่อ เนิน 1408
ฝ่าดงรกร้างเพื่อ เนิน 1408
มุ่งหน้าไป เนิน 1408
มุ่งหน้าไป เนิน 1408
ที่ผ่านมาว่าโหดแล้ว แต่หารู้ไม่ว่านี่มันโหดกว่ามาก!! เพราะเราเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกของฤดูกาลท่องเที่ยว สิ่งที่เราต้องได้พบก็คือทางอันรกร้าง และฝูงทากผู้หิวกระหายเลือด ยิ่งเห็นนักท่องเที่ยวมากันกลุ่มใหญ่แบบนี้ พวกพี่ทากคงจะยิ้มหวานมาแต่ไกล นั่นเป็นเหตุให้ทีมงานของเราต่างแตกกระเจิงวิ่งหนีทากกันอย่างไม่คิดชีวิต แม้จะผ่านจุดชมวิวที่เจ้าหน้าที่บอกว่าสวยนักหนา แต่เราก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น หนีค่ะ หนีลูกเดียว ทากเยอะมากกกก อยากจะร้องไห้ เป็นช่วงชีวิตที่น่าสงสารปนขำมาก ๆ 5555

ทากตัวร้าย เลือดไม่หยุดไหลเลย
ทากตัวร้าย เลือดไม่หยุดไหลเลย
เราวิ่งหนีทากแบบไม่คิดชีวิตยิงยาวไปจนถึง จุดชมวิว "แย้งตากแดด" เพื่อที่จะนั่งพัก และเอาทากออกค่ะ ซึ่งทีมงานโกทูเลยแต่ละคนโดนทากจุ๊บเลือดไป คนละจุ๊บ สองจุ๊บ ส่วนตัวเรานั้นที่คิดว่าแต่งตัวมิดชิดที่สุดแล้ว คงไม่โดนหรอกมั้ง แต่เมื่อเราดึงขากางเกงขึ้นเท่านั้นแหละค่ะ ความระทึกขวัญก็บังเกิดทันที เพราะพี่ทากมารุมจุ๊บเลือดเราจนตัวพอง รวมแล้ว 6 ตัวด้วยกันค่ะทุกโคนนน! ณ ขณะนั้นคือช็อกและเหวอไปเลย รู้สึกขนลุกและหลอนมากกับภาพที่เลือดไหลอาบขา อยากจะร้องไห้เป็นภาษาทาก หวังว่าเธอจะเห็นใจ ~ เมื่อเอาทากออกกันแล้วเราก็เดินทางไปยังเนิน 1408 กันต่อค่ะ (ในสภาพที่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด)

ถึงแล้ว จุดกางเต็นท์สูงสุดในอีสาน เนิน 1408 ภูสวนทราย
ถึงแล้ว จุดกางเต็นท์สูงสุดในอีสาน เนิน 1408 ภูสวนทราย
ถึงเป้าหมายแล้ว พักสักหน่อยดีกว่า
ถึงเป้าหมายแล้ว พักสักหน่อยดีกว่า
แถ่นแทนแถ๊นนน! พวกเราเดินมาถึง เนิน 1408 แล้วค่าาา!! บรรยากาศข้างบนคือว้าวมากกก ลมพัดตลอดเวลา แถมยังสวยจนเกินบรรยาย ความเหนื่อยล้าที่มีหายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ ทีมงานส่วนหนึ่งก็นั่งพักกันระหว่างรอสัมภาระ และเสบียงที่ลูกหาบจะตามขึ้นมาให้โดยใช้อีกเส้นทางหนึ่งที่ใกล้กว่า (แต่ทางโหดกว่า) ส่วนเรานั้นก็เดินสำรวจรอบ ๆ จุดกางเต็นท์ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วก็เก็บภาพมาฝากทุกคนด้วยค่ะ

บังเกอร์ บนเนิน 1408 ภูสวนทราย
บังเกอร์ บนเนิน 1408 ภูสวนทราย
หากเดินไปทางฝั่งซ้ายมือของจุดกางเต็นท์ จะมีบังเกอร์หลบภัยของทหารที่ปกป้องดินแดนไทยในอดีตทอดยาวลงไป และถ้าหากจะเข้าห้องน้ำ เราก็จะต้องเดินเลียบบังเกอร์ไปประมาณ 100 เมตร ลักษณะของห้องน้ำก็จะเป็นผ้าใบคลุมรอบ ๆ สำหรับอาบน้ำและเป็นห้องสุขาค่ะ ถือว่าสะดวกเลย ระหว่างที่เดินสำรวจไม่นานเจ้าหน้าที่ก็นำเสบียงและกระเป๋าที่เหลือขึ้นมาถึง ทีมงานที่พักอยู่ด้านบนก็เริ่มกางเต็นท์ จัดเตรียมที่นอนและอาหารสำหรับค่ำคืนนี้กันค่ะ ส่วนทีมงานอีกบางส่วนก็แยกย้ายกลับไปยังที่พักด้านล่างก่อนที่ฟ้าจะมืด แต่ด้านบนก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยต่าง ๆ ตลอดทั้งคืนค่ะ
จุดกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในอีสาน ต้อง เนิน 1408
จุดกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในอีสาน ต้อง เนิน 1408

กินอาหารทะเล บนทะเลหมอก เนิน 1408
กินอาหารทะเล บนทะเลหมอก เนิน 1408
ค่ำคืนนี้ของพวกเรา มีอาหารทะเลท่ามกลางบรรยากาศสุดฟิน ภายใต้แสงดาวนับล้านดวง นอกจากอาหารทะเลก็ยังมีเมนูปิ้งย่างอื่น ๆ ด้วย แต่การจะก่อกองไฟข้างบนนั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ แต่เพราะข้างบนอากาศหนาวเย็นมาก ๆ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลด้วย จึงสามารถก่อกองไฟได้ค่ะ 

นั่งดูดาวบน เนิน 1408 ภูสวนทราย
นั่งดูดาวบน เนิน 1408 ภูสวนทราย
ดูความงดงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่นี่สิคะ ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาว ยิ่งสูงดาวก็จะยิ่งสวยอย่างที่เขาว่าจริง ๆ เราเป็นคนที่ชอบดูดาวมาก ๆ พอได้เห็นอะไรแบบนี้ท่ามกลางลมหนาว มันทำให้เราประทับใจมาก ๆ ต้องขอบคุณทีมงานที่ตั้งกล้องแล้วเก็บภาพนี้มาได้ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เท่ากับเรามองด้วยตาเปล่าอยู่ดีค่ะ มันสวยงามมากจริง ๆ และเมื่อดินเนอร์กันเสร็จแล้วนั้น ทุกคนก็แยกย้ายไปทำภารกิจส่วนตัว สาว ๆ ก็เข้านอน ส่วนหนุ่ม ๆ ก็ยังนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงรอบกองไฟกันอยู่ค่ะ แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น จู่ ๆ สาว ๆ ก็ส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นทำเอาตกอกตกใจกันยกใหญ่ พอกรูกันไปดู ปรากฎว่ามีพี่ทากบุกไปถึงในเต็นท์เลยค่ะทุกคน! จากเสียงกรี๊ดก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ แต่คืนนั้นคือหลอนทากกันทั้งคืน ทำเอานอนไม่หลับเพราะหวาดระแวงทากกันไปหมด 55555

สายหมอกยามเช้า ณ เนิน 1408
สายหมอกยามเช้า ณ เนิน 1408
เช้าของวันที่ 12 พ.ย. 60 ทีมงานเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00 น. อากาศหนาวและลมแรงมากค่ะ เวลา ณ ขณะนั้นยังต้องใช้ไฟฉายส่องทางกันอยู่เลย แต่หลังจากนั้นไม่นานพระอาทิตย์ลูกโต ๆ ก็โผล่พ้นขอบฟ้าให้เราได้ชมกันค่ะ ด้านล่างมองเห็นภูเขาและทะเลหมอก คล้ายกับเกาะแก่ง สวยและบรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ เป็นความรู้สึกที่ประทับใจไม่มีวันลืมเลย แต่ก็แอบระแวงทากไม่หาย (โดนทากล้างสมองแล้วแน่ ๆ)
ถ่ายรูปยามเช้ายอด 1408
ถ่ายรูปยามเช้ายอด 1408

ลาก่อนนะ เนิน 1408
ลาก่อนนะ เนิน 1408
เมื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นกันเต็มอิ่มแล้ว เราก็จัดเตรียมมื้อเช้ากันต่อค่ะ เป็นการกินอาหารทะเล บนทะเลหมอกที่สุดยอดมาก ๆ ต้องลองไปสัมผัสนะคะ ว่ามันจะสุดยอดขนาดไหน หลังจากนั้นก็ทำการเก็บของเพื่อเดินทางลงค่ะ ในขาลงนั้นเราจะลงอีกเส้นทางหนึ่งที่สะดวกกว่าขาขึ้น ต้องไต่เขาลงประมาณ 500 เมตร แล้วนั่งรถอีแต๊กต่อไปยังจุดกางเต็นท์ภูหัวฮ่อมค่ะ ซึ่งทางนั้น ชันและสูงกว่าทางขึ้นมาก ๆ ลักษณะจะเป็นขั้นบันไดที่เจ้าหน้าที่ได้ทำไว้ค่ะ แต่ต้องระมัดระวังเนื่องจากมีใบไม้ปกคลุมค่อนข้างมาก อาจจะทำให้ลื่นและได้รับบาดเจ็บได้ค่ะ

ขึ้นรถอีแต๊กลงภูค่ะ
ขึ้นรถอีแต๊กลงภูค่ะ
ทีมงานใช้เวลาเดินลงไม่นานนักก็ถึงจุดที่มีรถอีแต๊กรออยู่ค่ะ ระหว่างทางได้เห็นธรรมชาติมากมาย เจอทั้งเหยี่ยวตัวใหญ่ ๆ และหนองปลาตีนให้ชม โดยที่เราไม่ต้องไปไกลถึงป่าชายเลนเลย เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง จนไปถึงจุดกางเต็นท์ ภูหัวฮ่อม หลังจากนั้นก็ทำการชำระเงินค่าเช่าต่าง ๆ ในส่วนของเต็นท์ ถุงนอน ค่าหาบของ ค่านำเที่ยว ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวภูหัวฮ่อม รวม ๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็อยู่ที่ 4,740 บาทค่ะ

การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายและการพิชิต เนิน 1408 จุดกางเต็นท์สูงสุดในอีสานนี้ การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ ยอมรับเลยว่า ทางทีมงานเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหลายอย่าง มีเซอร์ไพรส์จากทาก การเดินทาง ที่ไม่คิดว่าจะท้าทายขนาดนี้ ที่สำคัญมากนั่นก็คือ ต้องสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ให้ดีก่อน และสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่
1. ยาสามัญประจำบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว ยาลดไข้ อุปกรณ์ทำแผลต่าง ๆ ค่ะ
2. รองเท้า แนะนำว่าต้องเป็นผ้าใบหรือรัดส้นนะคะ
3. อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟฉาย ยากันยุง จะให้ดีมีปูนขาว หรือถุงเท้ากันทากด้วยก็จะดีมากค่ะ
4. อาหาร น้ำ ต้องเผื่อระหว่างเดินทางด้วยนะคะ
5. ที่ขาดไม่ได้เลยคือ การเตรียมพร้อมของสภาพร่างกาย และจิตใจค่ะ (ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา)

ไส้เดือนตัวใหญ่มากกก T<>T
ไส้เดือนตัวใหญ่มากกก T<>T
ขอแถมรูปความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่เป็นการปิดท้ายแล้วกันนะคะ ไส้เดือนตัวใหญ่เท่านิ้วก้อยแบบนี้นั่นก็หมายความว่า ผืนป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากนั่นเองค่ะ การเดินทางครั้งนี้เราประทับใจเป็นอย่างมากเลย แม้จะเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันหลายอย่างก็ตาม แต่ส่วนตัวแล้วเราชอบการผจญภัยมาก ๆ ความเหนื่อยล้าที่เราได้เจอ พอไปถึงจุดหมายแล้วมันหายเหนื่อยจริง ๆ มันคือความภาคภูมิใจที่เราสามารถพิชิตสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ รวมถึงบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ สภาพอากาศที่ทำให้ทริปนี้เป็นที่ตราตรึงใจจนเราลืมไม่ลงเลยค่ะ 
ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่ดูแลทีมงานเป็นอย่างดีนะคะ หากใครอ่านแล้วอยากจะไปพิชิต เนิน 1408 ดูบ้าง ก็สามารถติดต่อจองที่พักอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 042-807616 , 094-2392498 ได้เลยค่ะ